WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ม.หอการค้า เชื่อทีม ศก.มืออาชีพ

     บ้านเมือง : นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเติบโตได้ที่ 4-5% ทำให้ทั้งปี 57 เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวประมาณ 2-2.5% และคาดว่าตั้งแต่ปี 58 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า GDP ในช่วง 2-5 ปี ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จะเติบโตใกล้เคียงกรอบ 5% โดยภาคการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากนักท่องเที่ยวมั่นใจและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามปกติ ขณะที่การส่งออกเชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 57 คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 3.5% และไตรมาสสุดท้ายของปี 57 คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 5.6% ส่งผลให้ GDP ของปี 57 อยู่ที่ระดับ 2.2% หลังจากครึ่งแรกของปีขยายตัวติดลบ 0.4% เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง 6.6% และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 9.9%

    "ผลกระทบจากสถานการณ์ที่พลิกผันทำให้เม็ดเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจราว 2-2.5 แสนล้านบาท แต่เมื่อ คสช.เข้ามาเร่งรัดการจ่ายเงินรับจำนำข้าว การลงทุนทำให้เม็ดเงินที่หายไปลดลงเหลือ 5-7 หมื่นล้านบาท หลังจากนี้ คสช.ควรเร่งรัดเบิกจ่ายจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีกลับมาฟื้นตัว"

    นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดใหม่น่าจะทำงานได้รวดเร็ว เพราะเป็นมืออาชีพ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้รวดเร็ว ส่วนข้อกังวลกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทหารจะเข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรีเป็นจำนวนมากนั้น ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาคงได้เห็นแล้วว่าไม่น่าเป็นกังวล เพราะมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว และรับข้อมูลรอบด้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการปรับปรุงกฎหมายสำคัญให้สอดคล้องกับนานาชาติ

     ขณะที่นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพรวมภาคการลงทุนในปี 57 คาดว่าจะยังติดลบ 0.4% การบริโภคเอกชนขยายตัว 1.2% การส่งออกขยายตัว 1.8% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวลดลง 5.9% และรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวลดลง 2.8% อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.00-33.00 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 104-109 ดอลลาร์/บาร์เรล  ส่วนภาพรวมภาคการลงทุนในปี 58 คาดว่าจะขยายตัว 13.3% การบริโภคเอกชนขยายตัว 4.5% การส่งออกขยายตัว 6.2% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.0% และภาคการท่องเที่ยวขยายตัว 10.0% และรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัว 6.7%

รับความจริงจีดีพี โตแค่ 2%เอกชนเชื่อมั่นดรีมทีมเศรษฐกิจยุค คสช.แกร่ง

    บ้านเมือง : คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ต่อใบอนุญาตให้กับช่องดาวเทียม OHO Channel และช่องรายการ Mix 24 Variety หลังพบโฆษณาอาหารและยาที่ฝ่าฝืนกฎหมาย อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ชี้ว่าจงใจกระทำความผิด ชงเข้าบอร์ดจันทร์หน้า และทำหนังสือเตือนอีก 20 ช่องรายการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพหลอกลวงผู้บริโภค ให้ระงับโฆษณา

    คลังติดเทอร์โบเบิกจ่ายงบปี 57 พร้อมเดินหน้างบปี 58 ให้ทันตามแผน พร้อมกระตุ้นการบริโภค-ลงทุนเอกชน ให้ขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจดันเศรษฐกิจ 6 เดือนหลังโตได้ 4.3% ส่งผลทั้งปีจีดีพีโตตามเป้า 2% แน่นอน ด้าน ผอ.สำนักงบเผยยอดเบิกจ่ายทั้งปีไม่พลาด 92% แน่ ขณะที่เอกชนเชื่อ ศก.ครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งแรกชัวร์

     นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ การผลักดันเศรษฐกิจครึ่งปีหลังสู่เป้าหมายจีดีพีมากกว่า 2% ในงานสัมมนา "อนาคตเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติการเมือง" จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า กระทรวงการคลัง จะเร่งผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 57 ที่ยังค้างอยู่ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการเดินหน้างบประมาณประจำปี 58 ให้ได้ตามกำหนด หลังจาก คสช.ได้เห็นชอบให้มีการผลักดันงบประมาณจากการลงทุนโครงการล้างท่อต่างๆ ทั้งหมดแล้ว รวมทั้งการเร่งรัดการบริโภคในประเทศ จากการจ่ายเงินจากโครงการรับจำนำข้าวให้กับชาวนาและการลงทุนของภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะสามารถขยายตัวได้ 4.3% จากในช่วงครึ่งปีแรกที่มีการขยายตัวติดลบ ส่งผลให้จีดีพีตลอดทั้งปีในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2%

      นอกจากนั้น คสช.ยังได้เร่งดำเนินการให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่งอย่างเร่งด่วนในปีงบประมาณ 58 ตามชายแดน เพื่อสกัดกั้นสินค้าเกษตรหรือแรงงานเข้ามาในส่วนกลาง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม ดังนั้น จึงดำเนินการให้มีการไปจัดตั้งโรงงานตามแนวชายแดน เพื่อที่แรงงานจะได้เดินทางไป-กลับได้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาพื้นที่

     ด้านนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว กว่า 3 แสนล้านบาท โดยคาดว่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 57 จะสามารถมีการใช้จ่ายได้อีก 2.5 แสนล้านบาท โดยจะทำให้เป้าหมายการเบิกจ่ายทั้งปีอยู่ที่ 92% จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ 90% ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวนี้เชื่อว่าจะทำให้จีดีพีไม่ต่ำกว่าเป้าหมายแน่นอน

      นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2-2.5% คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 3-3.5% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มกลับมาขยายตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และจากที่มีรายชื่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะเข้ามาดูแลงานในส่วนของกระทรวงการคลัง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูแลงานในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้น มั่นใจว่าจากประสบการณ์การทำงานของทั้งสองคน เชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง และภาพรวมของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภาคเอกชนอยากได้รัฐมนตรีที่ประชาชนยอมรับได้ มีความมั่นคง กล้าตัดสินใจ และมีความโปร่งใสในการทำงาน ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

     ขณะที่นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโตได้ที่ระดับ 2% โดยแนวโน้มครึ่งปีที่เหลือเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ที่ระดับ 4.2% ซึ่งปัจจุบันตัวดัชนีชีวัดเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งภาคการบริโภคและความเชื่อมั่นนักลงทุน และในปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้เกินกว่า 4% อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไทยต้องเร่งฟื้นฟูและใช้โอกาสนี้ในการปรับเปลี่ยน คือความสามารถในการแข่งขันที่ไทยถดถอยอยู่กับที่มาแล้ว 10 ปี ซึ่งหากสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนเหมือนเช่นในอดีตที่โตเฉลี่ยปีละ 5-7%

    ส่วนภาคธนาคารพาณิชย์คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีสินเชื่อจะเติบโตที่ระดับ 5-6% และในปีหน้าจะกลับมาขยายตัวได้มากกว่า 10% แต่สิ่งที่ต้องระวังคือสภาพคล่องที่จะเริ่มตึงตัวขึ้นจากสัญญาณการปรับดอกเบี้ยขึ้นของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกิดการไหลกลับของเงินทุน

    นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ที่ระดับ 2% โดยที่ภาคการส่งออกไตรมาสที่ 3 จะกลับมาขยายตัวได้เกิน 3% และในไตรมาสที่ 4 จะโตได้ประมาณ 4-5% โดยระยะต่อไปต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลักจะฟื้นตัวได้มากน้อยระดับใด รวมถึงนโยบายส่งเสริมของ คสช.ด้วย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!