- Details
- Category: มหาดไทย
- Published: Sunday, 28 September 2014 20:53
- Hits: 7131
'วิบูลย์'แนะ'อปท.'ทำงานโปร่งใส หวังลบครหา-ขู่ปลดผู้ว่าฯจันทร์นี้
แนวหน้า : ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวบรรยายพิเศษวิชา สัมมนานโยบายการบริหารงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้แก่สมาชิกสภาท้องถิ่นที่มาจากการสรรหาและผู้ปฏิบัติหน้าที่นายก อปท. รุ่นที่ 3 จำนวน 222 คนว่า ขณะนี้เราต้องมาช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข อยู่ดีกินดี ไม่เอาเรื่องเล็กน้อยมาหยุดยั้งการทำงาน สำหรับตนนั้นผ่านเหตุการณ์มาหลายสมัย ได้เห็นการติดขัดในปัญหาหลายอย่าง เชื่อว่า ทุกคนน่าจะรู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยเฉพาะประเทศไทยที่ยึดหลักกฎหมายหรือ นิติรัฐ ในการบริหาราชการทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ขณะเดียวกันเมื่อก่อนอำนาจอธิปไตยของเราจะมีเพียง 3 ฝ่ายคือ นิติบัญญัติ บริหารและตุลาการเท่านั้น แต่ปัจจุบันก็มีอำนาจขององค์กรอิสระ และการบริหารในรูปขององค์กรมหาชน ขึ้นมาทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้กฎหมายด้วย
"เราต้องยอมรับว่ากระแสของสื่อมวลชนทั้งในประเทศ ต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ การวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง ซึ่งการที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำเนินการสรรหาผู้บริหาร อปท.แทนการเลือกตั้ง นับเป็นความท้าทาย เพราะว่า เป็นที่จับตามอง ถือเป็นเรื่องที่ควรภูมิใจ นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังจากสังคม จึงฝากให้ช่วยกันทำงานให้ดีกว่าสถานการณ์ปกติ ทำงานด้วยความปรองดอง ไม่แบ่งฝ่าย ไม่มีสีใดๆ แม้ทุกหน่วยงานจะมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนยอมรับ" ปลัด มท. กล่าว
ปลัด มท. กล่าวอีกว่า อปท. ต้องบริหารงานด้วยความละเอียด ใกล้ชิดประชาชน เป้าหมายคือทำให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง ดำเนินแนวทางบริหารให้สอดคล้องกับ คสช. เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด การจัดการขยะ ค่านิยม 12 ประการ รวมถึงการใช้จ่ายงบต่างๆ ต้องมีความโปร่งใสเพื่อลบข้อครหาที่จะตามมา ต้องดูระหว่างความถูกใจและถูกต้อง หากทำไม่ถูกต้องสุดท้ายก็ต้องยึดกฎหมาย ทั้งนี้วันจันทร์ที่ 29 ก.ย. นี้ ตนอาจจะปลดผู้ว่าราชการจังหวัดบางคน
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีมหาดไทยจะมีการประชุมทางไกลกับ อปท.โดยตรง ส่วนเรื่องศูนย์ดำรงธรรมจะมีการรายงานความคืบหน้าทุกเรื่อง ทุกสัปดาห์ และจะประเมินงานทุกเดือน เพื่อกระตุ้นการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 3 เดือน