- Details
- Category: หอการค้า
- Published: Friday, 05 September 2014 19:19
- Hits: 4563
ดัชนี เชื่อมั่นเด้ง 4 เดือนติด แนะเร่งใช้งบ-เลิกอัยการศึกกระตุ้นศก.
ไทยโพสต์ : ไทยโพสต์ * ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.ดีดพรึ่บทุกรายการ ขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 มาอยู่ระดับสูงสุดรอบ 13 เดือน หลัง'บิ๊กตู่'ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ มีการจัดตั้ง ครม. แนะรัฐเร่งใช้จ่ายงบ เลิกกฎอัยการศึกจังหวัดท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ คลังจ่อคลอดมาตรการกระตุ้น ดันจีดีพีโต 2%
นายวชิร คูณทวีเทพ อา จารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐ กิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอ การค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.2557 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,252 คนทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และดัชนีส่วนใหญ่สูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมอยู่ที่ 80.1 เพิ่มจาก 78.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเท่ากับ 70.1 เพิ่มจาก 68.5 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำเท่ากับ 73.6 เพิ่มจาก 71.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 96.4 เพิ่มจาก 94.6 ของเดือน ก.ค.
ปัจจัยบวกมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2%, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์จีดีพีปี 2558 ไว้ที่ 3.5-4.5% และราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวลดลง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยา ลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้ทิศทางดัชนีความเชื่อมั่นจะปรับตัวเป็นบวก แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าวและยางพารา รวมถึงการส่งออกที่ยังไม่น่าจะดีตามที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะโต 3.5% โดย ศูนย์ฯ ประเมินว่าน่าจะโตได้ 1-1.5% เท่านั้น เพราะเศรษฐกิจคู่ค้าอย่างยุโรปยังไม่ฟื้น จีนกับญี่ปุ่นมีปัญหาการขึ้นภาษีภายในประเทศ ขณะที่ประชาชนกำลังซื้อก็เริ่มแผ่วลง ทำให้ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งยังมีปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
"สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ คือ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ 1 แสนล้านบาทช่วงปลายปี ทั้งการลงทุนภาครัฐและการกระจายโครงการต่างๆ ไปยังส่วนภูมิภาค เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและกระจายรายได้ และควรพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงเม็ดเงินจากภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น เพราะการส่งออกไม่น่าจะดี จึงเหลือการลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยวที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ"นายธนวรรธน์กล่าว
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปีเพิ่ม เติม เพื่อให้การขยายตัวเศรษฐ กิจปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 2% ตามนโยบายของนายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง ที่จะมอบนโยบายผู้บริหารคลังในสัปดาห์หน้า
ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐ กิจจะเป็นมาตรการเร่งด่วนและดำเนินการได้ทันที โดยบางมาตรการเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับ รมว.การคลัง ว่าจะเห็นชอบมาตรการไหนบ้าง
ด้านนายสมหมาย กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้จีดีพีขยายตัวได้ 2% นอกจากมีมาตรการที่ สศค.เตรียมไว้แล้ว ในส่วนของฝ่ายนโยบายคิดไว้เพิ่มเติมเช่นกัน เพื่อสั่งการให้ สศค.ดำเนินการ เชื่อว่าเป็นมาตรการที่จะได้ผลในทางปฏิบัติได้จริง.