- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Saturday, 15 April 2017 14:36
- Hits: 9745
ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. 60 อยู่ที่ 76.8 เพิ่มขึ้นจาก ก.พ. 60 ที่อยู่ 75.8 ดีสุดในรอบ 24 เดือน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. 60 อยู่ที่ 76.8 จากเดือนก.พ. 60 ที่อยู่ 75.8 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 และ เป็นระดับที่ดีที่สุดในรอบ 24 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 58 เนื่องจากการท่องเที่ยว และ การส่งออกปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมันและอ้อยส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในหลายจังหวัดที่ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นเริ่มขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่บวกับราคาข้าวที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ ประกอบกับ สถานการณ์ไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ และ Brexit
หรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนมี.ค. 60 อยู่ที่ 65.1 จากเดือนก.พ. 60 ที่ 64.3 โดยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และ เป็นระดับดีที่สุดในรอบ 15 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.59
สำหรับ การบริโภคของภาคประชาชนจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส 2/60 หากรัฐอัดฉีดเม็ดเงินงบประมาณกลางปีกว่า 1 แสนล้านบาทผ่านโครงการพัฒนา 18 กลุ่มจังหวัดในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งเป็นแผนเดิมที่รัฐบาลวางไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เพราะมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันและในอนาคต เพราะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงของการเริ่มฟื้นตัว และ การฟื้นตัวยังไม่ได้กระจายตัวไปยังทุกภาคอุตสาหกรรมหรือทุกพื้นที่ โดยการฟื้นตัวของการบริโภคน่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังถ้าสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง และ การส่งออกฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ตลอดจนราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ที่สำคัญรัฐบาลใช้งบประมาณกลางปีกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆได้อย่าางรวดเร็วและเป็นรูปธรรมในไตรมาส 2/60
ม.หอการค้าไทย ยังคงเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 60 ที่ 3.6% โดยไตรมาส 1/60 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2% ไตรมาส 2/60 ขยายตัวได้ 3.4% ทำให้ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 3.3% ส่วนไตรมาส 3/60 ขยายตัวได้ 3.7% และ ไตรมาส 4/60 ขยายตัว 4% โดยปัจจัยหนุนจะมาจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.5%
ส่วนการท่องเที่ยวปีนี้ยังเป็นพระเอกให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามคาด ซึ่งประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้จะสูงถึง 34.5-35.5 ล้านคน ประกอบกับ การส่งออกปีนี้ยังคงประมาณเดิมโดยคาดขยายตัว 2-3% แต่มีโอกาสที่การส่งออกจะขยายตัวเกิน 3% ได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวแตะ 4%
"การที่เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เพราะนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเห็นว่าเราเดินตามโรดแมพที่เคยประกาศไว้ ซึ่งอย่างเร็วการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ในปี 61 ส่งผลดีต่อตลาดทุน ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้บ้านเรา"นายธนวรรธน์ กล่าว
ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-17 เม.ย. 60 พบว่าจะมีเงินสะพัด 127,693.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่ 124,542.66 ล้านบาท หรือ เติบโต 2.53% ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 12 ปี โดยบรรยากาศปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเห็นประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัดมากขึ้น โดยส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ซึ่งกิจกรรมที่นิยมทำในสงกรานต์ยังซื้อของสูงสุดที่ 86% โดยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทอง สูงถึง 18,491.36 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 59 ที่ 7,625.93 ล้านบาท
โพลล์หอการค้าฯ คาดช่วงสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัด 1.27 แสนลบ.โต 2.53% ส่วนใหญ่เที่ยวในปท.
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 60 คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 1.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.53% โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 71.6% ระบุว่ามีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวในจังหวัดที่อาศัยอยู่, ท่องเที่ยวจังหวัดอื่นในประเทศ และท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีก 23.9% ระบุว่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน และอีก 4.6% ระบุว่า ไม่มีการวางแผนไปท่องเที่ยว
กลุ่มตัวอย่างที่วางแผนไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ พบว่าส่วนใหญ่ 90.1% วางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 3,951 บาท/คน ส่วนอีก 9.9% ที่วางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 75,333 บาท/คน ส่วนแผนการใช้จ่ายด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวนั้น พบว่าอันดับ 1 จะเป็นการเดินทางไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ และไปเยี่ยมญาติ อันดับ 2 ไปทำบุญ อันดับ 3 ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อันดับ 4 ซื้อกระเช้า และอันดับ 5 ไปเล่นน้ำสงกรานต์
จากการสำรวจบรรยากาศสงกรานต์ในปี 60 เมื่อเทียบกับปี 59 โดยภาพรวมจะเป็นอย่างไรนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 53.1% เชื่อว่าบรรยากาศจะสนุกสนานเหมือนเดิม รองลงมา 18.6% ตอบว่าจะสนุกสนานมากกว่า และอีก 18.2% ตอบว่าสนุกสนานน้อยกว่า ในขณะที่ 10.1% ตอบว่าไม่สนุกสนานเหมือนเดิม โดยความกังวลที่พบในช่วงสงกรานต์ปีนี้ 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 อากาศร้อน อันดับ 2 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อันดับ 3 การจราจรติดขัด อันดับ 4 อุบัติเหตุและความปลอดภัยในการเดินทาง อันดับ 5 ปัญหาการโจรกรรมเมื่อไม่อยู่บ้าน
สำหรับ พรที่ต้องการขอนั้น พบว่าหากเป็นพรที่ขอให้กับประเทศไทย ส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างจะขอให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระราชินีในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน, ขอให้ประเทศไทยมีผู้นำที่ดีมาบริหารประเทศ และขอให้ประเทศไทยหมดจากปัญหาอาชญากรรม แต่หากเป็นการขอพรให้ตัวเองนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะขอให้ร่ำรวย มีเงินมีทองใช้, ขอให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน, ขอให้พบเจอแต่สิ่งที่ดี และขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,197 ตัวอย่าง ดำเนินการสำรวจตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. – 2 เม.ย.60
อินโฟเควสท์