- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Sunday, 15 February 2015 17:27
- Hits: 3754
ตรุษจีนสะพัด 5 หมื่นล.สูงสุด 10 ปี โวยข้าวแกงหนูณิชย์บนห้างทำขายน้อย
ไทยโพสต์ * คาดตรุษจีนปีนี้ใช้จ่ายสะพัด 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน ชี้คนยังระมัดระวังใช้เงิน กังวลเศรษฐกิจฟื้นช้า พาณิชย์โวห้างร่วมมือขายจานด่วนราคาถูก 35-40 บาทตามโครงการหนูณิชย์ขึ้นห้าง แต่ชาวบ้านบ่น ทำขายน้อย วางแป๊บเดียวหมด
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริ โภคช่วงเทศกาลตรุษจีน จากกลุ่มตัวอย่าง 1,282 ราย พบว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 5.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.71% จากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 4.77 หมื่นล้านบาท
"หากดูมูลค่าแล้ว ตรุษจีนปีนี้มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ทำการสำรวจ แต่อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ม.ค.ที่ปรับลดลง โดยผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้ว การใช้จ่ายช่วงตรุษจีนปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 7-10% ถ้าเศรษฐกิจไม่มีภาพการฟื้นตัวช้า" นายธนวรรธน์ กล่าว
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สิ่งที่ภาคเอกชนและผู้บริโภคกังวลคือ เครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่เดิน และการส่งออกของไทยปีนี้ยังไม่โดดเด่น เนื่องจากประสบปัญหา เงินบาทอ่อนค่าน้อยกว่าประเทศ เพื่อนบ้านที่เป็นคู่ค้า เช่น มาเล เซียที่ค่าเงินอ่อนค่าลง 9% สิงค โปร์ 7% อินโดนีเซีย 5-6% และ หยวนจีน 3% ประกอบกับสินค้า ไทยถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ทำให้ปีนี้การส่งออกไม่ใช่พระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณ มิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาถูกภายใต้สัญลักษณ์ "หนูณิชย์พาชิม" ณ ศูนย์อาหารชั้น 6 เซ็น ทรัล แจ้งวัฒนะ ว่า จากการตรวจสอบพบว่าห้างมีการจำ หน่ายอาหารใน 10 เมนูแนะนำ เช่น ข้าวกะเพรา ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า และผัดซีอิ๊ว เป็นต้น ราคาเมนูละ 40 บาท ซึ่งจะช่วยในการลดค่าครองชีพในการบริโภคอาหารให้กับประชาชนที่มาเลือก ซื้อสินค้าภายในห้าง
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของกระทรวงพา ณิชย์กับห้างค้าส่งค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์ และมาบุญครอง ที่จะจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จตามเมนูที่กำหนดในราคา 35-40 บาท ยกเว้นเดอะมอลล์และเซ็นทรัล ที่จะจำหน่ายในราคา 40 บาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2558 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2558 โดยสาขาในกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ส่วนในต่างจังหวัดจะเริ่มวันที่ 17 ก.พ.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ห้างที่แสดงความจำนงร่วมมือเปิดจุดจำ หน่ายอาหารจริง แต่จากการสอบถามผู้ที่เข้าไปใช้บริการ พบว่ามีอาหารให้เลือกน้อย และบางห้างอาหารมีนิดเดียว จำหน่ายช่วงเวลาสั้นๆ ก็หมด ทำให้ต้องไปเลือกบริโภคอา หารในฟู้ดคอร์ทของห้างที่มีราคาแพงเหมือนเดิม.
ตรุษจีนเงินสะพัด 5 หมื่นล้าน ยอดใช้จ่ายสูงสุดรอบ 10 ปี
แนวหน้า : นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน จากกลุ่มตัวอย่าง 1,282 ราย ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ มูลค่าการใช้จ่าย 50,472 ล้านบาท ขยายตัว 5.71% จากปีก่อน ถือเป็นมูลค่าที่สูงสุดประวัติศาสตร์ตั้งแต่สำรวจมาในปี 2549 หรือสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ส้ม ที่มีหลายระดับราคา ตั้งแต่ 50-60 บาทต่อกก. จนไปถึงระดับ 100 บาทต่อกก. กล้วยหอมราคา ไม่ต่ำกว่าหวีละ 100 บาท จากปกติ 40-60 บาทต่อหวี ซึ่งถือว่าปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่วนสินค้าไหว้ประเภทอื่น เช่น ไก่ หมู เป็ด ราคาปรับเพิ่มไม่มาก แต่ในส่วนของผู้บริโภคก็ระมัดระวังการใช้จ่าย และหากเปรียบเทียบกับอัตราการโตของเศรษฐกิจ และค่าครองชีพแล้วเม็ดเงินควรจะขยายตัวในระดับ 7-10%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในปีนี้ การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะคึกคักเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดจะซบเซาลง เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ยกเว้นภาคใต้ที่แม้ราคายางพาราจะลดลงมามาก แต่หลายพื้นที่มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับตรุษจีนมากเป็นพิเศษ จึงทำให้บรรยากาศยังไม่ซบเซานัก
สำหรับ การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนส่วนใหญ่ จะซื้อของไหว้เจ้า เฉลี่ยอยู่ที่ 3,543 บาท ซึ่งปริมาณการซื้อสินค้าใกล้เคียงกับปีก่อน การทำบุญ เฉลี่ยที่ 1,832 บาท การซื้อสินค้าอุปโภค เฉลี่ยที่ 2,578 บาท แตะเอีย เฉลี่ยที่ 2,217 บาท การสังสรรค์หรือจัดเลี้ยง เฉลี่ยที่ 5,978 บาท การไปเดินห้างฯ เฉลี่ยที่ 3,783 บาท การซื้อเสื้อผ้า เฉลี่ยที่ 2,080 บาท การท่องเที่ยว เฉลี่ยที่ 10,074 บาท แต่ทั้งนี้การวางแผนไปท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนปีนี้จะไม่คึกคักมากนัก เพราะเป็นช่วงวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุด คนส่วนใหญ่ 86.8% ไม่มีแผนไปเที่ยว โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ 90.2% มีแผนไปเที่ยวในประเทศ ซึ่งในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ตาก แพร่ เชียงราย และภาคกลาง เช่น ชลบุรี ระยอง สระบุรี และกาญจนบุรี
นอกจากนี้ในการสำรวจถึงทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปที่ผู้บริโภคมีความเป็นห่วงมากที่สุด โดยส่วนใหญ่ 25.8% มีความเป็นห่วงด้านเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวล่าช้า รองลงมา 21.8% ห่วงเรื่องข้าวของราคาแพง 18.7% ห่วงปัญหาคอร์รัปชัน และ 17.4% ห่วงด้านการเมือง อย่างไรก็ตามทางศูนย์พยากรณ์ฯ ก็เห็นว่ารัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพราะหากรัฐบาลไม่เร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ออกมาในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และบริหารจัดการค่าเงินให้อยู่ภายใต้กรอบ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เพื่อเอื้อต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาสดใส ก็อาจทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวอยู่ที่ 2-2.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3-3.5% และอาจทำให้ภาพรวมทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสโตต่ำกว่าที่คาดไว้ 3-3.5% ได้
“สิ่งที่ภาคเอกชนและผู้บริโภคกังวล ตอนนี้คือการที่เครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่เดิน และการส่งออกของไทยในปีนี้ยังไม่โดดเด่น เนื่องจากประสบปัญหาค่าเงินบาทอ่อนตัวน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่ค้า เช่น มาเลเซียที่ค่าเงินอ่อนค่าลง 9% สิงคโปร์ 7% อินโดนีเซีย 5-6% และหยวนจีน 3% ขณะที่ไทยค่าเงินยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ประกอบกับภาคการส่งออกไทยยังเจอปัญหาเรื่องการถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี(จีเอสพี) จึงทำให้ปีนี้การส่งออกไม่ใช่พระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย”