WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CBอทธ พศาลวานชม.หอการค้าไทย คาดสงครามการค้าฉุดส่งออกไทยปี 62 เหลือโต 6.1-7.5% แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัว-ภาครัฐเร่งขยายตลาด

     นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการประเมินสงครามการค้า : ผลกระทบการส่งออกไทยปี 62 ว่า ในปี 62 ภาพรวมการส่งออกไทยไปตลาดโลกจะลดลง 0.2-0.8% เพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสงครามการค้า แต่หากสหรัฐฯและจีนขึ้นภาษีระหว่างกันมากกว่า 25% จะทำให้การส่งออกไทยไปตลาดโลกลดลงมากถึง 8% หรือมูลค่าหายไป 1,796-57,736 ล้านเหรียญฯ

     ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกที่หายนี้ พิจารณาเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าเท่านั้น ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ ด้วยทั้งเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมัน และปัญหาการเมืองของแต่ละประเทศ

     สำหรับ ผลกระทบที่เกิดขึ้น เป็นเพราะสินค้าไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตสินค้าทั้งของจีน และสหรัฐฯ จึงทำให้ทั้ง 2 ประเทศนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยในปี 62 คาดว่า ทั้ง 2 ประเทศจะนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง 0.6-2.4% โดยสินค้าที่มูลค่าการส่งออกจะหายไปมากที่สุด คือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากการที่ทั้ง 2 ประเทศขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็น 10% มูลค่าการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยจะลดลง 343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่หาก 2 ประเทศปรับขึ้นภาษีเป็น 25% มูลค่าจะหายไป 758 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาจะเป็นสินค้าเคมีภัณฑ์, ยางและพลาสติก, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ โดยมูลค่าการส่งออกจะหายมากขึ้นตามอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น

      "หาก 2 ประเทศขึ้นภาษีนำเข้าเกินกว่า 25% เป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด จากที่คาดการณ์ไว้ แต่โอกาสที่ 2 ประเทศจะขึ้นภาษีเกินกว่า 25% มีความเป็นไปได้น้อยมาก หรือน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 50 : 50 เท่านั้น เพราะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศ และการขึ้นภาษี 10% ในปัจจุบันก็สะท้อนแล้วว่า ไม่ได้ทำให้สหรัฐฯลดการขาดดุลการค้ากับจีนได้เลย แต่กลับทำให้สหรัฐฯต้องนำเข้าสินค้ามากขึ้น ในราคาที่สูงขึ้น โดยเป้าหมายการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต้องการลดการขาดดุลระหว่างประเทศ"

       อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้า การส่งออก และลดการนำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศที่จะส่งออกมาไทยมากขึ้น ผู้ส่งออกไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 100% โดยในจำนวนนี้กว่า 70% ต้องปรับเปลี่ยนและเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง มองตลาดอาเซียน เอเชียมากขึ้น เพิ่มช่องทางการผลิตให้มากขึ้น ขณะที่ภาครัฐอาจต้องเจรจาการค้ากับหลายประเทศ เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯและจีน

      "ในช่วงเกือบ 1 ปีที่สหรัฐฯและจีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและไทย โดยศูนย์ฯประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 61 หายไป 351-597 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือทำให้อัตราการขยายตัวลดลง 0.1-0.2% โดยคาดว่าการส่งอกในปี 61 จะขยายตัวได้ 7.9-8.0% ส่วนปี 62 คาดว่ามูลค่าจะหายไปอีก 1,181-4,427 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรืออัตราการขยายตัวลดลง 0.5-1.9% และมีอัตราการขยายตัวของการส่งออก 6.1-7.5%" นายอัทธ์ กล่าว

            อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!