- Details
- Category: กรมตำรวจ
- Published: Wednesday, 17 June 2015 12:01
- Hits: 5618
วั
'บิ๊กอู๋'ชงไอเดีย-ฟื้นสนามแข่งเด็กแว้น ไฟเขียวใช้ม.44 สมยศตั้งฉก.ลุย
'บิ๊กอู๋'ดันเอง รื้อฟื้นสนามแข่งแว้น หวังให้เด็กได้แสดง ออก แต่ต้องผ่านการฝึกอบรมก่อนลงแข่งแต่'บิ๊กตู่- บิ๊กต๊อก'ออกโรงค้านทันควัน เผยไม่มีงบประมาณจัดสร้างสนามใหม่ หากทำจริงก็ต้องทำทั่วประเทศ ขณะที่ตร.เผยมีปัญหา ด้านความปลอดภัย หากปล่อยให้ทำอาจ ยิ่งอันตราย ด้านวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พม. สนับสนุน เผยเป็นแนวคิดเก่าตั้งแต่ปี 48 เพราะหากมีสนามแข่งรถให้ผู้ใหญ่ก็มีให้เด็กได้เช่นกัน ขณะที่สมยศ สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจ ทุกกองบัญชาการหน่วยละ 50 นาย เร่งปราบเด็กแว้นทั่วประเทศ
นที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8967 ข่าวสดรายวัน
ท่อแว้น - ตร.ตรวจยึดท่อไอเสียจยย.ดัดแปลง 3,459 ท่อ และอะไหล่ไม่ได้มาตรฐานอีกจำนวนมาก หลังนำกำลังตรวจค้นอู่ซ่อมรถในพื้นที่บช.ภ.7 เพื่อกวาดล้างท่อไอเสียดัดแปลงที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มเด็กแว้น ที่บช.ภ.7 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.
วันที่ 16 มิ.ย. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเด็กแว้น จะต้องขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยศึกษาถึงวิธีการและจัดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดการแข่งขัน โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องการแสดงออก ซึ่งทางครอบครัวควรมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดู หรือจะทำอย่างไรที่จะทำให้เด็กได้ดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้อย่างสร้างสรรค์และถูกทาง
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหานั้น จะต้องมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการขับขี่รถที่ถูกต้องถูกวิธีและหลักความปลอดภัย เพื่อให้เด็กได้เข้าใจถึงการใช้กฎจราจร อีกทั้งอาจจะเปิดพื้นที่ให้แข่งขันอย่างถูกวิธี ซึ่งจะต้องแข่งให้ถูกหลักความปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมายและถูกวิธี ซึ่งจะต้องมีกระบวนการเชื่อมต่อทั้งการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการ อื่นๆ ก็จะต้องมีการจับกุมและยึดรถ หากกระทำผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งโรงเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบจัดทำทะเบียนประวัติกลุ่มเยาวชนนอกสถานศึกษา เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เนื่องจากพบว่าเยาวชนที่กระทำผิดไม่ได้รับการศึกษาประมาณร้อยละ 60-70
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พูดถึงเรื่องการจัดพื้นที่บวก ซึ่งเป็นการจัดทำลานกิจกรรมกีฬา เพื่อเปิดให้กลุ่มเยาวชนที่มีแรงขับเคลื่อนมากให้ใช้เวลากลางคืนมาทำกิจกรรมเล่นกีฬากัน ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายเชิงป้องกัน เนื่องจากต้องแบ่งเยาวชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีรสนิยมในการแข่งขันรถ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับสังคม ส่วนอีกกลุ่มเป็นเยาวชนที่ยังไม่มีรสนิยมในการชอบแข่งรถ แต่อาจถูกกลุ่มเพื่อนชักชวนไป จึงคิดว่าการจัดทำพื้นที่บวกจะสามารถช่วยรถปัญหาเด็กแว้นที่เกิดขึ้น เพราจะทำให้เยาวชนมีทางเลือกในการทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกตร. กล่าวว่า ผลการประชุมได้ข้อสรุปในส่วนเด็กแว้นจะแบ่งกลุ่มงานออกเป็นกลุ่ม ผู้ปกครองที่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงโทษผู้ปกครองทั้งที่มีกฎหมายบังคับใช้ แต่เจ้าหน้าที่อ้างความเห็นอกเห็นใจ หลังจากนี้หากพิสูจน์ได้ว่าผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับการกระทำผิดต้องได้รับโทษ โดยกฎหมายกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกฎหมายยังไม่เข้มงวดจะแก้กฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น สำหรับ ผู้ปกครองที่ไม่รู้เห็นหรือไม่มีส่วนร่วมในการกระทำ ความผิดต้องเข้าร่วมกระบวนการแก้ไขพฤติกรรมของเด็ก หากพบว่าบุตรหลานกระทำผิดซ้ำผู้ปกครองต้องรับโทษด้วย เอาผิดสถานที่จำหน่ายอุปกรณ์รถแต่ง ซึ่งไม่ตรงตามกฎหมาย ส่วนเยาวชนที่ทำผิดได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำประวัติ เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมรับทำตามนโยบายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะมาตรการในการปรับ ผู้ปกครอง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำมาแล้ว โดยเด็กแว้นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ตนสั่งปรับผู้ปกครองรายละ 30,000 บาท ตามกฎหมายมาตรา 26 (3) ตามมาตรา พ.ร.บ.จราจร ส่วนที่พล.ต.อ. อดุลย์เสนอจัดให้มีสนามรถของเด็กแว้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พร้อมให้มีมาตรการอย่างนี้ ในข้อกฎหมายเด็กไปแข่งรถในที่จัดให้แข่ง ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเด็กหรือมีเด็กเสียชีวิตในสนามแข่งผู้ใดจะเข้ามารับผิดชอบ ตนเองคิดว่ามีพื้นที่บวกให้เด็กมาออกกำลังกายจะดีกว่าที่เด็กจะไปรวมตัวมั่วสุมดังกล่าว
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.อดุลย์ มีแนวคิดจะสร้างสนามแข่งให้กับกลุ่มเด็กแว้นว่า ถือเป็นเรื่องดี หากมีการจัดสถานที่ไว้รองรับ มีกฎเกณฑ์และมาตรการดูแลความปลอดภัยภายในสนามแข่ง เด็กกลุ่มนี้จะได้ไม่ไปแข่งหรือซิ่งรถบนท้องถนน จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนด้วย ทั้งนี้ สิ่งใดก็ตามที่ทำแล้วไม่ผิดกฎหมายและไม่ขัดต่อศีลธรรม และเป็นความต้องการของประชาชน รัฐบาลก็ควรสนองตอบไป
"หากเราสร้างสวนสัตว์หรือลานกีฬาได้ การสร้างสนามแข่งรถก็คงไม่แตกต่างกัน หากเรามีสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันของผู้ใหญ่ได้ เราก็ควรมีสนามแข่งรถให้กับเด็กแว้นได้ด้วยเช่นกัน" นายวัฒนากล่าวและว่า รู้สึกแปลกใจที่ตนเคยมีแนวคิดเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 48 แต่ถูกวิจารณ์อย่างมาก อาจเป็นเพราะเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และอาจคิดเรื่องนี้เร็วไป จึงโดนวิจารณ์อย่างหนัก แต่พอเป็นรัฐบาลเทวดากลับไม่มีใครวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะกลัวถูกเรียกปรับทัศนคติหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมครม. ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน โดยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เตรียมเสนอที่ประชุมครม. ถึงการให้หัวหน้าคสช. ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกกฎหมายเพื่อควบคุมและแก้ปัญหาเด็กแว้น
หลังการประชุม พล.อ.ไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.รับทราบเรื่องมาตรการจัดการกลุ่มเด็กแว้นโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ส่วนมาตรการอื่นๆ ก็จะมีควบคู่ไปด้วย เช่นการหาสนามเปิดให้ทำกิจกรรมอื่น แต่ต้องไม่ใกล้ชุมชน ซึ่งตนก็สั่งให้มีการสำรวจไปแล้ว ไม่ได้คิดใช้แต่กฎหมายอย่างเดียว เพราะกฎหมายมันเป็นแค่ตัวช่วย ถ้าคนไม่ทำก็ใช้อะไรไม่ได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตัวมาตรการดังกล่าวจะออกเป็นคำสั่งคสช. โดยหลักๆ จะมีเนื้อหาระบุว่าการตระเตรียมเริ่มรวมกลุ่มก็ถือว่าปฏิบัติความผิดแล้ว โดยกฎหมายตามปกติจะมีไม่ถึงขั้นนี้ ต้องรอให้เกิดการรวมกลุ่มซิ่งขึ้นมาก่อน ซึ่งสังคมไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงจะออกคำสั่งว่าการเตรียมการรวมกลุ่มซิ่งก็ถือว่าผิดแล้ว ไม่ใช่ให้เด็กสร้างความเดือดร้อนบนถนนแล้วเราไปดำเนินการ เราปราบให้จบตรงนี้เลย เพราะการตระเตรียมรวมกลุ่มนั้นจะนำมาสู่การปฏิบัติ ฉะนั้น การริบ การกักรถจะทำได้เลย นอกเหนือจากนี้จะใช้กฎหมายเดิมก็น่าจะได้
เมื่อถามว่าจะมีการใช้จิตวิทยาเข้ามาช่วยในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ใช้หมด เพราะเป็นระบบเก่า พอศาลสั่ง นักจิตวิทยาก็เข้ามาฟื้นฟู ใช้อยู่แล้ว เราเพียงแค่ปรับเพิ่มเติม รวมถึงจะกำราบร้านค้า ร้านแต่งรถ ที่ไม่เห็นแก่สังคม ต้องยึดกันจริง ทำกันจริง ตนก็อยากวิงวอน หรือพ่อแม่ที่เห็น ก็ต้องช่วยกันมามีส่วนร่วม ส่วนมาตรการลงโทษผู้ปกครองนั้นไม่อยากจะใช้ แต่มันถึงเวลาที่สังคมเราต้องเปลี่ยนแปลง กฎหมายต้องวิวัฒนาการตามสังคมให้ทัน ปรับให้ทัน
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า สำหรับสนาม แว้นนั้นโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นยาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และการจัดหาที่ดินอาจมีปัญหา เพราะถ้าสร้างสนามขึ้นในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็ต้องสร้างให้ครบทุกจังหวัด ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ การดูแลความปลอดภัย การปฐมพยาบาล และรายจ่ายอื่นๆ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหากเป็นสนามกิจกรรมและการออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณไปเช่าสนามแข่งขันของเอกชน พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ต้องไปสอบถามว่ามีเอกชนแห่งใดจะเปิดให้เช่าหรือไม่ และก็ต้องไปดูในเรื่องของหลักการอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอให้ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาเด็กแว้นอยู่ระหว่างการพิจารณา เรามีกฎหมายอยู่เกือบทุกฉบับ มีปัญหาอยู่ว่าการดำเนินการและมาตรการทางกฎหมายมุ่งหวังให้คนได้เรียนรู้ เมื่อเกิดเหตุการณ์หรือเกิดการกระทำผิดขึ้น ก็ให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงตัว แต่เรื่องเหล่านี้บางทีก็ปล่อยปละละเลยกันมานานกลายเป็นค่านิยมของคนที่ชอบฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีการห้ามอยู่แล้วว่าห้ามแข่งรถบนเส้นทางสาธารณะ มันมีทั้งอันตรายและเกิดมลภาวะทางเสียงแต่ยังมีการกระทำตวามผิดกันอยู่ ก็ต้องพิจารณาดูว่าการใช้กฎหมายในการป้องกันกระทำความผิดนั้นเพียงพอหรือไม่ หรือจำเป็นต้องมีกฎหมายอื่นมาใช้ในช่วงนี้
"แต่ไม่ได้มุ่งหมายจะเอากันจนตาย อย่างไรก็เป็นเด็ก ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ปัญหาของเราต้องไปดูว่าทำไมเขาถึงยังมาแข่งกันตรงนี้และต้องดูด้วยว่ากลุ่มคนเหล่านี้อยู่นอกระบบการศึกษาประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่เรียนหนังสือ จึงมีเวลาว่างเยอะพอสมควร พอแม่ผู้ปกครองก็ไม่มีเวลาดูแลอยู่กับลูก จึงให้เงินไป ส่วนใหญ่เอาไปทำรถ จึงทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมา ซึ่งบอกไปหลายครั้งแล้วว่าจุดแรกครอบครัวต้องเข้มแข็ง โรงเรียนสถานศึกษาต่างๆ ต้องช่วยกันดู วันนี้เราจะใช้อำนาจและกฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ จะแก้ได้เฉพาะชั่วคราวเท่านั้น" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเปิดเป็นสนามเพื่อให้เด็กได้ใช้แข่งหรือไม่ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ให้เปิด เขามีสนามกันอยู่แล้ว ที่พัทยาก็มี ทำไมไม่ไปแข่งกัน และทำไมต้องให้เราทำเพื่อรองรับพวกที่ทำผิดกฎหมายแบบนี้ตลอด พอผิดก็จะไปหาสถานที่ให้เปิด ทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุว่าจะแข่งกันทำไม คนที่มาแข่งมีอาชีพมีรายได้อย่างไร มีความเดือดร้อนหรือไม่ ทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ ที่ผ่านมาก็เพิ่งชนตำรวจตาย มีผู้คนบาดเจ็บและสูญเสีย วันนี้อย่าสอนให้คนไม่เคารพกฎหมาย สื่อก็ต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่าเบื้องต้นจะเอาผิดกับผู้ปกครองด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น อยู่ระหว่างการหารือว่าจะรับผิดชอบกันอย่างไร คงใช้วิธีการจากเบาไปหาหนัก อย่าทำเหมือนกับเป็นไข้แล้วต้องกินยาแรงเพียงอย่างเดียว มันไม่หายก็ตายเลย เราต้องค่อยๆ ทำ และคิดว่าโดยพื้นฐานแล้วคนไม่อยากทำความผิด เพียงแต่คงต้องมีอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะภาวะทางจิตใจ อาจจะขาดความอบอุ่น ไม่ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า การดำเนินการกับเด็กแว้นจะมี 3 ขั้นตอน ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ระยะสั้นจะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการ โดยมอบนโยบายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ไปดำเนินการ เบื้องต้นสั่งการให้ทุก บก. ในเขตนครบาลและปริมณฑล ให้จัดชุดพิเศษขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับเด็กแว้นโดยเฉพาะ ชุดละ 50 นาย เพราะถ้าสับเปลี่ยนกำลังบ่อย ความเข้าใจ ความคล่องตัวจะไม่ดีพอ เพราะตำรวจต้องไปตั้งด่านตั้งแต่ 23.00-06.00 น. ต้องกลับมาทำหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรหรือสายตรวจอีก ก็จะทำให้เกิดความอ่อนล้า ปฏิบัติหน้าที่ไม่เต็มที่ แต่ถ้ามีชุดปฏิบัติงานโดยเฉพาะ จะทำให้ขีดความสามารถ ความเข้าใจ ประสบการณ์ ความคล่องตัว การประสานงานจะทำได้ดี
ส่วนระยะกลาง จะพิจารณาว่าหน่วยงานไหนที่เข้ามาเกี่ยวข้องและมีการปรับปรุงอะไรหรือไม่ ในส่วนระยะยาว จะมาดูเรื่องกฎหมาย จะต้องลงโทษกับใครบ้าง ลงโทษกับเยาวชนเพื่อจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิม 15 วัน เปลี่ยนเป็น 1 เดือนหรือ 2 เดือน ต้องดูว่าการที่นำตัวเยาวชนไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือทัศนคติเป็นเวลานานจะกระทบกระเทือนการศึกษาหรือไม่
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ลานหน้าเสาธง บช.ภ.7 ถนนเหนือวัง อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ประวุฒิ พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร พล.ต.ต.วรภัทร์ วัฒนวิศาล รองผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รองผบช.ภาค 7 รรท. ผบก.ภ. จว.นครปฐม นำของกลางที่ตรวจสอบและจับกุมร้านจำหน่ายอะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ร้านดัดแปลงสภาพรถ และรถที่มีการดัดแปลงสภาพในพื้นที่ ภ.7 รวมทั้งรถจยย.ที่ดัดแปลงสภาพ และที่ใช้แข่งขันในทางสาธารณะ เป็นท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 3,459 ท่อ ที่ไม่ได้มาตรฐานตรวจยึดจากร้านจำหน่ายอะไหล่ 468 ท่อ ยึดจากการตั้งจุดตรวจ 2,991 ท่อ วงล้อรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการดัดแปลงสภาพรถ 16 วง โครงรถจักรยานยนต์ 1 โครง อะไหล่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการดัดแปลงสภาพรถ จำนวน 61 ชิ้น รถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพ และท่อส่งเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 200 คัน ซึ่งเป็นผลจากการระดมกวาดล้างตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ