- Details
- Category: ทหาร-กลาโหม
- Published: Tuesday, 02 December 2014 12:25
- Hits: 13972
มาเลย์หนุนแก้ใต้ บิ๊กตู่ถก'นาจิบ'สานต่อเจรจา แย้มใช้ 66/23
มือมืดป่วนหนัก 4 จว.ใต้ ทั้งเผาโรงเรียน วางบึ้ม ขึ้นป้ายต้าน'บิ๊กตู่'เยือนมาเลย์ ครบทั้งสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราฯ ส่วนที่กะพ้อคนร้ายวางระเบิด 15 ก.ก. ดักบึ้มขบวนรถปลัด บาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่บาเจาะดักรัวพรุนผช.ผญบ.ดับสยอง ก่อนฉกปืนของคนตายหลบหนีไป ชาวยะหริ่งรวมใจประณามเหตุยิงนักเรียนดับ นายกฯ นำคณะไปเชื่อมสัมพันธ์กับมาเลย์ พร้อมคุยเรื่องเปิดโต๊ะถกสันติสุขครั้งใหม่
วันที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8770 ข่าวสดรายวัน
ถกมาเลย์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พบปะนายนาจิบ ราซัก นายกฯ มาเลเซีย หารือแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ระหว่างการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. |
"บิ๊กตู่"บินเยือนมาเลย์
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. นำคณะเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานที่ปรึกษากองทัพบก นาย อนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เลขาธิการ กอ.รมน. และพล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4
นายอนุสิษฐเผยว่า นอกจากไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการตามธรรมเนียมของนายกฯ แล้ว จะหารือในหลายประเด็นสำคัญ รวมทั้งการแนะนำตัว พล.อ.อักษราในฐานะหัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทยให้กับทางมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย แต่ยังไม่มีการลงในรายละเอียด เพราะเขาต้องไปพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ก่อนนัดพูดคุยอย่างเป็นทางการอีกครั้งกับฝ่ายไทย
ร่วมถก"นาจิบ"แก้ไฟใต้
ต่อมาเวลา 11.45 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ประเทศมาเลเซีย พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ หารือทวิภาคีเต็มคณะกับนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวแสดงความพอใจกับผลการหารือกลุ่มเล็กกับนายกฯ มาเลเซียก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลไทยยืนยัน จะเดินหน้าสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก โดยจะหารือในรายละเอียดกันต่อไป เพื่อให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขมีความคืบหน้าอย่างแท้จริง
ต่อมา เวลา 19.00 น. ที่ บน.6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลสำเร็จของการเยือนมาเลยเซียว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดี ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยเพื่อสันติสุข ได้พูดคุยในหลักการคือการกำหนดให้มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกเช่นเดิม ซึ่งการทำงานแบ่งเป็น 3 ระดับคือ 1.ระดับบน เป็นระดับนโนบาย รัฐบาลมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ 2. คณะกรรมการขับเคลื่อน มีคณะกรรมการในการพูดคุยซึ่งอยู่ในยุทธ ศาสตร์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว คณะทำงานตรงนี้แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ทั้งเรื่องของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การพัฒนาและการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชน 3.เป็นการพูดคุยของแต่ละคณะ จากนั้นมอบหมายให้มาเลเซียเป็นผู้ประสานหาผู้ที่จะมาหารือกับฝ่ายไทย
เผยฟื้นนโยบาย 66/23
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการพูดคุยในแง่หลักการ โดยมี 3 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นตอนความไว้วางใจ ต้องยืนยันว่า ผู้ที่จะมาพูดคุยต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง เพราะเราไม่ต้องการยกระดับให้มีอื่นๆ เข้ามาอีก ซึ่งทางการมาเลเซียยอมรับข้อเสนอ ดังกล่าว และตนแจ้งให้ทราบว่าไทยได้แต่งตั้ง พล.อ.อักษรา เป็นหัวหน้าคณะในการพูดคุยเพื่อสันติสุข ทางการมาเลเซียไม่ได้มีปัญหาอะไร 2.เมื่อสร้างความเข้าใจได้แล้ว จะไปสู่ขั้นตอนว่าทั้งสองฝ่ายต้องลงสัตยาบันร่วมกัน ว่าต้องหยุดเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น แต่จะใช้ระยะเวลาเท่าไรบอกไม่ได้ 3.หลังลงสัตยาบันจะถึงขั้นที่ว่าทุกกลุ่มต้องมากำหนดโรดแม็ป ร่วมกัน ว่าจะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งเป็นหลักสากลในการพูดคุย
นายกฯ กล่าวว่า ขอฝากอีกครั้งว่าไหนๆ เราเริ่มต้นอย่างถูกต้องครั้งนี้แล้วอย่ามาเร่งรัด เพราะจะกลายเป็นแรงกดดันทำให้อีกฝ่ายมาใช้เรื่องดังกล่าวสร้างสถานการณ์ และกดดันเราก็จะมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ขอย้ำอีกครั้งถ้าเขาอยากยุติความรุนแรงก็ต้องมาคุยกับเราและเราจะดูแลให้ ทั้งกฎหมาย เช่น นโยบาย 66/23 ความไม่เป็นธรรม ที่อยู่ที่กิน เรามีกฎหมายทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่ต้องการหรือแสดงออกว่าต้องการก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาเร่งรัดตัวเอง หน้าที่ของเราคือการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ดีที่สุด ดูแลประชาชนที่บริสุทธิ์ให้ได้มากที่สุด ส่วนวิธีการของอีกฝ่ายคือสร้างความเกลียดชังขึ้นมาเรื่อยๆ ตนไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบเกิดขึ้นมาอีกโดยมาเลเซียเห็นด้วยทุกประการ
แขวนป้ายป่วนทั่วใต้
ส่วนเหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่เกิดเหตุคนร้ายแขวนป้ายผ้าโจมตีการทำงานของรัฐบาลจำนวนหลายจุดในพื้นที่ จ.สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา โดยในพื้นที่บ้านคอลอมุดอ ม.1 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พบป้ายผ้าเขียนข้อความโจมตีการทำงานของรัฐบาลไปแขวนไว้กับต้นไม้ข้างถนน โดยวางวัตถุต้องสงสัยไว้บนสะพานด้วย และที่บ้านควนหรัน ม.10 ต.เปียน มีป้ายผ้าข้อความลักษณะเดียวกันแขวนไว้ริมถนนหมู่บ้าน นอกจากนั้นยังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายนาริชา บาสาปี และนายอาหะมะ นาเห๊ะ เหตุเกิดในพื้นที่ ม.2 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบพื้นที่ชายแดนภาคใต้หรือไม่
ขณะเดียวกันที่ จ.ปัตตานี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีผู้ไม่หวังดีไม่ทราบฝ่ายและจำนวนแขวนป้ายผ้าก่อกวนในหลายอำเภอ พร้อมกับนำวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดนำมาวางกับป้ายผ้าดังกล่าว โดยมีข้อความว่า "เหมาะสมแล้วหรือที่จะเจรจากับรัฐบาลรัฐประหาร เพราะไม่มีสิ่งใดที่เป็นหลักประกันให้เชื่อว่าจริงใจ"
ดักระเบิดรถปลัดกะพ้อ
โดยในพื้นที่เขต อ.เมืองปัตตานี พบ 1 จุด บริเวณตลาดนัดบานา ม 1 ต.บานา, อ.ปะนาเระ พบ 1 จุด บริเวณรั้วโรงเรียนเชาวน์ปัญญา, อ.โคกโพธิ์ พบ 3 จุด บริเวณ ม.4 ต.บางโกระ, ถนนสายนาเกตุ-นาประดู่ ม.4 ต.นาเกตุ
และในพื้นที่ ม.1 บ้านยางแดง ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ ซึ่งจุดดังกล่าวได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นด้วย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย อยู่ระหว่างควบคุมตัวไปสอบสวน
อ.ยะหริ่ง 2 จุด ริมถนนสาย 42 ม.2 และในพื้นที่ ม.3 ต.บางปู, อ.ยะรัง 2 จุด บริเวณศาลาโค้งบือแนกือบง ม.3 ต.ประจัน และบริเวณกูโบร์ ถนนสายยะรัง-มายอ ม.3 ต.ยะรัง อ.หนองจิก 2 จุด บริเวณริมถนนสาย 42 ม.4 ต.ตุยง และหน้าโรงเรียนตลาดนัดคลองขุด ม.1 ต.บางเขา, อ.กะพ้อ 1 จุด บริเวณหน้ามัสยิด ม.1 ต.กะรุบี
ต่อมาเวลา 10.30 น. พนักงานสอบสวนสภ.กะพ้อ รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่คณะปลัดอำเภอกะพ้อ ในพื้นที่ บ้านคอกวัว ม.5 ต.ปล่อยหอย เป็นเหตุให้รถยนต์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยนายบรรหาญ คชินทร ปลัด อำเภอกะพ้อ และอส.อำรำ จือนะรา พลขับ มีอาการหูอื้อบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นทราบว่า คณะปลัดอำเภอกะพ้อ กำลังเดินทางกลับจากไปปฏิบัติภารกิจ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน จุดระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่
ยะลาบึ้มชุดเก็บกู้
ป่วนใต้ - เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและ เก็บป้ายผ้าหลายจุดใน จ.นราธิวาส และอีก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีข้อความต่อต้านรัฐบาล บางจุดมีการลอบวางระเบิดป่วนซ้ำ แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. |
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมพ.ต.ต.พีระศักดิ์ หลอดแก้ว สารวัตรชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ร.ต.ท.นพพล ศักดิ์แก้ว หัวหน้าชุดฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายแขวนป้ายผ้า บริเวณวงเวียนบ้านบ่อเจ็ดลูก ถนนสาย 418 ม.6 ต.ยุโป อ.เมือง จึงปลดป้ายดังกล่าวลง
แต่ขณะทั้งหมดกำลังจะเดินทางกลับ คนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบหลุมระเบิดกว้าง 30 ซ.ม. พร้อมทั้งเศษถังแก๊สขนาด 15 ก.ก. เศษแผงวงจรวิทยุสื่อสาร เศษสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดขนาด 1 ซ.ม.
นอกจากจุดดังกล่าวแล้วเจ้าหน้าที่ยังพบ ผู้ไม่หวังดีแขวนป้ายผ้าในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง ประกอบด้วย ที่สะพานระหว่างแยกบ้านเตาปูน-บ้านหน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา, บ้านเงาะกาโป และบ้านตะบิงตีงี อ.บันนังสตา รวม 2 จุด, ด้านหน้ามัสยิด ม.1 ต.ธารโต อ.ธารโต และในพื้นที่บ้านกาตอง อ.ยะหา แห่งละ 1 จุด
นราฯ เผารพ.สต.
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย แว้ง สุไหงปาดี ระแงะ ยี่งอ รือเสาะ จะแนะ และเมืองนราธิวาส สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบ เหตุคนร้ายได้นัดแนะนำป้ายผ้าเขียนข้อความ ซึ่งกลุ่มผู้ไม่หวังดีตระเวนผูกไว้ตามสถานที่ต่างๆ จำนวน 11 จุด
สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายแยกได้เป็นอำเภอต่างๆ ดังนี้ 1. อ.รือเสาะ คนร้ายลอบวางเพลิงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สาวอ ตั้งอยู่ ม.6 ต.สาวอ โดยคนร้ายวางเพลิงที่เครื่องปั๊มน้ำด้านซ้ายมือของตัวอาคาร แต่ชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทัน ทำให้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยก่อนหลบหนีคนร้ายอีกชุดหนึ่งตัดต้นไม้ใหญ่ริมถนนขวางทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าสกัดกั้นต้นเพลิง,
2. อ.แว้ง คนร้ายนำป้ายผ้าไปผูกไว้ที่กิ่งไม้ริมถนนใกล้สะพานน้ำดำ ม.1 ต.กายูคละ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไม้เกี่ยวกับป้ายผ้าเพื่อดึงออก ก็เกิดระเบิดขึ้นแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งระเบิดดังกล่าวประกอบใส่ไว้ในท่อพีวีซีหนัก 0.5 ก.ก. จุดชนวนด้วยระบบดึง
3. อ.สุไหงปาดี คนร้ายนำป้ายผ้าจำนวน 3 ผืนไปผูกไว้ที่บริเวณราวสะพานบ้านจือแร ม.9 ต.สากอ โดยมีวัตถุต้องสงสัยผูกไว้ที่บริเวณชายผ้า ตำรวจสภ.สากอ จึงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงทำลาย พบว่าเป็นระเบิดปลอม,
4. อ.ระแงะ คนร้ายแขวนป้ายผ้าจำนวน 3 จุด จุดที่ 1 หน้ามัสยิดบ้านเจ๊ะเก ม.2 ต.บาโงสะโต จุดที่ 2 แขวนป้ายผ้าและเผากล้องวงจรปิดที่บ้านดามาบูเว๊าะห์ ม.1 ต.ตันหยงลิมอ จุดที่ 3 เขตรอยต่อบ้านซีโปร์กับบ้านบาโงลูโบะอาแน ต.เฉลิม
รัวพรุนดับผู้ช่วยผญบ.
5. อ.ยี่งอ คนร้ายแขวนป้ายผ้าจำนวน 3 จุด จุดที่ 1 บ้านกาเด็ง ม.7 ต.ละหาร จุดที่ 2 บ้านบูเกะปาลัส ม.4 ต.ยี่งอ และจุดที่ 3 ริมถนนเพชรเกษม เลยจุดรอรถโดยสารปากทางเข้าชมรมโต๊ะอิหม่าม ม.1 ต.ลูโบะตาแซ,
6. อ.เมืองนราธิวาส คนร้ายนำป้ายผ้าไปแขวนไว้ที่ริมรั้วกูโบบ้านยะกัง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส และ 7. อ.จะแนะ คนร้ายนำป้ายผ้าไปแขวนไว้ที่บริเวณ 4 แยกแท็กซี่ บ้านดุซงญอ ม.1 ต.ดุซงญอ
ก่อนหน้านั้นในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.บัญชา สำเนียงประเสริฐ ร้อยเวร สภ.บาเจาะ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านยะลูตงดูวอ ม.6 ต.กาเยาะมาตี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เกิดเหตุพบศพนายอับดุลเลาะ อาแซ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.3 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ไทรทอง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดจนพรุนไปทั้งร่าง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากนำยาเส้นไปขายที่ตลาดนัดในพื้นที่ อ.บาเจาะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนขโมยปืนพกประจำกายขนาด .38 ของผู้ตายหลบหนีไป สันนิษฐาน ว่าเป็นฝีมือกลุ่มหัวรุนแรงที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่
กอ.รมน.สรุป 29 จุดป่วน
วันเดียวกัน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปเหตุการณ์เบื้องต้น เกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ ด้วยการแขวนป้ายผ้าเขียนข้อความโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และวางวัตถุต้องสงสัยในหลายพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบางส่วนของจ.สงขลา โดยพบทั้งหมด 29 จุด ประกอบด้วย จ.ปัตตานี 11 จุด ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ 1 จุด, อ.เมือง 1 จุด, อ.โคกโพธิ์ 2 จุด, อ.ยะหริ่ง 2 จุด, อ.ยะรัง 2 จุด, อ.หนองจิก 2 จุด และอ.กะพ้อ 1 จุด, จ.นราธิวาส จำนวน 11 จุด ในพื้นที่ อ.ยี่งอ 3 จุด, อ.แว้ง 1 จุด, อ.ระแงะ 1 จุด, อ.จะแนะ 1 จุด, อ.สุไหงปาดี 1 จุด และอ.เมือง 4 จุด, จ.ยะลา จำนวน 6 จุด ในพื้นที่ อ.เมือง 2 จุด, อ.บันนังสตา 2 จุด, อ.ธารโต 1 จุด และอ.ยะหา 1 จุด ส่วนที่จ.สงขลา มีเพียงจุดเดียว ในพื้นที่ระหว่างบ้านนาจาก ม.2 และบ้านควนหรัน ม.10 ต.ท่าม่วง อ.เทพา
ด้านพ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกอ.รมน. กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเพื่อต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และคณะที่ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซียว่า ข้อความในป้ายผ้าจะมีความคล้ายกัน เป็นความพยายามลดทอนภาพลักษณ์การเยือนประเทศมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีและคณะ โดยเฉพาะการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากประชาคมโลก รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ
จึงขอเรียนชี้แจงว่า การเดินหน้าของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายร่วมกันเรียกร้อง ดังนั้นจึงควรให้การสนับสนุนเพื่อให้กระบวนการพูดคุยดำเนินต่อไป เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีแนวทางและขั้นตอนที่ชัดเจนในการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์
ปัตตานีต้านรุนแรง
ส่วนที่หน้าโรงเรียนส่งเสริมศาสน์ ศูนย์ปฏิบัติการ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ภายใต้การนำของนายสาโรช กาญจนพงศ์ นายอำเภอยะหริ่ง และผอ.ศปก.ยะหริ่ง ร่วมกับทหารพราน ฉก.ทพ.42 สภ.ยะหริ่ง สภ.ราตาปันยัง หน่วยงานส่วนราชการต่างๆ กลุ่มผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา กลุ่มพลังมวล และนักเรียน ประมาณ 800 คน แสดงพลังต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบและประณามการ กระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ก่อเหตุประกบยิงนักเรียนโรงเรียนเดชะปัตนยานุกูล เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม เป็นพฤติกรรมอันสุดโต่ง ใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ให้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนและเป็นอนาคตของชาติ
ปะทะเดือดอาร์เคเค
รายงานข่าวแจ้งว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.15131 ฉก.นราธิวาส 30 ปะทะกับกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค บนเทือกเขาบูโด หลังหมู่บ้านกาโดะ ม.4 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลัง เข้าตรวจสอบเนื่องจากได้รับเบาะแสว่ามีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค หลบซ่อนตัวอยู่เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย ขณะที่กองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคถอยร่นขึ้นไปบนเทือกเขา โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ขอชุดสุนัขดมกลิ่นและกำลังเสริมสนับสนุน เนื่องจากเป็นช่วงฟ้ามืดสนิท เพื่อติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายต่อไปแล้ว