- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Friday, 30 September 2016 15:26
- Hits: 5582
ม.หอการค้า คาดเงินสะพัดกินเจปีนี้ 4.39 หมื่นลบ. สูงสุดรอบ 3 ปี - ยังคงจีดีพี 3.3%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในงานแถลง ‘พฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ’คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในเทศกาลกินเจปีนี้ 4.39 หมื่นลบ. สูงสุดในรอบ 3 ปี และเพิ่มขึ้น 4.2% จากปี 58 ที่อยู่ 4.2 หมื่นล้านบาท หลังราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้่นและนิยมทานเจมากขึ้น ขณะที่ยังคงจีดีพีปีนี้โต 3.3% แม้หลายค่ายตบเท้าเพิ่มประเมินการ รายละเอียดดังนี้
ค่าใช้จ่ายโดยรวมเทศกาลกินเจสูงสุดรอบ 3 ปี อยู่ที่ 43,981 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 4.2% จากปี 58 ที่อยู่ 42,209 ล้านบาท หลังค่าอาหารเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามหากคิดเป็นค่าใช้จ่ายโดยรวมเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9,700 บาทต่อคน ซึ่งเพิ่มขึ้น จากปี 58 ที่อยู่ 9,600 บาทต่อคน โดยส่วนใหญ่มาจากค่าอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปีนี้การซื้อสินค้าพบว่าอาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูปเพิ่มสูงขึ้น 1-10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
"คนนิยมทานเจมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 57 อย่างไรก็ตามคนยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการฟื้นตัว แต่หากปริมาณการซื้อกลับเพิ่มมากขึ้น 40% เทียบกับปี 58 เพราะคนหันมาทานเจมากขึ้น"นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับ จีดีพีปีนี้ หอการค้ายังไม่มีการปรับขึ้นเพิ่้ม แต่หลายสำนักมีการปรับจีดีพีเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยหอการค้าคงจีดีพีไว้ที่ 3.3% โดยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ราคาพืชผลยังไม่ฟื้นตัวไม่ว่าจะเป็นราคาข้าวหรือยาง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังถือว่าต่ำ ยังไม่นับรวมความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ถือว่าต่ำ และเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวไม่มาก เนื่องจากกังวลปัญหา Brexit และการเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐฯ ซึ่งไม่ว่าใครจะได้รับเลือกก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความเชื่อมั่นซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
ส่วนปัจจัยบวก เห็นได้จากเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว โดยตัวเลขการส่งออกในเดือนส.ค. กลับมาเป็นบวก 6% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้ส่งออกปีนี้ติดลบน้อยลง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็เป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในกรอบที่หอการค้าประเมินไว้
"การท่องเที่ยวเรามองว่ายังเป็นบวกอยู่ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากการที่ภาครัฐดำเนินการทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเบื้องต้นคาดกระทบ 2 แสนคน หรือคิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 10,000 ล้านบาท และจะกระทบจีดีพีที่ 0.5-1% ไม่ได้กระทบต่อภาพใหญ่ เนื่องจากการท่องเที่ยวยังมีนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ยังทำให้ไตรมาส 4 การท่องเที่ยวเติบโตได้ดีอยู่" นายธนวรรธน์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย