- Details
- Category: สภาหอการค้าไทย
- Published: Tuesday, 01 December 2015 21:33
- Hits: 5963
กกร.เตรียมเสนอ มคิด ขอเพิ่มวงเงินซอฟท์โลนอีก 1 แสนลบ. แต่ลดวงเงินผู้กู้เหลือรายละไม่เกิน 15 ลบ. จากเดิม 50 ลบ.
กกร. เตรียมเสนอรองนายกฯสมคิด ขอเพิ่มวงเงินซอฟท์โลนอีก 1 แสนลบ. หลังความต้องการยังมีสูงแต่ปรับลดวงเงินของผู้กู้จากเดิมปล่อยรายละไม่เกิน 50 ล้านบาท เหลือไม่เกินรายละ 15 ล้านบาท เผยศก.เดือนต.ค.ฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป รับอานิสงส์รัฐอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเอสเอ็มอี
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เตรียมเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพิ่มวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) อีก 1 แสนล้านบาท ภายหลังยังมีความต้องการสูงอยู่และลูกค้าเอสเอ็มอีไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยเงื่อนไขยังเป็นตามเดิม เพียงแต่ปรับลดวงเงินของผู้กู้จากเดิมปล่อยรายละไม่เกิน 50 ล้านบาท เหลือไม่เกินรายละ 15 ล้านบาท เพื่อให้ได้จำนวนลูกค้ามากขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอต่อรองนายกฯ ได้ในเร็วๆ นี้
"เงินซอฟท์โลนก้อนแรกหมดลง 1-2 วันที่ผ่านมา และเราก็ได้รับการร้องเรียนจากสภาหอต่างๆ และลูกค้าเอสเอ็มอี ที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน และยังมีความต้องการเงินขยายธุรกิจ ทำให้ที่ประชุม กกร. เห็นว่าควรขอเพิ่มวงเงินซอฟท์โลนอีก 1 แสนล้านบาท เพื่อต้องการให้ลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็ก ๆ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่ค้างท่ออยู่ แต่เรายังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นวงเงินเท่าไร และลูกค้ากลุ่มไหน"นายอิสระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมาตรการที่เสนอไปไม่ได้รับการอนุมัติ ทางกกร. ก็จะให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยเหลือลูกค้า โดยต้องหารือกับธนาคารเพื่อกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ร่วมกัน
นายอิสระ กล่าวว่า ในวันนี้ กกร. ประชุมสรุปภาวะเศรษฐกิจเดือนต.ค. ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงขับเคลื่อนของภาครัฐ ในเดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 โดยเฉพาะการเบิกงบลงทุนที่ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เช่น เอสเอ็มอี และภาคการท่องเที่ยวที่กลับสู่ภาวะปกติ และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งการฟื้นตัวมาจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก
สำหรับ การบริโภคภาคเอกชนกระเตื้องขึ้นในหมวดการใช้จ่ายสินค้าไม่คงทน พวกสินค้าจำเป็น ขณะที่การใช้จ่ายสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ปรับตัวดีขึ้น โดยสาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต รถยนต์ช่วงต้นปีหน้า แต่โดยรวมแล้วการบริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่ภาคธุรกิจยังมีกำลังการผลิตเพียงพอ ส่วนการลงทุนด้านก่อสร้างยังทรงตัว
ขณะที่ภาคส่งออกเดือนต.ค. หดตัวแรงถึง 8.1% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเปรียบเทียบกับฐานสูงสุดปีก่อนที่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าแทบทุกหมวดอยู่ในแดนลบ และเป็นการชะลอลงทุกตลาด ทำให้ยอดส่งออก 10 เดือนแรกปีนี้หดตัว 5.3% อย่างไรก็ตามภาวะซบเซาของการส่งออกยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับส่งออกภูมิภาค
"เศรษฐกิจช่วงท้ายของปี กกร.ประเมินว่า ความเชื่อมั่นภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการประกาศให้ปี 59 เป็นปีแห่งการลงทุน โดยเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กกร. ประเมินว่าหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็คาดว่าเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากกว่า 1 แสนล้านบาท เพิ่มเติมจากงบลงทุนที่สูงถึง 5.4 แสนล้านบาท และส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศปรับดีขึ้นตามไปด้วย ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมปีหน้าจะแถลงอีกครั้งเดือนธ.ค. "นายอิสระ กล่าว
นอกจากนี้ กกร. จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนกรอ. จังหวัด เพราะกรอ.จังหวัดจะมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนความต้องการของพื้นที่ในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาศักยภาพของพื้นที่น้ั้น ๆ ดังนั้นการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดจึงมีความสำคัญ และควรสอดคล้องกับแผนพัฒนาภาค ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม กกร.ยังคงติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ Ease of Doing Business อย่างต่อเนื่องโดยกระบวนงาน 5ด้าน ซึ่งกกร. ให้ความสำคัญระดับต้น ๆคือการจัดตั้งธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การชำระภาษี การนำเข้าส่งออก และการท่องเที่ยว& Visa work Permit และรวมถึงปัญหาผังเมืองที่เป็นอุปสรรคในการขยายโรงงานและการประกอบกิจการ ดังนั้นกกร. จึงแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนวทางการพัฒนาผังเมือง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบนำเสนอภาครัฐ โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเป็นคณะทำงานและขอบข่ายการศึกษา เช่น ศึกษาปัญหาอุปสรรค และความคิดเห็นของภาคส่วน เพื่อจัดทำข้อเสนอ แนวทางแก้ไข ปัญหาผลกระทบจะบังคับใช้ผังเมืองทั้งมาตรการระยะสั้นและยาว และศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย การบูรณาการ และการตีความกฎหมายของส่วนราชการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย