WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'ตั๊น'สะอื้นเปิดใจ-ยอมถอนสมัครแล้ว โต้ไม่เคย หมิ่น'ตร.' อ้างโดน! ตัดต่อรูป

1ตน จตภสรถอยแล้ว - "ตั๊น" น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส. เปิดแถลงยุติเดินหน้าสมัครเข้ารับราชการตำรวจ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความแตกแยก หลังเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักในแวดวง สีกากี ที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ย.

       'ตั๊น-จิตภัสร์' สะอื้น แถลงยอมถอนตัวสมัครคัดเลือกเข้าตร.เปิดใจสาเหตุอยากเป็นเพราะเป็นอาชีพทรงเกียรติ เสียสละ ทำงานหนัก รักษากฎหมาย ผดุงความยุติธรรมให้ประชาชน โต้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีตร. ยืนยันไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่มีผู้นำภาพไปตัดต่อบิดเบือน พร้อมมีจดหมายเปิดผนึกถึง ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ตร.เตะระเบิด ช่วงม็อบนกหวีดชัตดาวน์ ขอกราบคารวะที่เสียสละ ปกป้องเพื่อนตร. ส่วน "บิ๊กป้อม" ขอให้ยุติเพียงเท่านี้ ขณะที่ "สมยศ" ยันภาพชายหนุ่มคู่ตั๊นที่แพร่กันว่อนเน็ตไม่ใช่ลูกชาย

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9067 ข่าวสดรายวัน

     เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่โรงแรมดุสิตธานี กทม. น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น แถลงเปิดใจกรณีสมัครเข้ารับราชการตำรวจ สังกัดกองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (สปพ.) หรือ 191 บช.น. ว่าอยากชี้แจงพร้อมทำความเข้าใจข้อเท็จจริงว่า เรื่องดังกล่าวมีเจตนา รมณ์ ตั้งใจทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่สมัครส.ส. ทำงานการเมืองที่ผ่านมา แม้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ยังทำงานเชิงจิตอาสาตลอด 7 ปี ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนตัวขอยืนยันเกิดจากความบริสุทธิ์ใจ ที่อยากมีส่วนทำหน้าที่ตำรวจ หรือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่คอยดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนอีกทาง ซึ่งตำรวจเป็นอาชีพทรงเกียรติ เสียสละ ทำงานหนัก เป็นผู้รักษากฎหมาย เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชน

      น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ที่ผ่าน มาส่วนตัวได้ทำงานร่วมกับตำรวจบางสถานการณ์รับรู้ความทุกข์ยาก โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน ทำให้มีความเข้าใจและอยากมีส่วนร่วมในการศึกษากระบวนการทำงานของตำรวจ เพราะตำรวจยังขาดแคลนบุคลากรและงบประมาณ ซึ่งถ้ามีโอกาสส่วนตัวไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมเป็นตำรวจ การเปิดรับสมัครตำรวจมีประจำทุกปี ต้องผ่านการ คัดเลือกตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้ดำเนินการตามปกติ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ ยืนยันว่ายังไม่ได้รับบรรจุเป็นยศ ร.ต.ต. ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ และปัจจุบันยังไม่ทราบว่าจะสอบผ่านการ คัดเลือกหรือไม่

      แกนนำม็อบ กปปส. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การชุมนุมที่ผ่านมา แม้ส่วนตัวมีบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ไม่มีเจตนาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพี่น้องตำรวจ แต่ได้แสดงออกอยากให้ตำรวจเป็นที่พึ่งแท้จริงของประชาชน แม้ในสถานการณ์การชุมนุมได้เจอกับตำรวจ ต่างมีน้ำจิตน้ำใจไม่ตรีต่อกัน เพราะเข้าใจว่าต่างคนดำเนินการไปตามหน้าที่ ส่วนกรณี มีภาพปรากฏผู้หญิงคนหนึ่งทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และต่อมามีการนำภาพดังกล่าวตัดต่อว่าเป็นตนเอง ยืนยันไม่เป็นความจริง รวมถึงการให้สัมภาษณ์ในช่วงชุมนุมที่เป็นภาษาอังกฤษ มีการบิดเบือน ซึ่งไม่เป็นความจริง

    "ทุกวันนี้ น่าเป็นห่วงมาก มีการทำสงครามข่าวสาร โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงแต่ละเหตุการณ์ สะท้อนว่าสังคมไทยในปัจจุบันจมปลักในความขัดแย้ง ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน ดังนั้น เพื่อไม่ให้กรณีของดิฉัน ที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องเกิดความไม่สบายใจและถกเถียงกัน โดยเฉพาะแวดวงข้าราชการตำรวจทุกระดับชั้น อันจะทำให้กลายเป็นความไม่สงบสุขในองค์กรตำรวจ หรือขยายผลไปเป็นขัดแย้งในสังคม ดิฉันจึงตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนการคัดเลือกเป็นข้าราชการ ตำรวจ" น.ส.จิตภัสร์กล่าว

      น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ท้ายที่สุดขอบคุณ ทุกกำลังใจ และขอแสดงความเสียใจอย่าง สุดซึ้ง ที่คงไม่มีวาสนาเข้ามาทำงานตำรวจ สวมเครื่องแบบในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และพร้อมนำคำติมาพัฒนาตัวเอง และรับใช้ประชาชน ในฐานะผู้หญิงที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อทำประโยชน์ให้ทุกคนอย่างไม่ย่อท้อ และอยากเห็นคนไทยมอบความรักให้กัน แทนความเกลียดชังบนความขัดแย้งแตกแยก เพื่อเดินหน้าประเทศไทยอย่างแข็งแกร่งยั่งยืน ต่อไป

      "การตัดสินใจเข้าเป็นตำรวจ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้ปรึกษา ซึ่งพอเกิดกระแสสังคมทุกคนในบ้านให้กำลังใจทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ไม่ว่าอยู่จุดไหนก็ตาม จะมีตำแหน่ง หรือไม่มี ก็ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศต่อไป จากนี้ส่วนตัวก็จะทำงานด้านภาคประชาชนต่อไป ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ ขณะที่งานด้านการเมืองให้ถือเป็นเรื่องของอนาคต" แกนนำม็อบนกหวีดกล่าว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว น.ส. จิตภัสร์อ่านตามเอกสารที่เตรียมมา มีน้ำเสียงสั่นเครือและสีหน้าคล้ายจะร้องไห้ โดยเฉพาะช่วงที่ระบุถึงการตัดสินใจถอนตัว และไม่ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนการรับราชการตำรวจ หลังจากแถลงข่าวเสร็จ น.ส.จิตภัสร์ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงเล็กน้อย ก่อนลุกเดินออกจากห้องแถลงข่าวไปทันที

     นอกจากนี้ ยังมีจดหมายเปิดผนึกของ น.ส.จิตภัสร์ ถึง ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ตำรวจเตะระเบิด ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วงม็อบ กปปส.ชุมนุมชัตดาวน์ โดยมีเนื้อหาระบุตอนหนึ่งว่า "แม้เราจะทำหน้าที่ต่างกัน แต่ตั๊นขอกราบคารวะในการเสียสละของท่าน ที่มีให้เพื่อนพ้องของท่าน จิตใจ นักสู้ของท่านเหนือสิ่งอื่นใด ขอนับถือในการเสียสละของตัวท่านเอง เพื่อปกป้องเพื่อนพ้องของท่าน ไม่งั้นคงมีพี่น้องตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หาได้ยากกับการเสียสละ ยิ่งใหญ่ขนาดนี้"

      ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี น.ส.จิตภัสร์ แถลงถอนตัวจากการสมัครตำรวจว่า ขอให้ยุติเพียงเท่านี้ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถือว่ากระบวนการในขณะนี้ได้จบลงแล้ว อีกทั้งผลการคัดเลือกยังไม่มีข้อสรุปว่าจะได้เป็นตำรวจหรือไม่ด้วย เพราะอยู่ระหว่างรอสอบสัมภาษณ์

    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะออกกฎระเบียบกำหนดคุณสมบัติบุคคลที่จะเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ ต้องไม่เป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเป็นเรื่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมีหน้าที่กำกับนโยบายเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายปฏิบัติ

     ต่อข้อถามว่า หากน.ส.จิตภัสร์สมัครเป็นทหาร จะพิจารณาหรือไม่ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่ายังไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัวของ น.ส.จิตภัสร์ ว่าต้องการสมัครเข้าเป็นทหารหรือไม่ ยืนยันส่วนตัวไม่มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับ น.ส.จิตภัสร์ แต่นับถือกันเป็นลุงหลานเท่านั้น เพราะสนิทกับพ่อแม่ โดยเฉพาะกับคุณปู่ของ น.ส.จิตภัสร์ ยืนยันว่าพ่อแม่ไม่มีใครฝากฝังให้ดูแลน.ส.จิตภัสร์เป็นพิเศษ

      ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า หากน.ส. จิตภัสร์ ถอนตัวจากการสมัคร ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วนกรณีมีกระแสในโซเชี่ยลมีเดียอ้างว่า ร.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง ลูกชาย ถ่ายภาพร่วมกับ น.ส.จิตภัสร์ นั้น ยืนยันว่าชายในรูปไม่ใช่ลูกชาย แต่จะเป็นใครนั้นไม่ทราบ ยอมรับว่าลูกชายและน.ส.จิตภัสร์ รู้จักกันจริง ในฐานะนักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อประเทศอังกฤษเท่านั้น ส่วนตนเองนั้นก็รู้จักน.ส. จิตภัสร์ เพราะเคยเจอทั้งในประเทศไทยและอังกฤษ แต่ไม่สนิทเป็นการส่วนตัว

      ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลัง น.ส.จิตภัสร์ แถลงถอนตัวจากการสมัครเข้าเป็นตำรวจนั้น ทางคณะกรรมการคัดเลือกของ บช.น. จะสอบถามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า บช.น.จะต้องสรรหาผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งที่ว่าง หรือจะให้ยุบ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ถือว่า น.ส.จิตภัสร์ขาดคุณสมบัติการสมัครแล้ว เพราะตรวจร่างกายเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ตรวจสอบประวัติและพิมพ์ลายนิ้วมือที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร คาดว่า 1-2 วัน บช.น.จะสรุปผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!