WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Rohinja


พล.ท.มนัสเปิดใจ โต้ข้อหา ไม่เกี่ยวเงินโรฮิงยา 
แจงได้มาจากธุรกิจอื่น ลั่นพร้อมมอบตัวสู้คดี ขอสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน ทบ.ตั้งกก.สอบวินัยซ้ำ สุราษฎร์ป่วน-ม็อบฮือ

     'พล.ท.มนัส' เปิดใจพร้อมสู้คดีค้าโรฮิงยา เตรียมประสานมอบตัวตร.ปาดังเบซาร์ วอนขอความเป็นธรรมสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน แจงกรณีเงินในบัญชีเป็นธุรกิจเรื่องอื่น ขณะที่บิ๊กตู่ ยันหากพบว่ามีความผิด สั่งปลดแน่ โวยสื่อถามมีทหารมีส่วนร่วมหรือไม่ ยันไม่ใช่คนสอบสวน แต่หากพาดพิงถึงใครก็ต้องโดนด้วย ด้าน บิ๊กโด่ง สั่งแม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งกรรมการสอบวินัยแล้ว 'สมยศ' แจงขั้นตอนประสานตัวโกมิกกลับมาดำเนินคดี ต้องรอพม่าตรวจสอบมีคดีค้างอยู่หรือไม่ เลขาฯสมช.เผยรัฐบาลเตรียมสืบสวนหาขบวนการเชื่อมโยง ลั่นมีเซอร์ไพรส์แน่ ที่สุราษฎร์ฯวุ่น ผู้อพยพโรฮิงยา ก่อม็อบ ไม่พอใจห้ามเอาอาหารเข้าเรือนนอน จนท.แจงหวั่นตุนเสบียงแล้วหลบหนี เด็กไทยถามโอบามาปมปัญหาโรฮิงยา สื่อนอกตีข่าวค่ายนรกในไทยและมาเลย์ มีละเมิดทางเพศเหยื่อค้ามนุษย์

 

วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8953 ข่าวสดรายวัน

ไม่พอใจ - เจ้าหน้าที่คฝ.สุราษฎร์ธานี เข้าระงับเหตุชาวโรฮิงยา ก่อเหตุประท้วงทุบทำลายข้าวของภายในโรงนอน สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ไม่พอใจที่ห้ามเอาเสบียงขึ้นไปรับประทาน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.

 

 

บิ๊กตู่ลั่นพล.ท.ผิด-ปลดแน่

      เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมรายงานถึงผลการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยการแก้ไขปัญหาโรฮิงยาอพยพมีความชัดเจนขึ้น นอกจากนี้การที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ไปร่วมประชุม Shangri-La Dialogue ครั้งที่ 14 ที่ประเทศสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกาและประเทศใหญ่ๆ ต่างพอใจในการทำงานของเรา

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุโรปและอเมริกาก็มีปัญหาอพยพ ตราบใดที่มีคนจนก็ต้องมีความขัดแย้ง และจะมีผู้นำความขัดแย้ง และการหลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหางานทำ การแก้ด้วยศึกสงครามอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องดูเรื่องเศรษฐกิจและการพัฒนาต่างๆ รัฐบาลไทยเวลาไปไหนก็จะนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ ไปเผยแพร่ ทุกประเทศเองก็พอใจ ล่าสุดไปแสดงที่สห ประชาชาติ ประเทศหมู่เกาะก็พอใจ และชื่นชมแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ซึ่งทุกอย่างในประเทศไทยกับสายตาคนต่างประเทศดีหมด ยกเว้นคนไทยด้วยกัน

    ส่วนกรณีพล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก อดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาด ใหญ่ จ.สงขลา ที่ถูกออกหมายจับเหตุเกี่ยวโยงการค้ามนุษย์นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผิดก็ว่ากันไปตามการดำเนินคดี ตนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ผิดก็ผิด มันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็ส่งฟ้องศาล ก็ปลด จะเอาอะไรกันนักหนา เราทำเหมือนกันทั้งหมดทั้งบุคคลที่อยู่ในและต่างประเทศ ใช้กฎหมายเดียวกัน จะเน้นคนโน้นคนนี้ทำไม ผิดหมด

      ผู้สื่อข่าวถามว่ามีทหารคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่รู้ ปัดโธ่เอ้ย ฉันไม่ใช่คนสอบสวน ต้องให้ตำรวจสอบมา ถ้าโยงใคร คนนั้นก็โดนด้วย แค่นั้นเอง แหม ทำเหมือนบ้านเมืองนี้ไม่มีระบบ หรือประเทศไทยอยู่ที่ผมคนเดียว ต้องสั่งทั้งหมดหรืออย่างไร วันนี้มันไม่ใช่"

 

สมช.ให้จับตามีเซอร์ไพรส์ 

      พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เบื้องต้นพล.ท.มนัสยังไม่ได้มีความผิด แต่อาจจะมีการเชื่อมโยงหรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการตามพยานและหลักฐาน ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีพยานและหลักฐานขนาดไหน และตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน "พล.ท.มนัสยังไม่ได้มีความผิด เพียงแต่ขณะนี้เป็นผู้ต้องสงสัย ส่วนเรื่องการพักราชการนั้นก็เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม"

      นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์เชื่อว่าจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะจะมีการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังโดยรัฐบาล สิ่งที่หมักหมมในอดีตฟุ้งขึ้นมาแล้วจะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ทำให้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น หากเราไม่ทำอย่างจริงจังก็จะเกิดการกดทับปัญหาอย่างเดิม

     เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ สมช.ได้ข่าว พล.ท. มนัส เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์บ้างหรือไม่ เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ไม่ได้ข่าว แต่ได้จากการขยายผล ต่อไปเราจะเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็น และไม่คิดว่าจะมีสิ่งที่เรานึกไม่ถึง เราพยายามทำงานตรงนี้อย่างเต็มที่ แต่ระบบบริหารแรงงาน ปัจจุบันพยายามให้จดทะเบียน และดูแลให้มากขึ้นขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่แอบแฝง ซ่อนเร้น โดยรัฐบาลกำลังเร่งปราบปรามอยู่ 

 

บิ๊กโด่งตั้งแม่ทัพภาค 4 สอบ

      พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. กล่าวว่า พล.ท.มนัสต้องมีสิทธิในการชี้แจงรวบรวมหลักฐานข้อมูลเพื่อต่อสู้ในคดี ต้องให้โอกาสและความเป็นธรรม แต่ว่าตามหลักฐานที่ได้ประสานงานและออกหมายจับนั้นมีความชัดเจนในระดับหนึ่งว่าพล.ท.มนัสมีความผิดซึ่งกองทัพบกต้องตรวจสอบต่อไป จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมีแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม 

     "กองทัพบกจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด เราจะลงโทษโดยเด็ดขาด อีกทั้งคดีนี้ต่างประเทศยังให้ความสนใจ ใครที่ทำดี เราจะดูแล ส่วนคนทำผิดเราจะลงโทษ" พล.อ.อุดมเดชกล่าว และว่า หลังจากมีการสั่งพักราชการพล.ท.มนัส ให้หยุดการทำงานและหยุดการให้เงินเดือน เพื่อรอผลการสอบสวน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่มีการขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แต่พล.ท.มนัสน่าจะมีความรู้จักหรือเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่ถูกชี้ชัดว่ากระทำความผิด เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องสืบข้อมูลกันต่อไป 

      พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย พล.ท.มนัส ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด และยังไม่มีโอกาสได้พบ พล.ท.มนัส แต่ทราบว่าได้ติดต่อขอเข้ามอบ ตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยทุกอย่างต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หากมีกำลังพลคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้ามนุษย์ ก็ต้องถูกดำเนินการทั้งหมดไม่มีการปกป้อง

 

เผย'มนัส'อ้างเงินวัวชน 

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า การขออนุมัติหมายจับพล.ท.มนัสนั้น พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. สืบสวนสอบสวนจนพบหลักฐานความเชื่อมโยง ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของนายทหารพระธรรมนูญดำเนินการ ไม่กังวลในเรื่องการหลบหนี เนื่องจากพล.ท. มนัสเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ มีเกียรติและศักดิ์ศรีมากพอ 

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในส่วนของการติดตามตัว นายณัฐภัทร แสงทอง หรือโกมิก ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ในจ.ระนอง มอบหมายให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.ประสานกับประเทศพม่าแล้ว ซึ่งต้องรอตรวจสอบว่าถูกดำเนินคดีในประเทศพม่าข้อหาใด หากเป็นการหลบหนีเข้าประเทศ ก็จะประสานส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดน แต่หากเป็นข้อหาค้ามนุษย์ก็ต้องให้รับโทษที่ประเทศพม่าแล้วเสร็จก่อน จึงจะส่งตัวกลับมาในประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไทยต่อไปได้ ยืนยันว่ามีการสืบสวนสอบสวน หากพบพยานหลักฐานสาวไปถึงผู้เกี่ยวข้องคนใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที 

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า กรณีพล.ท.มนัส ไม่สามารถบอกได้ว่าเคยลงไปในพื้นที่หรือไม่ และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในเชิงลึกได้ ส่วนเรื่องสลิปที่อ้างว่าเป็นค่าชนวัวนั้นก็ไม่สามารถบอกได้ ไม่มีรายงานการหลบหนี เบื้องต้นทราบว่า พล.ท.มนัส รู้เรื่องแล้ว และติดต่อมาทางเจ้าหน้าที่บางส่วนแล้ว

       รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดพล.ท.มนัส เดินทางมาพักอยู่ในเรือนพักข้าราชการทหารในกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นคร ศรีธรรมราช อยู่ในความดูแลของนายทหารระดับสูง เพื่อรอขั้นตอนการประสานงานของนายทหารพระธรรมนูญ และขั้นตอนของการขอตัวจากกองทัพบก เนื่องจาก พล.ท.มนัส เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่

พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก. ภ.จว.นครศรีธรรมราช ระบุว่า ทราบข้อมูลที่ พล.ท.มนัส พักอยู่ในกองทัพภาคที่ 4 แล้ว ในส่วนของ บก.ภูธรนครศรีธรรมราช ไม่ได้รับการประสานมาจากฝ่ายทหาร และไม่มั่นใจว่าพล.ท.มนัสจะมอบตัวที่บก.ภูธรนครศรีธรรม ราช หรือบช.ภูธรภาค 8 ซึ่งต้องรอดูว่าทางทหารจะประสานงานมาหรือไม่

 

เจ้าตัวลั่นสู้คดี-ขอความเป็นธรรม

      พล.ท.มนัส ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกล่าวปฏิเสธเดินทางเข้าพบพล.อ.อุดมเดช ที่กองบัญชาการกองทัพบก ตามที่เป็นข่าว ซึ่งตนกำลังเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนกรณีที่พล.อ.อุดมเดชสั่งพักราชการนั้น ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว

     "ผมยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชา ทั้งพล.อ.ประวิตร และผบ.ทบ. ผมขอฝากไปยังสังคมว่าอย่าเพิ่งตัดสินว่าผมผิด อยากให้ดูข้อมูลของทั้งสองฝ่าย และให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน อยากขอความเป็นธรรม ผมยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ไม่ว่าศาลจะพิจารณาออกมาเป็นอย่างไร ผมก็พร้อมที่จะยอมรับ ผมไม่มีปัญหา เป็นคนไทยเหมือนกัน ผมยอมรับกติกาสังคมทุกอย่าง เพราะเรื่องนี้มีที่มาที่ไป และผมพร้อมที่จะสู้คดี" พล.ท.มนัสกล่าว

      รายงานข่าวที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.ต.ปวิณ พงษ์ ชสิรินทร์ รองผบช.ภาค 8 หัวหน้าฝ่ายสอบ สวนประชุมพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีค้ามนุษย์ ให้แล้วเสร็จและส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดภายในวันที่ 20 มิ.ย.

       รายงานข่าวว่าความคืบหน้าด้านคดี ออกหมายจับ 84 คน จับกุมตัวได้ 51 ราย และยังหลบหนี 33 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหารายสำคัญ 3 คน คือ พล.ท.มนัส นายณัฐภัทร หรือโกมิก ซึ่งถูกจับกุมที่พม่าและอยู่ระหว่างการประสานงานส่งตัวมาดำเนินคดี และ นางมันฑนา อังโชติพันธุ์ ภรรยาของโกโต้ง

 

สุราษฎร์วุ่นม็อบโรฮิงยา

       ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มีการสนธิกำลังชุดควบคุมฝูงชนตำรวจ บก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กำลังอาสารักษาดินแดนกองร้อยที่ 1 สุราษฎร์ธานี เข้าควบคุมพื้นที่ ย้ายชาวโรฮิงยาออกจากอาคารพุมเรียง ภายในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ ไปยังอาคารอื่นและตรวจค้นเพิ่มเติมบริเวณเรือนพุมเรียง ซึ่งเป็นที่ควบคุมกลุ่มชาวโรฮิงยา ทั้งหญิงและเด็ก 94 คน ที่เป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 35 คน ที่เหลือเป็นผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง 

ทั้งนี้หลังจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา กลุ่มชาวโรฮิงยา ซึ่งมีผู้หญิง 5 คนเป็นแกนนำ รวมตัวประท้วงปิดไฟ พร้อมทั้งทุบทำลายประตูหน้าต่างของเรือนนอน ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปกินในเรือนนอน พร้อมเรียกร้องขอไปประเทศที่ 3 โดยระบุจะไปประเทศมาเลเซีย ไม่ขอไปสหรัฐอเมริกา จนตำรวจต้องนำกำลังกว่า 50 นาย เข้าคุมสถานการณ์ ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์ได้ 

      โดยนำตัวแกนนำ 5 คนแยกออกจากกลุ่มมาสอบสวน พร้อมนำลวดหนามมาปิดล้อมตัวอาคาร และเพิ่มแสงไฟส่องสว่างรอบตัวอาคาร พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ดูแลป้องกันการหลบหนี

       จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบก้อนหินขนาดเล็กถูกบรรจุภายในถุงพลาสติกหลายถุง สันนิษฐานว่าเตรียมการไว้ทุบทำลายกระจก และปาใส่เจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นก็พบอาหารจำนวนมากที่นำไปกินภายในเรือนนอน ซึ่งผิดกฎข้อห้ามนำอาหารเข้าไป 

พล.ต.ต.อภิชาต บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นการก่อเหตุทุบทำลายเรือนนอนในครั้งนี้ เนื่องจากชาวโรฮิงยาไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่สถาน คุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) ไม่ให้นำเสบียงอาหาร และสัมภาระต่างๆ ที่ได้รับแจกจ่ายเข้าไปในเรือนนอน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเตรียมการหลบหนี เนื่องจากรั้วด้านหลังของทางสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพต่ำ ชาวโรฮิงยาจึงปิดไฟ พร้อมส่งเสียงโวยวาย และทุบทำลายข้าวของดังกล่าว ซึ่งมีทั้งประตู และหน้าต่างของเรือนนอน พร้อมเรียกร้องขอไปประเทศที่ 3 

 

'โอบามา'ตอบเรื่องโรฮิงยา

       วันเดียวกัน นายบารัก โอบามา ประธานา ธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวถึงประเด็นปัญหา โรฮิงยาระหว่างร่วมงานโครงการผู้นำเยาวชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเยาวชนจากอาเซียนเข้าร่วม ที่ทำเนียบขาว เมื่อมีตัวแทนเยาวชนไทยลุกขึ้นถามว่า "หากท่านเป็น โรฮิงยา อยากจะไปอยู่ประเทศใด" ผู้นำสหรัฐกล่าวตอบว่า ทุกคนคงอยากอยู่ในประเทศที่ตนเองเกิด ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อย โรฮิงยา ถ้าต้องการประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านจากระบอบทหารเป็นระบอบประชาธิปไตย

       "ถ้าผมเป็นชาวโรฮิงยา ก็คงอยากจะอาศัยอยู่ในที่ที่ผมเกิด แต่ผมคงจะทำให้แน่ใจว่ารัฐบาลของผมจะปกป้องผมจากผู้คนที่ปฏิบัติต่อตัวผมอย่างไม่เป็นธรรม" นายโอบามากล่าวด้วยว่า การให้ความจริงจังในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชาวโรฮิงยา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของพม่า การที่ชาวโรฮิงยาต้องหนีออกมา สาเหตุอย่างหนึ่งเพราะพวกเขาถูกเลือกปฏิบัติ และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พม่าต้องทำเพื่อจะประ สบความสำเร็จคือการหยุดการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนเพียงเพราะรูปลักษณ์หรือความเชื่อ

 

สื่อนอกตีข่าวค่ายนรก

      เอเอฟพี รายงานชะตากรรมของผู้อพยพชาวโรฮิงยาที่ถูกกักขังอยู่ในค่ายค้ามนุษย์ที่ไทยและมาเลเซียว่า มีหญิงสาวชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งถูกกลุ่มผู้ค้ามนุษย์รุมข่มขืน ทำให้มีหญิงสาว 2-3 คน ตั้งครรภ์ โดยหลังจากที่สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียไปสัมภาษณ์ "นางนูร์ ไคดา อับดุล ชูคูร์" หนึ่งในสาว โรฮิงยาแล้ว ทำให้ทราบว่า ทุกๆ คืน ยามจะลากตัวผู้หญิงออกไปจากที่พักซึ่งเป็นป่าใกล้เมืองปาดังเบซาร์ บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ก่อนจะพาตัวไปยังที่ลับหูลับตาแล้วลงมือข่มขืน นอกจากนี้ นายนูรูล อามิน โนบี ฮุสเซน สามีของนางนูร์ ไคดาเอง ยังกล่าวด้วยว่า ตนสังเกตเห็นอาชญากรรมทางเพศแบบเดียวกันนี้ที่อีกค่ายหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตแดนของมาเลเซียด้วย

      นางนูร์ ไคดาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปีก่อนตนเข้ามาเลเซียมาอย่างผิดกฎหมาย หลังจากติดสินบนให้ผู้ค้ามนุษย์ปล่อยตนออกมาจากค่ายกักกัน พร้อมกันนั้นยังระบุว่า บางครั้งผู้หญิงจะถูกยามพาตัวไปนานหลายวัน และปฏิบัติด้วยเยี่ยงโสเภณี ในขณะที่นายนูรูล อามิน ให้การยืนยันเช่นเดียวกัน "เราได้ยินเสียงกรีดร้อง และร้องไห้ของหญิงสาว เพราะสถานที่ที่พวกเธอถูกจับไปข่มขืนนั้นมันอยู่ใกล้ค่ายของเรามาก"นายนูรูล อามิน กล่าว

     กรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงยาเช่นนี้ ถูกพบมาตั้งแต่เมื่อราวต้นเดือนก่อน โดยมีการพบทั้งค่ายกักกันตัว หรือแม้แต่หลุมฝังศพ โดยเริ่มแรกถูกพบในไทย ว่ามีค่ายกักกันราว 7 ค่าย และศพอีก 33 ศพ ก่อนจะลามไปในพรมแดนมาเลเซียที่พบค่ายขังชาวโรฮิงยาอีก 28 ค่าย และหลุมศพถึง 139 หลุม สร้างความตกใจครั้งใหญ่ให้แก่ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ ในข่าวยังระบุด้วยว่า ค่ายทั้งหมดน่าจะเป็นของกลุ่มสมาคมค้ามนุษย์ ที่ลักลอบอพยพชาวโรฮิงยาออกจากพม่า ก่อนจะมุ่งไปมาเลเซียเสียส่วนใหญ่

 

 

มอบตัวสู้คดีค้ามนุษย์ พล.ท.โต้ลั่น สังคมอย่ารีบตัดสินผิด สุราษฎร์วุ่น'โรฮีนจา'ฮือ โวยห้ามกินในเรือนนอน 19 ชาติพอใจตร.ลุยปราบ ฮือฮาเยาวชนไทยจี้ถาม 'โอบามา'ตอบปมอพยพ

      'พล.ท.มนัส'วอนสังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ให้ดูข้อมูลทั้งสองฝ่าย พร้อมสู้คดีค้ามนุษย์ 'ประยุทธ์'ลั่นใครผิดฟันทุกคน 'บิ๊กโด่ง'ย้ำพักราชการหยุดจ่ายเงินเดือน

 

มติชนออนไลน์ :

แจงค้ามนุษย์ - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. และคณะ ชี้แจงเจ้าหน้าที่สถานทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ 19 ชาติ ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาและการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน



ค้นโรฮีนจา - ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับฝ่ายปกครอง ทั้งหญิงและชายกว่า 80 นาย ตรวจค้นสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเรือนนอนชาวโรฮีนจา หลังก่อเหตุทำลายประตู-หน้าต่าง เนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำอาหารและสัมภาระเข้าไปในเรือนนอน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน

 

@ 'โรฮีนจา'ประท้วงทุบเรือนนอน

     เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 1 มิถุนายน นายวิชวุทย์ จินโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังตำรวจจาก สภ.ขุนทะเล และ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กว่า 50 นาย เข้าคุมสถานการณ์ หลังได้รับแจ้งว่าชาวโรฮีนจาที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ทั้งผู้หญิงและเด็ก 94 คน ได้รวมตัวประท้วงทุบทำลายประตูและหน้าต่างซึ่งเป็นเรือนนอน ตรวจสอบพบประตูและกระจกหน้าต่างเรือนนอนแตก โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกแกนนำ 5 คนสอบสวน พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสถานการณ์

       พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า ชาวโรฮีนจาเกิดความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้นำเสบียงอาหารและสัมภาระต่างๆ ที่ได้รับแจกจ่ายเข้าไปเรือนนอน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเตรียมการหลบหนี ชาวโรฮีนจาจึงปิดไฟ พร้อมส่งเสียงโวยวายและทุบทำลายข้าวของดังกล่าว พร้อมเรียกร้องขอไปประเทศที่สาม โดยระบุจะไปประเทศมาเลเซีย และปฏิเสธที่จะไปสหรัฐอเมริกา

 

@ ผอ.แจงสื่อสารไม่เข้าใจกัน

      ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับฝ่ายปกครองกว่า 80 นาย เข้าตรวจค้นเรือนนอน พบก้อนหินขนาดเล็กถูกบรรจุภายในถุงพลาสติกจำนวนหลายถุง ซึ่งสันนิษฐานว่าชาวโรฮีนจาเตรียมการไว้ทุบทำลายกระจกและปาใส่เจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นพบอาหารจำนวนมากที่นำไปกินภายในเรือนนอน ซึ่งผิดกฎข้อห้ามนำอาหารเข้าไป

      นางสุดารัตน์ ปานสวัสดิ์ ผอ.สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) กล่าวว่า สำหรับแนวทางป้องกันเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแซมกระจกที่แตก โดยนำแผ่นไม้มาปิดหน้าต่างกระจกที่แตก เพื่อป้องกันการทำลายกระจกและหลบหนี ส่วนมาตรการป้องกันจะสนธิกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองจังหวัด จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน อย่างไรก็ตาม ได้ขอสนับสนุนล่ามมาประจำที่สถานคุ้มครองฯแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโรฮีนจาที่พักอยู่ที่บ้านศรีสุราษฎร์ 94 คน ในจำนวนนี้มี 35 คนที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากแก๊งค้ามนุษย์พื้นที่ จ.พังงา ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งกลุ่มนี้เกรงว่าจะได้รับการช่วยเหลือไปประเทศที่ 3 ช้ากว่ากลุ่มอื่น จึงพยายามกดดันเจ้าหน้าที่ ตั้งแง่ข้อเรียกร้องต่างๆ ให้ต่างประเทศสนใจ

 

@ ใครเอี่ยวค้ามนุษย์ฟันหมด

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกรณีที่ศาลออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก คดีค้ามนุษย์ ว่า ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ยุ่งในเรื่องนี้ก็ต้องไปสืบสวนกันต่อไป เพราะถือเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมเหมือนทุกๆ คน ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะมีทหารคนอื่นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกหรือไม่ตนไม่รู้ ต้องรอให้มีการตรวจสอบ หากพบข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็ต้องดำเนินการให้หมด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า เบื้องต้น พล.ท.มนัสยังไม่ได้มีความผิด แต่อาจจะมีการเชื่อมโยงหรือไม่นั้น ขณะนี้เพียงแต่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามพยานและหลักฐาน ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีพยานและหลักฐานขนาดไหน ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ส่วนเรื่องการพักราชการนั้นก็เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้ดูแลเรื่องของวินัย ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีปัญหา

 

@ 'บิ๊กโด่ง'ลั่นไม่ป้องพล.ท.มนัส

พล.อ.อุดมเดชกล่าวถึงกรณี พล.ท.มนัสเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ว่า คดีนี้ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจอย่างเต็มที่ได้พูดคุยกันและให้ตำรวจดำเนินการตามข้อมูลหลักฐาน ขณะเดียวกัน พล.ท.มนัสต้องมีสิทธิในการชี้แจง รวบรวมหลักฐานข้อมูลเพื่อต่อสู้ในคดี ต้องให้โอกาสและความเป็นธรรมกับ พล.ท.มนัสด้วย แต่ว่าตามหลักฐานที่ได้ประสานงานและออกหมายจับนั้นมีความชัดเจนในระดับหนึ่งว่า พล.ท.มนัสมีความผิด ทางกองทัพบกเองต้องตรวจสอบโดยสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมอบหมาย พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ยืนยันว่ากองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจ และในช่วงที่ผ่านมาก็ทราบถึงความเป็นไปอยู่แล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องรอความชัดเจนจากตำรวจ โดยกองทัพบกจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด จะลงโทษโดยเด็ดขาด อีกทั้งคดีนี้ต่างประเทศยังให้ความสนใจ ใครที่ทำดีเราจะดูแล ส่วนคนทำผิดเราจะลงโทษ

 

@ ย้ำพักราชการ-หยุดจ่ายเงินเดือน

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า หลังจากสั่งพักราชการกับ พล.ท.มนัส ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตามระเบียบของกองทัพบก โดยการพักราชการนั้นจะทำในคดีใหญ่ๆ คือให้หยุดการทำงานและหยุดการให้เงินเดือนด้วย จากนั้นก็รอผลการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังไม่มีการขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แต่ พล.ท.มนัสน่าจะมีความรู้จักหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่ถูกชี้ชัดว่ากระทำความผิด เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องสืบข้อมูลกันต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า กองทัพมีกำลังพลตั้ง 270,000 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนดีทั้งหมด ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ในกองทัพก็คงจะมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ตนยืนยันว่าส่วนใหญ่ตั้งใจทำงาน ไม่เช่นนั้นเราคงไม่สามารถรักษาสภาพเช่นนี้ได้ กองทัพดำรงอยู่ได้ด้วยการมีคนดีเป็นส่วนใหญ่

 

@ จับตาแก้โรฮีนจามีเซอร์ไพรส์

นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์การแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาว่า การย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เมื่อมีผู้ที่เข้าไปหวังผลประโยชน์ มีการจัดการโดยมิชอบ ผิดกฎหมาย กลายเป็นปัญหาอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาต่อไป เชื่อว่าจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะจะสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังโดยรัฐบาล ทำให้สิ่งที่หมักหมมในอดีตฟุ้งขึ้นมา แล้วจะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ทำให้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น หากรัฐไม่ทำอย่างจริงจังจะเกิดการกดทับปัญหาอย่างเดิม

เมื่อถามว่า เคยได้ข่าว พล.ท.มนัสเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์บ้างหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า "ไม่ได้ข่าว แต่ได้จากการขยายผล ต่อไปจะเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นและไม่คิดว่าจะมีสิ่งที่เรานึกไม่ถึง เราพยายามทำงานตรงนี้อย่างเต็มที่ แต่ในเรื่องของระบบบริหารแรงงานปัจจุบันได้ให้จดทะเบียนและดูแลให้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมีกลุ่มที่แอบแฝง ซ่อนเร้น โดยรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการปราบปรามอยู่"

 

@ ตร.แจง 19 ปท.-ต่างชาติชื่นชม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรี และปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.ตท. ร.ท.สมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ภายหลังจากการประชุมชี้แจงต่อต่างชาติในกรณีดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วม 19 ประเทศ

พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ พล.ท.มนัสว่า ขณะนี้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก เป็นผู้รับผิดชอบในด้านสำนวนคดี ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับตามขั้นตอน และศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว แต่มั่นใจว่า พล.ท.มนัสจะไม่หลบหนี เนื่องจากเป็นนายทหารระดับสูง ส่วนการเข้ามอบตัว โดยหลักการจะมีนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมดำเนินการ รวมทั้งต้องให้เกียรติเพราะถือว่าเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่วนนายณัฐภัทร แสงทอง หรือโกมิก ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและถูกทางการพม่าควบคุมตัวได้แล้ว ขณะนี้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ประสานงานขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน

 

@ ปัดเผยรายละเอียด'พล.ท.มนัส' 

พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ได้ขอศาลออกหมายจับทั้งหมด 84 คน มีการจับกุมตัว มอบตัว และอายัดตัว 51 ราย เหลืออีก 33 ราย ส่วนการประชุมในครั้งนี้ ทางต่างชาติที่เข้าร่วมประชุมไม่ได้มีข้อสงสัยอะไร มีแต่คำชื่นชม ขอบคุณที่ไทยแสดงให้เห็นว่า จริงใจและจริงจังในการดำเนินการต่อกรณีดังกล่าว แต่มีประเทศอิตาลีแสดงความห่วงใยว่าผู้อพยพที่หลบหนีเข้าเมืองมาจะมีสิ่งของบางอย่างเข้ามาด้วย แต่ว่าประเทศไทยไม่พบปัญหาเหล่านี้ เพราะผู้อพยพเป็นชาวต่างด้าวที่ต้องการจะย้ายถิ่นฐานส่วนเรื่องการลดระดับเรื่องการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกานั้น ไทยจะแสดงให้เห็นว่าจะทำอย่างไรต่อไป ให้ชัดเจน ตอบโจทย์สิ่งที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด การประเมินเป็นเรื่องของสหรัฐอเมริกา ไทยทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยอมรับการประเมิน 

พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ส่วนความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซียมีความร่วมมือกันดี มีการช่วยกันปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดีทางการไทยจะตั้งศูนย์ช่วยเหลือประเทศมาเลเซียตรวจสอบหลุมศพที่พบกว่า 100 หลุม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเปรียบเทียบว่าศพที่เจอในไทยกับมาเลเซียว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ รวมทั้งเส้นทางการเคลื่อนย้ายของชาวโรฮีนจาทั้งหมด เพื่อนำข้อมูลมาประกอบกับสำนวนให้มีความแน่นหนามากขึ้น โดยพนักงานสอบสวนจะนำสำนวนสอบสวนทั้งหมดส่งฟ้องศาลภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ สำหรับกรณี พล.ท.มนัส ไม่สามารถบอกได้ว่าเคยลงไปในพื้นที่หรือไม่ และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในเชิงลึกได้ ส่วนเรื่องสลิปที่อ้างว่าเป็นค่าชนวัวนั้นก็ไม่สามารถบอกได้ เบื้องต้นทราบว่า พล.ท.มนัสรู้เรื่องแล้ว และได้ติดต่อมาทางเจ้าหน้าที่บางส่วนแล้ว

 

@ 'มนัส'มอบตัว-ชี้อย่าเพิ่งตัดสิน

พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย พล.ท.มนัสว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการลงมาแล้วว่าให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย พล.ท.มนัส ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด และยังไม่มีโอกาสได้พบ พล.ท.มนัส แต่ทราบว่าได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว โดยทุกอย่างต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ พล.ท.มนัสกล่าวว่า กำลังเดินทางไปมอบตัวที่ สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ขอฝากไปยังสังคมว่าอย่าเพิ่งตัดสิน อยากให้ดูข้อมูลของทั้งสองฝ่าย และให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ขอความเป็นธรรม ยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ไม่ว่าศาลจะพิจารณาออกมาเป็นอย่างไร ก็พร้อมที่จะยอมรับ ไม่มีปัญหา เป็นคนไทยเหมือนกัน ยอมรับกติกาสังคมทุกอย่าง เพราะเรื่องนี้มีที่มาที่ไป และพร้อมที่จะสู้คดี 

 

@ ให้มาเลย์ขนศพโรฮีนจาผ่านไทย

ที่ห้องประชุม สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 พร้อม พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 พร้อมนายเอกรัฐ หลีเส็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 เข้าหารือร่วมกับตัวแทนเจ้าหน้าที่มาเลเซีย กรณีทางการมาเลเซียขออนุญาตใช้พื้นที่บางส่วนของ ต.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ในการขนย้ายศพที่จะทำการขุดจากหลุมบนเทือกเขาที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับเทือกเขาแก้วของ ต.ปาดังเบซาร์ หลังพบหลุมศพกว่า 90 หลุมก่อนหน้านี้ เบื้องต้นเชื่อว่าจะเป็นศพของชาวโรฮีนจา 

พล.ต.ต.พุทธิชาตกล่าวหลังการหารือว่า ที่ประชุมหารือกันถึงแนวทางการดำเนินการ โดยการขุดศพนั้นทางมาเลเซียจะดำเนินการเองทั้งหมด ทางฝ่ายไทยจะมีเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์เท่านั้น โดยจะมีการใช้เส้นทางของไทยตั้งแต่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ ต่อเนื่องไปจนถึงเทือกเขาแก้ว เนื่องจากพื้นที่เทือกเขาของมาเลเซียมีลักษณะชัน เดินเท้าเข้าไปนำศพออกจากพื้นที่ได้ยาก โดยวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ทางมาเลเซียจะเริ่มสำรวจเส้นทางว่ามีพื้นที่สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะขนศพไปทางเฮลิคอปเตอร์ แต่หากไม่ได้ก็จะใช้พื้นที่เทือกเขา ลงพื้นราบ และบรรทุกศพโดยรถยนต์ออกไปทางด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ 

 

@ ออสซี่พร้อมช่วยแก้ค้ามนุษย์

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพอล โรบิลลียาร์ด เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ที่กำลังคุกคามประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งออสเตรเลียเห็นว่าเป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันแก้ไข พร้อมชื่นชมไทยต่อความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยไทยประสงค์ที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดทั้งกับออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและหยุดยั้งการหลั่งไหลเข้ามาของผู้แสวงหาที่พักพิงและกระบวนการลอบขนคน ซึ่งออสเตรเลียเห็นด้วยและพร้อมจะร่วมมือกับไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อลดเหตุจูงใจการค้ามนุษย์ต่อไป

 

@ บังกลาเทศช่วยผู้อพยพกลับบ้าน

วันเดียวกัน รัฐบาลบังกลาเทศประกาศจะช่วยเหลือประชาชนของตัวเองหลายร้อยคนที่ติดอยู่ในค่ายกักกันผู้อพยพชาวโรฮีนจากลับบ้านให้เร็วที่สุด โดยนายชาฮิดุล ฮัก ปลัดกระทรวงต่างประเทศบังกลาเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กงสุลกำลังทำงานช่วยเหลือและโยกย้ายผู้อพยพที่อยู่ในค่ายกักกัน รวมถึงที่ติดอยู่ในกลางทะเลกลับภูมิลำเนาเดิม "พวกเรากำลังนำพลเมืองของเราที่ติดอยู่กลางทะเลและในต่างประเทศกลับบ้านเร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น" นายฮักกล่าว 

ก่อนหน้านี้สื่อรายงานว่า เชื่อว่าน่าจะมีชาวบังกลาเทศราว 700 คน ติดอยู่ในค่ายกักกันในประเทศมาเลเซีย

 

@ เด็กไทยถาม'โอบามา'ปมโรฮีนจา

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวกับตัวแทนเยาวชนในโครงการเยาวชนผู้นำอาเซียน (วายซีลี) ที่ได้รับเชิญมาพบปะที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันของสหรัฐเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนว่า สหรัฐมุ่งเน้นในการรับประกันว่าชาวโรฮีนจา ซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หรือติดอยู่กลางทะล จะต้องได้รับการหาที่อยู่ใหม่ โดยได้ตอบคำถามตัวแทนเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการคือ น.ส.เพ็ญสิริ ปานสิริ ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก ซึ่งทำงานในประเด็นต่อต้านการค้ามนุษย์ในไทยและประเทศเพื่อบ้านที่ว่า "หากคุณเป็นชาวโรฮีนจา ประเทศใดที่คุณต้องการเลือกที่จะไปอยู่ และทำไม"

นายโอบามากล่าวว่า หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องหยุดการเลือกปฏิบัติต่อประชาชน จากแค่เหตุผลเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก หรือความเชื่อของพวกเขา โดยที่ผ่านมาชาวโรฮีนจาถูกเลือกปฏิบัติ และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขากำลังหนีออกมา หลังพม่าปฏิเสธว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมในประเทศ แต่ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ชนกลุ่มน้อยต้องหนีอพยพจากนโยบายที่กดขี่ของรัฐบาลและความยากจนในพม่าแล้วกว่า 100,000 คน 

"หากเลือกได้ ผมก็ต้องการอยู่ในดินแดนที่ผมเกิดและเป็นที่ที่ครอบครัวของผมอาศัยอยู่ แต่ผมก็ต้องการให้มีหลักประกันว่ารัฐบาลของผมจะต้องปกป้องผม และผู้คนจะต้องปฏิบัติต่อผมอย่างยุติธรรม" นายโอบามากล่าว

 

@ ชื่นชมอินโดฯ-มาเลย์ช่วยเหลือ

พร้อมกันนี้โอบามายังได้กล่าวชื่นชมประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียที่ช่วยเหลือรับชาวโรฮีนจาพลัดถิ่นจำนวนหลายพันคน โดยบอกด้วยว่าสหรัฐเองมีแผนที่จะรับชาวโรฮีนจาบางส่วนเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ วันเดียวกัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้ร้องขอทางการพม่าอนุญาตให้กลุ่มผู้อพยพ 727 คน ขึ้นฝั่ง พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขั้นต้น หลังกองทัพเรือพม่ากักคนบนเรือไม่ให้ขึ้นฝั่ง

ขณะที่เบอร์นามา สื่อทางการมาเลเซียรายงานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า พบหญิงชาวโรฮีนจาซึ่งถูกกักตัวในค่ายขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทยและมาเลเซีย ถูกรุมข่มขืนโดยผู้คุมเหยื่อค้ามนุษย์ โดยข้อมูลนี้อ้างจากคำพูดของ น.ส.นูร์ ไคดา อับดุล ผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกัน 

"ทุกค่ำคืนจะมีผู้ควบคุมนำตัวหญิงสาวชาวโรฮีนจาประมาณ 2-3 คน ออกจากค่ายกักกันในป่าไปยังสถานที่ลับ จากนั้นก็ถูกรุมข่มขืน โดยมีหญิงสาว 2 คน ตั้งท้องหลังถูกข่มขืน" น.ส.ไคดา อับดุลกล่าว และว่า "พวกเราได้ยินเสียงโหยหวนและเสียงร้องไห้ของหญิงสาว เพราะสถานที่ที่นำตัวหญิงสาวไปข่มขืนอยู่ใกล้กับที่เราถูกคุมตัว แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งพวกเราไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น" อย่างไรก็ดี คำกล่าวของเหยื่อครั้งนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทางการว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!