WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

10ล

ตั้งกก.ดูแล เงินนำจับ 10 ล. คดีระเบิดกรุง ยันแบ่งครบแน่

      พล.ต.อ.จักรทิพย์ 'ผบ.ตร.'สั่งตั้งกรรมการดูแลเงิน 10 ล้าน ค่าหัวคดีบึ้มกรุง ทั้งส่วนของโอ๊ค-พานทองแท้ 7 ล้าน กับอีก 3 ล้านของ พล.ต.อ.สมยศ-อดีตผบ.ตร. ชี้ไม่มีการใช้จ่ายซี้ซั้วแน่นอน อีกทั้งไม่เคยพูด สาเหตุการระเบิดมาจากเรื่องอะไร ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ทุกสาเหตุอยู่บนโต๊ะหมด คดีนี้ยังไม่จบ แม้ได้ตัวนายอ๊อดมา ก็ต้องสืบสวนสอบสวนไปที่ประเด็นอื่นๆ ด้วย

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9077 ข่าวสดรายวัน
มอบนโยบาย - พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ประชุมมอบนโยบายแก่นายตำรวจระดับผบช.-ผบก.รวมทั้งสิ้น 355 นาย โดยเน้นย้ำการกอบกู้ภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กลับมาเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน เมื่อวันที่ 4 ต.ค.

     จากกรณี เกิดเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาทำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ศพ และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยนายอะเด็ม คาราดัก รับเป็นชายเสื้อเหลืองวางระเบิด ส่วนนายมีไรลี ยูซุฟู รับเป็นคนกดระเบิด ก่อนตำรวจแถลงสรุปคดีระเบิดว่า เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองที่ร่วมกับขบวนการขนชาวอุยกูร์ พร้อมเปิดชื่อนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว ที่ระบุว่าเป็นการ์ดคนเสื้อแดง และมีส่วนร่วมทำระเบิด อีกทั้งเป็นคนลึกลับไม่มีเลขบัตรประชาชน แต่เคยถูกจับกุมมาแล้ว 9 ครั้ง ทั้งคดีดมกาว แทงพนันฟุตบอล เสพยาบ้าและพกมีด โดยมีการตั้งฉายาว่า "อ๊อดลี้ลับ หรือ "อ๊อดลึกลับ" ต่อมาโฆษกตร. ออกมาระบุไม่ยืนยันว่านายอ๊อดเชื่อมโยง กลุ่มนปช.-การเมือง ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ออกมาระบุ นปช.ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนายอ๊อด ส่วนนายบุญเฉลียว ดุษดี ทนายความที่ประกันตัวนายอ๊อดออกมา ก็ไม่ได้เป็นทนายความนปช.แต่อย่างใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จัดตร. 5 ชุดตามจับ'อ๊อดลี้ลับ'
     ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าในคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม และท่าน้ำสาทรว่า มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และเป็นผู้กำกับดูแลคดีนี้ทั้งการสืบสวนและสอบสวนแทนตน ขณะนี้มีการติดตาม ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไปแล้วอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มที่หลบหนีไปต่างประเทศก็ประสาน ผ่านช่องทางตำรวจสากล รวมทั้งน.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ หนึ่งในผู้ต้องหาด้วย ตอนนี้ไม่รู้ว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยหรือยัง ผู้ต้องหาที่อยู่ต่างประเทศเรามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนอยู่ไม่ต้องกังวล สำหรับนายอ๊อด พยุงวงศ์นั้นมีชุดทำงาน 4-5 ชุดในการติดตามตัว
      พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร นำเงิน 7 ล้านบาทมอบให้แก่ผู้ที่สามารถจับกุมคนร้ายในคดีระเบิดได้นั้น ขณะนี้รับเงินมาแล้ว โดยเก็บไว้ที่ พล.ต.ต.หญิง ขนิษฐา เที่ยงทัศน์ ผู้บังคับการกองการเงิน (ผบก.กง.) รวมทั้งเงินอีก 3 ล้านบาท ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร. มอบให้ก่อนหน้านี้ด้วย โดย ผบก.กง. ได้รับเงินไปดำเนินการตามระเบียบบริหารการคลัง ซึ่งตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยให้ รองผบ.ตร. ฝ่ายบริหาร เป็นประธานกรรมการเข้ามาบริหารจัดการ จัดสรรให้เหมาะสมหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนจับกุม ไม่มีการใช้จ่ายซี้ซั้วแน่นอน โดยจะต้องพิจารณาว่าจะจัดสรรปันส่วนอย่างไร ทั้งตำรวจ ทหาร และที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

'บิ๊กแป๊ะ'เผยจ่อออกหมายจับอีก
      ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพานทองแท้ ตั้งข้อสังเกตมีเจ้าหน้าที่บางรายพยายามกล่าวหา โยงใยฝ่ายการเมืองบางกลุ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนมองว่าที่มีการออกไปพูดโยงถึงการเมือง เพราะตอนแรกแนวโน้มลักษณะเหตุการณ์น่าจะเป็นเช่นนั้น ต่อมาก็มีข้อมูลใหม่เป็นการคิดไปในตอนแรก ส่วนตนไม่เคยพูดว่าสาเหตุการระเบิดมาจากเรื่องอะไร ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ทุกสาเหตุอยู่บนโต๊ะหมด ผมเองไม่เคยบอกว่าสาเหตุจากเรื่องใด ทุกสาเหตุที่สงสัยเป็นไปได้หมดคดีนี้ยังไม่จบยังต้องตรวจสอบสาเหตุและเรื่องอื่นๆ ให้ตอบวันนี้พรุ่งนี้ยังไม่ได้ แม้ได้ตัวนายอ๊อดมาก็ต้องสืบสวนสอบสวนไปที่ประเด็นอื่นๆ ด้วย
      เมื่อถามว่า ให้น้ำหนักระหว่างเรื่องอุยกูร์ กับการเมืองอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ปมยังซ้อนๆ กันอยู่ ส่วนชายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดของศาลทหารนั้น ยังตรวจสอบอยู่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ คาดว่าคงไม่เกี่ยวข้อง ชุดสืบสวนสอบสวนต้องเอาเบาะแสข้อมูลทุกอย่างมาดู หากเกี่ยวข้องก็สืบสวนสอบสวนต่อไม่เกี่ยวก็ ตัดทิ้ง อย่างกรณีนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ตอนแรกไม่พบภาพวงจรปิด ต่อมาสืบสวนจนพบตนก็สั่งทำโทษตำรวจที่อาจเผอเรอขี้เกียจที่สั่งการให้ตรวจสอบแต่แรกแล้วไม่พบ
      พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการติดตามตัวนายซูแบร์ อับดุลลาร์ หรือชายเสื้อฟ้าที่นำระเบิดไปทิ้งที่ท่าน้ำสาทรนั้น มอบหมายให้พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผบ.ตร. สืบสวนติดตามโดยให้ไปประสานกับประเทศมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง จากการสืบสวนที่ตนทำเองพบว่าหนีไปทางชายแดน ไทยมาเลเซียแน่นอน ทั้งนี้ได้ไปพูดคุยกับ ผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ที่มาเลเซียควบคุมตัวไว้แล้ว ซึ่งได้ข้อมูลเป็นประโยชน์โดยทราบว่ารู้จักกับนายซูแบร์ อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้น่าจะมีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม สำหรับการทำภาพเชิงซ้อนเปรียบเทียบนายบิลาเติร์กกับภาพวงจรปิดนั้น เป็นเรื่องทางเทคนิค ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จเราไม่เร่ง แต่ขอทำให้ละเอียดที่สุด

สางปัญหา'สตม.'ต่อจาก'สมยศ'
      "สำหรับผลการตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตามที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร. ตั้งข้อสังเกตและสั่งการให้จเรตำรวจตรวจสอบนั้น ผมยังไม่เห็นรายละเอียด แต่จะตรวจสอบต่อเนื่องตามที่จเรตำรวจมีความเห็น หากใครผิดก็ต้องดำเนินการผมเคยเป็นผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานแห่งชาติมาก่อน เคยมีข้อมูลของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับพล.ต.อ.สมยศอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่มีเก่าไปหรือไม่ 6 ประเด็นที่ พล.ต.อ.สมยศสั่งการให้ตรวจสอบนั้นถือว่าครบหมดแล้ว ผมจะเข้าไปเติมเต็มบางส่วน เน้นเรื่องการป้องกันไม่ให้เอาคนไม่ดีเข้ามาในประเทศ รวมถึงการดูแลบริหารจัดการกลุ่มที่โอเวอร์สเตย์ หรืออยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต การอนุญาตคนเข้าออกยังมีจุดหละหลวมเพราะงานของสตม. นั้นมี 2 ด้านคือบริการคนเข้าออกให้รวดเร็ว ไม่ติดขัด ให้ได้รับความสะดวกสบาย ขณะที่มีมิติด้านความมั่นคงที่คาบเกี่ยวกัน แต่ปัญหาคือไทยมีช่องทางชายแดนธรรมชาติอยู่มาก" ผบ.ตร.กล่าว

ช่องสะงำตรวจเข้มหา'อ๊อดลี้ลับ'
      ส่วนที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีการเปิดให้มีตลาดนัด ไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสภ.ภูสิงห์ ได้สนธิกำลังกับทหาร และอาสารักษาดินแดนอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นำกำลังเฝ้าตรวจเข้ม รวมทั้งตั้งด่านตรวจรถยนต์ทุกชนิดที่จะเดินทางไปที่ด่านช่องสะงำ
       พล.ต.ต.บุญยศ บุญไพศาล ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาจำนวนมากนี้ ตนจึงสั่งการให้สภ.ภูสิงห์ สนธิกำลังกับทหารและอส.อำเภอภูสิงห์ ตั้งด่านตรวจเข้มก่อนที่เข้าไปถึงด่านช่องสะงำ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในเขตแดนไทย และที่สำคัญคือป้องกันไม่ให้นายอ๊อด พยุงวงศ์ ผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ หลบหนีเข้าไปในประเทศกัมพูชา เนื่องจากขณะนี้ทราบว่านายอ๊อด ยังคงหลบหนีอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามอยู่อย่างเต็มที่

เร่งสรุปสำนวนคดีบึ้มส่งอัยการ
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานข่าวแจ้งว่า คณะพนักงานสอบสวน คดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทร ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำสำนวนคดีอย่างรอบคอบรัดกุมและรวดเร็ว ทั้งนี้ล่าสุดได้มีการสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนให้เสร็จสิ้น หลังจากนำตัวนายอะเด็ม ที่รับว่าเป็นมือวางระเบิดเสื้อเหลือง และนายยูซุฟู ไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลทหารกรุงเทพเป็นครั้งที่ 4 หรือภายใน 48 วัน นับตั้งแต่ทั้งคู่ถูกนำตัวฝากขังผัดแรกเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนวนจะต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยเพื่อนำสำนวนและผู้ต้องหาส่งฟ้องต่ออัยการ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นต้นเดือนพ.ย.นี้
        ส่วนนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว ถูกออกหมายจับเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวพันคดีระเบิดด้วยนั้น มีรายงานว่าชุดสืบสวนได้พยานปากคำสำคัญ ที่ให้การว่า เคยเห็นนายอ๊อด มาหาน.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ ที่ห้องพักไมมูณา การ์เด้นโฮม ย่านมีนบุรี และนายอ๊อดเคยเอาสิ่งของบางอย่าง โดยที่พยานไม่ทราบว่าเป็นอะไรมาให้กับน.ส.วรรณา อีกด้วย โดยพนักงานสอบสวนได้นำรูปภาพประวัติของนายอ๊อด ที่เคยถูกออกหมายจับคดีระเบิดท้องที่สน.มีนบุรี ปี 57 และภาพประวัติอาชญากรที่เคยถูกจับคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปให้พยานชี้ยืนยัน ซึ่งพยานก็ได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน กระทั่งชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับนายอ๊อดพร้อมผู้ต้องหารวม 17 คน ดังกล่าว และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว

ผบช.-ผบก.รับมอบนโยบาย
      วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมรับมอบนโยบายการบริหารราชการของผบ.ตร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับตร. พร้อมทั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบช. และ ผบก. ทุกหน่วยทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย จำนวนทั้งสิ้นรวม 355 นาย
       ภายหลังที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับฟังการกล่าวรายงานจาก ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และร่วมรับชมวีดิทัศน์การบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับที่ประชุมแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กล่าวมอบนโยบายการบริหารราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ซึ่งแยกออกเป็น 6 ด้านหลักคือ
       1.การพิทักษ์ ปกป้องและเทิดพระเกียรติ เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.รักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม 3.การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม 4.การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ 5.การเร่งรัดขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ในยุคประชาคมอาเซียน 6.การเสริมสร้างความสามัคคี และการบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นหลักประกันความยุติธรรม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่มีมาตรฐาน สากล โดยได้เน้นย้ำการดำเนินการของทุก หน่วยในสังกัดให้มุ่งผลลัพธ์สุดท้ายนั่นคือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและความยุติธรรม
      ทั้งนี้ การขับเคลื่อนนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 จะอยู่ภายใต้การกำกับบริหารราชการซึ่งแบ่งออกเป็น 10 สายงาน ได้แก่ งานถวายความปลอดภัย งานบริหาร 1, 2 งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม งานความมั่นคง งานกฎหมายและสอบสวน งานต่างประเทศ งานกิจการพิเศษและจราจร งานศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติและงานจเรตำรวจ ตามที่ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งกำหนดลักษณะงานและมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้ผู้บังคับบัญชา ระดับตร. เมื่อ 1 ต.ค.2558

ผบ.ตร.ชี้ต้องเร่งกู้ภาพลบตำรวจ
      ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า นโยบายวันนี้ให้เร่งกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กลับมาเป็นที่เชื่อถือของประชาชน ตนได้เร่งระดมเรื่องนี้มากหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ขึ้นมา โดยจะแก้ทุกอย่างที่ประชาชนสัมผัสในส่วนที่ไม่ดีของตำรวจ อาทิ เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ ชอบเปรียบเทียบปรับ สิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นภาพลบที่ไม่ดีจะได้รับการแก้ไข ส่วนภาพที่ดีก็จะมีการดำเนินการตอบไป เช่น การป้องกันปราบปราม การสืบสวนคดีสำคัญ ซึ่งตนเชื่อว่าในส่วนนี้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะปรับภาพที่ไม่ดีต่อองค์การ ให้ประชาชนได้รับรู้ว่าในปีนี้ตนจะทำอะไรให้ประชาชนบ้าง ส่วนกรณีมีบ่อนการพนันหรือสถานบันเทิงที่ประชาชนมองไม่ดีนั้น ตั้งแต่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว มีบ้างเล็กน้อยที่ลักลอบเป็นธรรมดา สิ่งที่ตนต้องทำอย่างเร่งด่วนคือเรื่องของการจราจรที่เป็นภาพลบ จุดล่อแหลมมันเยอะ ทั้งนี้ได้สั่งการไปทั้งหมดแล้ว ขอให้ตนมีเวลาในการบริหารหน่วยงานสักระยะหนึ่ง จะแจ้งความคืบหน้า ชื่อว่าผบช.-ผบก.ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าควรจะทำหรือไม่ทำอะไร เพราะสิ่งที่ตนสั่งการมีความชัดเจนอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และได้ฝากให้ดูแลประชาชนให้เป็นอย่างดีทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย

ให้'ศรีวราห์'ดูแลคดีค้ามนุษย์
       ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่นั้น ในระดับรัฐบาลก็ว่ากันไปตามนโยบาย ตนทำในระดับปฏิบัติการ มอบหมายให้พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งมีความรู้ความสามารถในด้านนี้มาทำงานแทนพล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การจัดการตำรวจนอกแถวนั้น สั่งให้พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รักษาราชการแทน จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผบ.ตร. ที่รับผิดชอบ ให้ดูแลความประพฤติตำรวจที่ไม่เรียบร้อยด้วย สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับผบก. ถึง รองผบช. วาระประจำปี 2558 นั้น จะทำให้เสร็จสิ้นในสิ้นเดือนต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการออกหนังสือคำสั่งกำหนดแนวทางการแต่งตั้ง จะมีการแจ้งหน่วยงานเรื่องบัญชีระดับอาวุโสต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่าไปกังวลเรื่องการแต่งตั้ง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!