WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

38ตร

เด้งอีก 38 ตร. พันคดีโรฮิงยา 'พตอ.'ยัน'จสต.'รองผบก.ก็โดน

       จ่อเด้งอีกนับสิบ สมยศพร้อมเซ็นคำสั่งย้ายตำรวจน้ำ-ตชด.เกี่ยวพันคดีโรฮิงยา ลือสะพัดออกหมายจับ 2 ทหารอุ้มเจ้าของค่ายกักกันเรียกค่าไถ่ 2 ล้าน วินธัยแจงยิบ เป็นปฏิบัติการตรวจค้นพร้อมเรียกผู้ดูแลค่ายมาสอบสวน กักตัวไว้ 12 ชั่วโมงก่อนปล่อยตัว ไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ "จักรทิพย์"เตรียมนำปัญหาโรฮิงยาหารือผบ.ตร.มาเลย์ รวมทั้งสั่งประสานพม่าในฐานะต้นทางแก้ปัญหาทั้งหมด บิ๊กตู่ฮึ่มฝ่ายปกครองขีดเส้น 10 วันสำรวจพื้นที่ไม่ให้มีค่ายกักกัน หากมีปัญหาพร้อมใช้ม.44 ที่ปาดังเบซาร์ค้นสุสานพบเพิ่ม 6 ศพ เตรียมส่งพิสูจน์ แต่ที่พังงายังคว้าน้ำเหลว



วันที่ 07 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8926 ข่าวสดรายวัน
'บิ๊กป้อม'เผยย้ายพอ.เอี่ยวโรฮิงยา


     ขุดเจออีก - เจ้าหน้าที่นำโครงกระดูกที่ขุดพบเพิ่มในสุสาน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 6 ศพ ส่งไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นศพชาวโรฮิงยา และเกี่ยว ข้องกับคดีค้ามนุษย์หรือไม่ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 

      วันที่ 6 พ.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดำเนินการกรณีพบหลุมศพชาวโรฮิงยาว่า ทุกหน่วยงานร่วมมือกันทำงานทั้งทหาร ตำรวจ และมหาดไทย เพื่อตรวจสอบว่ายังมีพื้นที่ ซุกซ่อนผู้อพยพที่ไหนอีกบ้างและใครเป็นผู้ดำเนินการ รัฐบาลจะดำเนินการกับทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะถือว่าทำผิดกฎหมายการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ การดำเนินการที่ทำอยู่มีความเข้มงวดอยู่แล้ว แต่เราไม่คิดว่าจะมีการจัดสถานที่พักพิงในลักษณะอย่างนี้ ซึ่งเราไม่ได้นิ่งนอนใจและเร่งดำเนินการอยู่ 
    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องแรงงานและการอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราจึงพยายามใช้กลไกของกระทรวงเข้ามาจัดการ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้รับผิดชอบต้องมาดูอีกครั้งว่า จะอธิบายได้หรือไม่ว่าเมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ทำไมถึงไม่รู้ ไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องขอเวลาสอบสวนก่อน หากตอบไม่ได้คงต้องมีโทษทางวินัย 
      เมื่อถามว่าผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้งในพื้นที่ จึงไปย้ายเขาไม่ได้ แต่ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินการทันที 
      ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ที่สตช. พล.อ. ประวิตร ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีพบทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการโรฮิงยา ว่า ทราบว่าพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. สั่งย้ายผู้การกรมในพื้นที่ไปแล้ว 1 คน ยศพ.อ. แต่ในส่วนของ พ.ต. ที่มีการออกหมายจับ ยังไม่ทราบ เดี๋ยวผบ.ทบ.ดูเอง เรื่องทหารไม่ต้องห่วง ส่วนจะใช้มาตรฐานเดียวกับตำรวจหรือไม่นั้น ใช้เหมือนกันแต่ทหารอาจจะย้ายเลย หากใครเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดีหมด 

'จักรทิพย์'หารือมาเลย์ช่วยแก้
      พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ด้านความมั่งคง เป็นประธานการประชุมเตรียมการประชุมร่วมระหว่างตำรวจไทยมาเลเซีย ระดับบริหาร ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค. ที่ จ.ภูเก็ต โดยให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้เตรียมการหารือกับทางการมาเลเซียในหลายๆ เรื่อง ใน 9 กรอบการเจรจา โดยประเด็นเรื่องโรฮิงยา และกรณีเครือข่ายยูฟัน อยู่ในกรอบการเจรจาด้วย แต่ทั้ง 2 เรื่อง ต้องหารือนอกรอบเพราะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือของ 2 ประเทศ 
     โดยตนจะนำเรื่องโรฮิงยา หารือกับผบ.ตร.มาเลเซียอย่างแน่นอน ทั้งนี้สันติบาลประสานข้อมูลในเรื่องคดีโรฮิงยากับมาเลเซีย และพม่าแล้ว ซึ่งไทยเป็นทางผ่านอยู่ตรงกลาง การประสานงานโดยเฉพาะประเทศมาเลเซียในฐานประเทศปลายทางให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่ทางการพม่าซึ่งเป็นประเทศต้นทาง มอบหมายให้พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.บช.ภ.8 เป็นตัวกลางประสานงานเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับชาย แดนพม่า 
     สำหรับ ความคืบหน้าในคดี ที่มีข่าวว่าเตรียมออกหมายจับ นายทหารยศ พ.ต. พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อาจเป็นข้อมูลฝ่ายสอบสวน ตนยังไม่ทราบ ในวันที่ 7 พ.ค. จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อสืบสวนรับทราบข้อมูล หากการสืบสวนสอบสวนไปถึงใครต้องดำเนินคดีแน่นอน 

เผยอาจย้ายตร.อีกชุด
      เมื่อถามว่า นอกจากตำรวจ 14 นายที่ถูกสั่งให้ช่วยราชการแล้วยังมีตำรวจเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ รองผบ.ตร.กล่าวว่า อาจมีหน่วยอื่นที่ยังไม่ดำเนินการ กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะนี้ดูแค่ตำรวจสังกัดบช.ภ.8-9 หน่วยอื่นๆกำลังตรวจสอบ หากพบใครเกี่ยวข้อง แม้แต่กลุ่มนักธุรกิจใน จ.ระนองที่มีการพูดถึงกันก็ต้องสืบสวน คาดว่า บช.ภ.8 คงเรียกมาคุยแล้ว
     ส่วนการติดตามตัวนายสุพจน์ หมื่นซิ่ว ผู้ต้องหารายสำคัญนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จากการข่าวพบว่านายสุพจน์เป็นคนลงมือฆ่าชาวโรฮิงยา กำลังติดตามตัวอยู่เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ และเป็นคนสำคัญที่เชื่อมไปถึงตัวการใหญ่เสี่ยคนหนึ่งใน จ.สตูลและเชื่อมเครือข่ายได้ ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลเชื่อมโยงเครือข่ายคนร้ายได้อยู่แล้ว พยายามติดตามจับกุมให้ได้ 
      ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าในเย็นวันที่ 6 พ.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายในหลายพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับโรฮิงยาไปช่วยราชการ จากนั้นจะมีคำสั่งโยกย้ายนอกวาระ และจะดำเนินคดีอาญาในรายที่มีหลักฐานเกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไปแล้ว
      รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.สมยศ เตรียมมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจล็อต 2 ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีโรฮิงยา ระดับพ.ต.อ.-ชั้นประทวน สังกัดตำรวจน้ำ ตชด.และตำรวจในพื้นที่บางส่วน รวมแล้วหลาย สิบนาย
      ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาไอยูยู โดยมีตัวแทนจากกองทัพเรือ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมชี้แจง โดยสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาในเรื่องการปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมง และกฎหมายลูก ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างของกรมประมง ประมาณ 70 ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทำประมงไอยูยู ที่จำเป็นและเร่งด่วน 18 ฉบับ เป็นกฎกระทรวง 7 ฉบับ และเป็นกฎหมายกับประกาศกระทรวง 11 ฉบับ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกฤษฎีกา
      นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายรองที่เกี่ยวข้องกับมาตรการของรัฐ กับเจ้าของท่า เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดสากล ซึ่งทางกรมประมงได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากทางองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ในการทำร่างกฎหมายลำดับรอง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับประมงนอกน่านน้ำ และมาตรการการอนุรักษ์และบริหารจัดการประมงระหว่างประเทศ ส่วนกฎหมายรองลำดับอื่นๆ สามารถอาศัยอำนาจตามบทเฉพาะกาล ตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2490 ที่ประกาศไว้ได้

บิ๊กตู่ให้ 10 วัน-สำรวจพื้นที่ 
       ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ส่วนการจัดทำแผนระดับชาติ ในการป้องกันยับยั้งและขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย กรมประมงยกร่าง และปรับปรุง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยแผนดังกล่าวจะมีคณะทำงานของอียู คณะแรกเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทย ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือร่วมกัน ซึ่งอาจมีการปรับปรุงแผนในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กำชับให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือนพ.ค. ปี"58 
       พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาชาวโรฮิงยา ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้เวลา 10 วันนับจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้านไปจนถึงนายอำเภอ ปลัดจังหวัด สำรวจพื้นที่ของตัวเองว่ามีแหล่งควบคุม กักกัน หรือเป็นพื้นที่รวบรวมบุคคลเตรียมส่งไปที่ต่างๆ หรือไม่ โดยมีอธิบดีกรมการปกครองรวบรวมข้อมูลทั้งหมด 
     ทั้งนี้ หากพบว่า มีเรื่องดังกล่าวให้นำผู้กระทำ ผิดมาลงโทษให้ได้ และไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก พร้อมกันนี้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ลงพื้นที่เอกซเรย์อย่างละเอียดในทุกเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากมีข้อมูลพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจนแก้ไขกันเองในพื้นที่ไม่ได้ ให้รายงานมาที่อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อส่วนกลางจะเข้าไปแก้ไขให้ และถ้าระบบแก้ไขกันเองไม่ได้ภายในพื้นทื่ นายกฯ จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ในการแก้ปัญหา

กสม.หนุนใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา
       พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนที่สหรัฐ อเมริกาเตรียมสรุปเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยในเดือนมิ.ย.นี้ ว่า รัฐบาลแก้ปัญหาทั้งระบบเต็มที่ในทุกเรื่อง ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และการกำหนดวิธีการปฏิบัติของหน่วยที่ชัดเจนและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาในเวทีระดับนานาชาติ ส่วนสหรัฐฯ จะพิจารณาอย่างไรถือเป็นเรื่องของทางสหรัฐฯ นายกฯ ระบุว่าเราคาดหวังไม่ได้เต็มที่เพราะอำนาจการตัดสินใจไม่ได้อยู่กับเรา แต่เราแสดงให้เห็นว่าเราแก้ปัญหาทั้งระบบเป็นกระบวนการ 
      ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กสม. กล่าวหลังหารือติดตามการแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงยา ว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ไม่มีหน่วยงานไหนกล้าปฏิเสธอีกว่าไม่มีขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย และน่ายินดีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายหลักในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ หากรัฐบาลใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะอำนาจในทางบริหาร เพื่อจัดการข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อกำจัดรากเหง้าของปัญหาได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องดี และแก้ไขปัญหาได้ 
       ที่จ.สุราษฎร์ธานี พ.อ.สมบัติ ประสานเกษม รอง ผอ.กอ.รมน.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาข่าว พิสูจน์ทราบเส้นทางลำเลียง หรือพื้นที่หลบซ่อนของชาวโรฮิงยา ทั้งนี้ในจ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่รอยต่อ จ.ระนอง พังงา และจ.กระบี่ ซึ่งอาจจะเป็นเส้นทางรองในการลำเลียงชาวโรฮิงยา โดยเฉพาะ อ.พนม บ้านตาขุน เคียนซา เวียงสระ และอ.พระแสงซึ่งเชื่อมต่อกับ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยพื้นที่ทั้งหมดนี้ ชาวโรงฮิงยาหรือนายหน้ากระบวนการค้ามนุษย์อาจจะมาใช้เส้นทาง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นในส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานียังไม่พบค่ายพักพิง เป็นเพียงเส้นทางผ่านเท่านั้น

พบอีก 6 ศพที่ปาดังเบซาร์ 
      ที่จ.พังงา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ตะกั่วป่า ร่วมกับอาสาสมัครกู้ภัย และกำนันผู้ใหญ่บ้าน เร่งค้นหาศพชาวโรฮิงยา และเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าถูกทรมานจนเสียชีวิต และฝังศพไว้ที่บริเวณเกาะโต๊ะกระ เกาะนก และเกาะกลาง ไม่น้อยกว่า 100 ศพ ซึ่งพื้นที่นี้เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนชาวโรฮิงยาที่หลบหนีเข้าเมืองเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยการค้นหาครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 5 ตารางกิโลเมตร แต่ผลการขุดค้นยังไม่พบศพใดๆ เนื่องจากสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงจนไม่สามารถระบุได้ว่าศพถูกฝังที่ใดบ้าง อีกทั้งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไป
      ส่วนที่ จ.สงขลา การตรวจสอบพื้นที่เขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ ม.8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่พบแคมป์กักตัวโรฮิงยาอีก 2 จุด เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าพิสูจน์ทราบหลุมฝังศพ 9 หลุม ที่สุสานเก่าของชาวมุสลิม เชิงเขาแก้ว เนื่องจากพบร่องรอยของการฝังศพมีการทำเครื่องหมายแบบหลุมฝังศพของชาวมุสลิม โดยมีตัวแทนสำนักจุฬาราชมนตรีและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมกันตรวจสอบและหากพิสูจน์ทราบชัด จะขุดศพใน วันที่ 7 พ.ค.
      ทั้งนี้ การขุดหลุมศพสงสัยภายในสุสานมุสลิมเก่าบ้านเกาะใหญ่ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ทั้งหมด 8 หลุม แต่พบศพ 6 ศพ เป็นหญิง 4 ศพ ชาย 2 ศพ แต่ยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่าเป็นศพของชาวโรฮิงยาที่ถูกลักลอบนำมาฝังหรือไม่ โดยสภาพศพถูกฝังมานานเหลือเพียงโครงกระดูก และลักษณะของหลุมและการฝังศพนั้นแตกต่างจากหลุมฝังศพชาวโรฮิงยาที่พบจุดแรกบนยอดเขาแก้ว โดยภายในหลุมมีการปิดด้วยไม้กระดานเป็นอย่างดีและอยู่ลึก แต่หลุมศพชาวโรฮิงยาที่พบบนยอดเขาแก้วมีเพียงไม้ไผ่เท่านั้น

สะพัดออกหมายจับทหารเรียกค่าไถ่
       รายงานข่าวแจ้งว่าสุสานแห่งนี้เป็นสุสานเก่าที่ฝังศพของชาวบ้านตั้งแต่บรรพบุรุษเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่แต่หลุมฝังศพเต็มจึงย้ายไปตั้งสุสานแห่งใหม่ สำหรับศพที่พบทั้งหมดนั้นเจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรในเบื้องต้นและจะนำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด อีกครั้งที่ฝ่ายนิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
      รายงานข่าวจากตำรวจภูธรภาค 9 เผยว่าในด้านคดีนอกเหนือจากที่มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหา 8 คน จับกุมแล้ว 5 คน ยังพบว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์ด้วย สภ.ปาดังเบซาร์ ออกหมายจับนายทหาร 2 นาย จากการสืบสวนในเชิงลึก พบว่าเป็นผู้จับตัวนายหน้านำพาโรฮิงยาไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 2 ล้านบาท และยังไม่ได้เข้ามอบตัว
      ที่สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ประชุมมอบนโยบาย แนวทางปฏิบัติและกำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม พร้อมกับเปิดศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้าซึ่งตั้งขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 3 ของสภ.หาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์บูรณาการร่วมในการคลี่คลายคดีทั้งภาค 8 และภาค 9 ทั้งกรณีการเรียกค่าไถ่ที่ จ.นครศรี ธรรมราช และกรณีโรฮิงยาในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งจะเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าทุกวันในเวลา 09.30 น. 
     ส่วนความคืบหน้าของคดี รองผบ.ตร. เผยว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ยังไม่ได้เข้ามอบตัว และจะสืบสวนขยายผลไปยังตัวการใหญ่ ซึ่งปัญหาการค้ามนุษย์จะต้องหมดไป ภายใต้แผนยุทธการปิดพื้นที่ปลายทางบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายของชาวโรฮิงยาและบังกลาเทศ ก่อนที่จะส่งไปยังประเทศที่ 3 
      ส่วนกรณีที่มีการออกหมายจับทหาร 2 นาย ที่เรียกค่าไถ่นายหน้าค้าชาวโรฮิงยา พล.ต.อ. เอกกล่าวว่า ยังไม่ทราบ 

เผยอีก 3 ผู้ต้องหาขอมอบตัว
      ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้ว 5 คน มี 2 คน ที่ยอมรับสารภาพแล้วคือนายร่อเอน สนยาแหละ และนายอาหลี ล่าเม๊าะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ขณะที่ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งสองไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดนาทวีเป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว
      มีรายงานข่าวว่า จากการสอบสวน นายร่อเอน รับว่าทำหน้าที่ส่งเสบียงให้โรฮิงยาบนยอดเขาแก้ว ส่วนนายอาหลีทำหน้าที่ดูต้นทางความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และร่วมกันทำมานาน 1 ปี นอกจากนี้ทราบว่า ผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอีก 3 คน คือ นายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ และนายเจริญ ทองแดง มีรายงานว่าติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้วเช่นกัน
      พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกทบ. กล่าวถึงกรณีมีข่าวนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา มีกำลังพล ประกอบด้วย ร.ท.สาธิต สุวรรณราช สังกัด ร้อย สห. มทบ.42 จ.ส.อ.ชบ คงชูช่วย ส.อ.อนุรักษ์ แก้วชะโน ส.อ.กิตติพงษ์ ไชยพรหม พลอาสาสมัคร รวิ ชายแก้ว รับแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบุคคลต่างด้าว จึงลาดตระเวนหาข่าวบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้ๆ บ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ แล้วไปพบกับกลุ่มชาวต่างด้าวโรฮิงยา ซึ่งมีคนไทยควบคุมอยู่ จึงเชิญตัวคนไทยที่ทำหน้าที่ควบคุมคนต่างด้าว 2 คน คือ นายบุญเย็น เนสะแหละ และ นายผิน ร่วมบัว มาซักถาม ใช้เวลา 12 ชั่วโมง จากนั้นปล่อย ตัวไป 

'วินธัย'ป้องทหารไม่เกี่ยว
     พ.อ.วินธัย กล่าวว่า แต่หลังจากนั้น 1 วัน มีชาวบ้าน 2 ราย มาแจ้งความไว้กับตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ว่า ถูกกลุ่ม ร.ท.สาธิต และพวกกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ทางตำรวจจึงลงบันทึกแจ้งความและเชิญตัว ร.ท.สาธิต มาให้ข้อมูล ก่อนส่งต่อให้ทางคณะกรรมการป้องกันการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) เป็นผู้ลงความเห็นเพื่อที่จะไปชี้มูลต่อไป โดยยังไม่มีการตั้งข้อหา 
       "ขณะนี้พบว่า ยังมีข้อมูลที่ได้รับไม่ตรงกัน เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้มาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ จึงอาจต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เชื่อว่าทางหน่วยต้นสังกัดต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขอให้มั่นใจปัจจุบันถ้าพบหรือมีข้อมูลว่ามีกำลังพลคนใดปฏิบัติหน้าที่ด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ ทุกๆ หน่วยในกองทัพบกจะมีมาตรการดำเนินการในทางวินัยขั้นรุนแรงทันที" พ.อ.วินธัยกล่าว

สมยศ เด้งล็อต 2-38 ตร.
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจ 38 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ศปก.ตร.ก่อนเวลา 16.00 น. 
    สำหรับ รายชื่อที่ถูกโยกย้าย ประกอบด้วย สตม. พ.ต.อ.ชัยสิทธิ์ ดีสุข ผกก.บริการคนต่างด้าว บก.ตม.6 พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.ระนอง บก.ตม.6 พ.ต.อ.ธีระยุทธ บุตรน้ำเพชร ผกก.ตม.จว.สตูล บก.ตม.6 พ.ต.อ.สุนทร อรุณนารา ผกก.ตม.จว.สงขลา บก.ตม.6 พ.ต.ท.ธนกฤต พรมดอนชาติ สวญ.ตม.ปาดังเบซาร์ บก.ตม.6 พ.ต.ท.อนุสรณ์ แก่งสันเทียะ รองผกก.ตม.จว.ระนอง บก.ตม.6 พ.ต.ท.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย รองผกก.ตม.จว.สตูล บก.ตม.6 พ.ต.ต.รัชชวิช อัครมาส สว.ตม.จว.ระนอง บก.ตม.6 พ.ต.ต.ศยธน กระบิน สว.ตม.จว.สตูล บก.ตม.6 พ.ต.ต. สุระศักดิ์ ใจดี สว.ตม.ปาดังเบซาร์ บก.ตม.6 ร.ต.อ.เสกสรร องอาจ รองสว.ตม.จว.สงขลา ร.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อาดำ รองสว.(ป.) ตม.จว.สตูล ร.ต.ต.อนุชิต แก้วมณี รองสว.อก.กก.บริการคนต่างด้าว บก.ตม.6 

รองผู้การระนอง-ผกก.ละงูด้วย 
    สังกัดบก.ปคม. พ.ต.อ.อริยพล สินสอน ผกก.5 บก.ปคม. พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัญยานนท์ ผกก.6 บก.ปคม พ.ต.ท.ธวัชชัย สงวนสุข รอง ผกก.5 บก.ปคม. พ.ต.ท.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผกก.6 บก.ปคม พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ สว.กก.5 บก.ปคม พ.ต.ท.ปาณัฏฐ์ภูมิ อัครเดชะนนท์ สว.กก.6 บก.ปคม. พ.ต.ต.สมเจตน์ ถือแก้ว สว.กก.6 บก.ปคม
     สังกัดบก.รน. พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็ชรศิริรักข์ ผกก.8 บก.รน. พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ ผกก.9 บก.รน. พ.ต.ท.พิเชฐ สมรรคจันทร์ รอง ผกก.8 บก.รน. พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ฆารเจริญ รอง ผกก.9 บก.รน. พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา สว.ส.รน.1 กก.8 บก.รน. พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน.
      สังกัดบช.ภ.8 พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง ร.ต.ท.นราทอน สัมพันธ์ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ระนอง ด.ต.ณรงค์ชัย ขุนทอง ผบหมู่(ป.)สภ.สุขสำราญ จว.ระนอง ด.ต.สุรินทร์ นุ้ยโถง ผบ.หมู่(ป.)สภ.สุขสำราญ จว.ระนอง ด.ต.ณัฐวรรธ ตั้นวิริยวงศ์ ผบ.หมู่(ป.)กก.สส.ภ.จว.ระนอง ด.ต.โภคิน แสงแก้ว ผบ.หมู่(ป.)กก.สส.ภ.จว.ระนอง จ.ส.ต.สราวุธ เพชรรัตน์ ผบ.หมู่(ป.)กก.สส.ภ.จว.ระนอง 
     สังกัดบช.ภ.9 พ.ต.อ.สมชัย เทศนอก ผกก.สภ.ละงู พ.ต.ท.พินโญ คะนันชาติ รองผกก.สส.สภ.ละงู พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ทองด้วง รองผกก.ป.สภ.ละงู พ.ต.ท.ปัญญวัฒน์ เนียมละออง สวป.สภ.ละงู ร.ต.อ.สุวรรณ ด้วงแก้ว สว.สส.สภ.ละงู

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!