WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FITสพนธ มงคลสธกกร.แนะรัฐบาลดันราคาสินค้าเกษตรช่วยชาวบ้าน กระตุ้นกำลังซื้อในท้องถิ่น

     แนวหน้า : กกร.ชี้เศรษฐกิจเปราะบาง การใช้จ่ายของภาคเอกชนและการบริโภคแผ่ว แต่ยังหวังครึ่งปีหลังฟื้นจากการเร่งลงทุนของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ พร้อมแนะรัฐบาลเร่งอุดหนุนราคาสินค้าเกษตร เพิ่มเม็ดเงินในมือเกษตรกร กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ

     นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคมว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนแผ่วลง แม้มีปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายภาครัฐคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบลงทุน และภาคการท่องเที่ยวยังคงรักษาโมเมนตัมเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ภาคส่งออกยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

    ทั้งนี้ กกร. ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ส่งออกอย่างใกล้ชิด จากความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าเป็นไปในเชิงลบมากขึ้นโดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงติดต่อกันสองครั้ง และล่าสุด มาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางค่าของเงินบาทได้มากน้อยเพียงใด

    ส่วนครึ่งปีหลังยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดี เพราะจะมีการลงทุนภาครัฐในโครงการเมกะโปรเจกท์ต่างๆเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยภาคเอกชนได้มาก แต่ยังเป็นห่วงด้านการเกษตรที่ชะลอตัวค่อนข้างมาก ราคาผลผลิตตกต่ำโดยเฉพาะข้าวที่ราคาลดลงจาก 1.5 หมื่นบาท/ตัน เหลือเพียง 6 พันบาท/ตัน ทำให้อัตราการบริโภคในท้องถิ่นลดลงมาก ดังนั้น แนวทางการแก้ไขรัฐบาลจะต้องเข้ามาอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรโดยด่วน เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ และเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ

    นายสุพันธุ์กล่าวอีกว่าจากปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้สถาบันการเงินลดการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ซึ่งที่ผ่านมากกร.ได้เสนอมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี โดยขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือบสย.ช่วยขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีจากจาก 18% เป็น 30% ส่วนภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง ควรได้รับการขยายวงเงินสินเชื่อเพิ่มเป็น 50% แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากข้อเสนอดังกล่าว

   สำหรับ ภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกซบเซา มองว่าแม้การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.50% ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยให้ต้นทุนธุรกิจปรับลดลงตามไปด้วย แต่ ธปท. ก็ควรออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อดูแลให้ค่าเงินบาทไม่อ่อนค่าจนเกินไป และให้สามารถแข่งขันกับภูมิภาคได้ โดยเอกชนยังยอมรับได้หากค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ในกรอบ 3-5% โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤษภาคมเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบหลายปีแตะระดับ 33.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

    ทั้งนี้ ที่ประชุม กกร. จะยังคงติดตามทิศทางเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 อย่างใกล้ชิด โดยประเมินว่าหากยังไม่ปรับตัวดีขึ้น อาจเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้ง

   พร้อมกันนี้ กกร.ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลเรื่อง Ease of doing business ที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการ Competitiveness ของ กกร.เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของภาคเอกชน โดย กกร.จะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.) เพื่อสนับสนุนผลักดันโครงการต่างๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคเอกชนและประชาชน ในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!