WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Prayutยันไม่พบ 10ไอเอสในไทย 'บิ๊กตู่'วอนอย่าแตกตื่น ชี้แค่แลกเปลี่ยนข้อมูล แถมไม่ใช่คู่ขัดแย้งด้วย 'พัทยา-กรุง-ภูเก็ต'เข้ม


'บิ๊กตู่' ยันเอง ไม่พบ 10 ไอเอสเคลื่อนไหวในไทย
        วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก-ให้ช่วยกันสอดส่อง เหตุไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง มั่นใจการรักษาความปลอดภัย-เฝ้าระวัง ด้านบิ๊กป้อมสั่งเพิ่มความระมัดระวังทั้งในพัทยา-ภูเก็ต-กทม. โดยเฉพาะจุดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วมโจมตีไอเอส แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ระบุ แค่แลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าวกับรัสเซีย พร้อมให้ตรวจการเดินทางของกลุ่มดังกล่าว ส่วน "จักรทิพย์" ชี้ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เผยกลางเดือนต.ค.มี 200 นักเที่ยวซีเรียเข้ามา แต่ทยอยกลับจนเหลือ 20 คน ซึ่งก็คงเดินทางกลับ ยันไม่พบกลุ่มไอเอสในไทย ผนึกกอ.รมน.-สมช.ร่วมกันทำงาน สั่งเพิ่มคุมเข้มงานสำคัญจนถึงปีใหม่ สตม.กำชับตรวจสอบคนเข้าออกประเทศ พัทยา-ภูเก็ต-กทม. ยันไม่พบไอเอส

วันที่ 05 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9138 ข่าวสดรายวัน

บิ๊กตู่ชี้ไม่พบไอเอสเคลื่อนไหว
     เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีรัสเซียแจ้งเตือน 10 ไอเอสเข้ามาในประเทศไทยว่า ยังคงตรวจสอบอยู่ โดยให้กระทรวงกลาโหมและนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้ตรวจสอบ โดยนายสุวพันธุ์รายงานว่า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส แต่ข้อสำคัญคืออย่าไปสร้างความตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นอีก ถ้าเรามั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัย เรามีการเฝ้าระวัง ดังนั้นต้องช่วยกันไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามาหรือไม่มี 
    นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องให้ความสำคัญกับการเดินหน้าประเทศ ความอันตรายและความรุนแรงเกิดขึ้นได้ทุกที่ในโลก จะมาหรือไม่มา จะมีข่าวหรือไม่ ไม่มีทางที่เราจะรู้ได้ เพราะถ้าเกิดรู้ว่าจะมา แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเกิดขึ้นที่ใด ก็ต้องไปหากันอีก หาแล้วจะทันการก่อเหตุหรือเปล่า 
    "ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันมอง พื้นที่ของ ตัวเอง บ้านของตัวเองว่าคนเหล่านี้ที่มานั้นประหลาดหรือเปล่า มีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ หรือเปล่า แล้วรีบแจ้งตำรวจ ทำแบบนี้เดี๋ยวก็เจอ มาเท่าไรก็เจอหมด จับได้หมด แต่อย่างประเทศที่เกิดเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเขาเก่งกว่าเรา แต่เขาก็ยังป้องกันไม่ได้เลย วันนี้เลยลำบากทั้งหมด ทั้ง การท่องเที่ยวและการค้า" นายกฯ กล่าว

ยันไทยไม่เกี่ยวข้องด้วย
     เมื่อถามว่า การติดตามตัวไอเอสไม่ใช่เรื่องง่ายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆ เพราะมีการขยายตัวขึ้นทุกวัน เนื่องจากมีข่าวว่าหลายประเทศก็เข้าร่วมกับไอเอส ซึ่งมีจากทุกประเทศแต่ไม่ใช่ไทย อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน เพราะถ้ามีก็ต้องเจอและไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ประเด็นสำคัญคือเราต้องรักษาความสงบเรียบร้อย
    เมื่อถามว่า มองเป็นขบวนการจ้องทำลายเศรษฐกิจของประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยอารมณ์พร้อมย้อนถามกลับกับผู้สื่อข่าวว่า "การออกมาอย่างนี้มองสิว่าใครจะเล่นงานรัฐบาล ใครล่ะ ใครจะทำลายผม ใครที่ไปพูดกับต่างประเทศอยู่ปัจจุบัน แล้วใครที่ไม่ชอบผม ผมว่าผมเป็นคนน่ารักพอสมควร แต่ผมจะไม่น่ารักสำหรับคนบางคน คือคนที่ไม่รักชาติ ผมไม่รักด้วย ถ้าถามว่ามองยังไง ไม่มองหรอก ไปวิเคราะห์มาสิว่าใคร ใครเป็นคนพูดตอนนี้ ใครเป็นคนพูดเพื่อชักศึกเข้าบ้าน ใครที่เอาประเทศไปขายอยู่ต่างประเทศ ใคร เอ่ยชื่อมา ใคร"

แค่แลกเปลี่ยนข้อมูลกับรัสเซีย
     ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัด ระวัง หลังจากหน่วยข่าวประเทศรัสเซียแจ้งเตือนว่ามีชาวซีเรีย 10 คน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในจ.ภูเก็ต พัทยา และกทม. โดยต้องติดตามตัว พร้อมเพิ่มความระมัดระวังพื้นที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโจมตีกลุ่มไอเอส โดยเพิ่มกำลังให้เข้าไปดูแลและความปลอดภัย 
  "ส่วนไอเอสจะเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ แต่เขาบอกมาอย่างนั้น ผมสั่งให้ตำรวจสันติบาลติดตามดู รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวซีเรียในประเทศไทยกว่า 400 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่สั่งการให้เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความสงบสุข เน้นการป้องกันให้มากที่สุด โดยผมยังบอกไม่ได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ผมจะทำให้ได้และดีที่สุดในทุกพื้นที่ ซึ่งขอให้เชื่อมั่นเราจะดูแลในทุกพื้นที่ และจะบูรณาการจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม คสช. และตำรวจในส่วนพื้นที่ภูเก็ต พัทยา และกทม." พล.อ.ประวิตร กล่าว
      ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ กล่าวว่า เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าวระหว่างไทยกับรัสเซียเท่านั้น และรัสเซียมอบข้อมูลชุดนี้เพื่อให้ทางการไทยตรวจสอบว่ามีการเดินทางของกลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาไทยจริงหรือไม่ โดยข้อมูลที่ให้มาไม่มีความชัดเจนและไทยได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าไม่มีกลุ่มไอเอสอยู่จริงตามที่เป็นข่าว 
     นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี เป็นเรื่องปกติที่ต้องระมัดระวังอย่างสูงและตรวจตราให้เข้มข้น เนื่องจากสถานการณ์ ที่ผ่านมาและสถานการณ์โลก จึงต้องยกระดับการดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้น โดยขณะนี้ยังไม่พบภัยคุกคาม

จักรทิพย์ ชี้ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
    ที่ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เอกสารที่ออกมาและทุกคนสงสัย ตนสรุปเลยว่าเป็นของจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนทางธุรการที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากได้รับการเตือนจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง ก็เตือนเฝ้าระวังภายใน
     เมื่อถามว่า มองเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ประชาชนเฝ้าระวังและช่วยเป็นหูเป็นตา พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มองได้ 2 มิติ เกรงว่าประชาชนจะตื่นตระหนก แต่จริงๆ แล้วเป็นงานปกติอยู่แล้ว ชาวซีเรียมาเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 200 คน ขณะนี้ทยอยกลับแล้วเหลืออีกไม่เกิน 20 คน ซึ่งใน 20 คนพอวีซ่าหมดยังไงก็ต้องกลับ เพราะวีซ่าบังคับอยู่แล้ว ถ้าไม่ออกก็ถือว่าอยู่โดยผิดกฎหมาย
     เมื่อถามว่า มีข้อมูลของ 200 คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตนก็อยู่กับการข่าวมาโดยตลอด ก็พูดมาตลอดว่ากลุ่มไอเอสบ้านเราไม่มี และประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง

ผนึกกอ.รมน.-สมช.ทำงาน
     เมื่อถามว่า จากการข่าวที่ออกมาเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังหรือมีมาตรการรองรับอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มีอยู่แล้ว ส่วนจะรองรับอย่างไรนั้นบอกไม่ได้ ฝ่ายข่าวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสันติบาล กอ.รมน. และสมช.ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว 
    เมื่อถามว่า สามารถพูดได้หรือไม่ว่าจากการข่าวไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า บอกแล้วว่าทำงานการข่าวมาพอสมควร ไม่เห็นมีปรากฏ
    เมื่อถามว่า สำหรับพื้นที่มีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ โดยเฉพาะพัทยาและภูเก็ต ส่วนนี้ต้องเพิ่มมาตรการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้สั่งการพล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 และพล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ. จว.ชลบุรี ให้เพิ่มความเข้มตั้งแต่เดือนพ.ย. และเดือนธ.ค. เพราะมีกิจกรรมสำคัญตลอดทั้งเดือน หลังจากกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ จะมีพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระสังฆราช รวมถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 

เผยนายกฯ ห่วงความปลอดภัย
     เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงของรัสเซียประสานส่งเจ้าหน้าที่มาหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องประเทศรัสเซีย ถามต่อว่าประเทศอื่นมีหรือไม่ถ้าไม่ใช่รัสเซีย พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มี แต่ไม่บอก เรื่องอย่างนี้ไม่ควรจะพูดซี้ซั้วไปเรื่อย 
     เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร สั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า สั่งการให้เฝ้าระวังและเตือนปกติอยู่แล้ว เพราะท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของประชาชน
     เมื่อถามอีกว่าตอนนี้มีทูตประเทศไหนติดต่อขอเข้าพบหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็มีมาเข้าพบเรื่อยๆ ช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ ก็มีเข้ามาพูดคุยกัน หลังจากนั้นก็คุยกันในหลายๆ เรื่อง บางทีตนก็ไปที่สถานทูต

สตม.คุมเข้มคนเข้าออกปท.
      ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีหนังสือคำสั่งลงวันที่ 3 ธ.ค.2558 ตามที่ได้มีเหตุการณ์เกี่ยวกับการก่อการร้ายของกลุ่มไอเอสในประเทศฝรั่งเศส และอาจมีบุคคลของกลุ่มประเทศ เป้าหมาย หรือกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในประเทศขึ้นได้
      ดังนั้นจึงกำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดสตม. ให้เฝ้าระวังและเพิ่มความเข้ม ในการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ด้วยความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งการตรวจสอบหนังสือเดินทาง การบันทึกข้อมูลการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเป้าหมาย นอกจากนี้การขอต่ออยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวในทุกกรณี ให้พิจารณาเอกสารหลักฐาน เหตุผลความจำเป็น ตลอดจนพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง ด้วยความรอบครอบ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเป้าหมาย และกรณีพบเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุอันควรสงสัย ให้รีบรายงานต่อ ผู้บังคับบัญชาโดยด่วนในทุกช่องทางการสื่อสาร แล้วให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรตามลำดับชั้นส่วนหนึ่งเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข่าวดังกล่าว จากฝ่ายข่าวพิสูจน์ทราบกันหมดแล้ว ยืนยันไม่ปรากฏบุคคลตามที่มีการพูดถึง แต่ไม่ใช่ว่าจะเชื่อโดย 100 เปอร์เซ็นต์ จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในบช.น. ตรวจสอบย้อนกลับไป เพื่อเอกซเรย์พื้นที่พิสูจน์ทราบซ้ำ หวังลดความตื่นตระหนก ของประชาชน อีกทั้งสั่งการเน้นรองผบช. ผบก.และรองผบก. ที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกตารางนิ้ว ทุกหลังคาเรือน เพราะเหตุเกิดที่บริเวณแยกราชประสงค์เป็นบทเรียนสอนใจ จะต้องตรวจสอบสิ่งของ คน ยานพาหนะ รวมทั้งร้านขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน 

พัทยา-ภูเก็ตยันไม่มีไอเอส
     ที่จ.ชลบุรี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่ากลุ่มไอเอสมาแฝงตัวในเมืองพัทยาว่า ความจริงแล้วไม่ใช่ข่าวใหม่ การเฝ้าระวังพฤติกรรมของกลุ่มคนที่อาจหลบหนีคดีเข้ามา เจ้าหน้าที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และตรวจสอบข่าวกรองตลอดเวลา เบื้องต้นยืนยันว่าในเมืองพัทยาไม่มีความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยในกลุ่มไอเอสแน่นอน ในส่วนของพื้นที่เมืองพัทยาก็เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่ผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
     ที่จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคงของจังหวัด และกล่าวว่า เป็นเรื่องที่แต่ละหน่วยตรวจสอบตามพื้นที่ แต่ประเทศไทยไม่ใช่คู่กรณีกับประเทศที่เป็นข่าวอยู่ ส่วนที่มีข่าวว่าชาวซีเรียเข้ามาอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต 2 คน ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะตรวจสอบ พร้อมประเมินสถานการณ์และบูรณาการร่วมกันทั้ง 3 อำเภอได้แก่ อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ และ อ.ถลาง
     ที่จ.พังงา พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผบก.ภ. จว.พังงา เปิดเผยว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกแห่งในพื้นที่ สนธิกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวต่างชาติ ทั้งกลุ่มนักธุรกิจชาวรัสเซียและกลุ่มนักท่องเที่ยว ในพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ อาทิ พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวมีชาวรัสเซียเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจบริเวณชายทะเลหาดเขาปิหลาย ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง พื้นที่ชายทะเลหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า โดยสั่งการให้ประสานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างพื้นที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ และตำรวจสันติบาล ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!