- Details
- Category: EEC เมกะโปรเจกต์
- Published: Sunday, 17 September 2023 16:11
- Hits: 2397
อีอีซี พบ ส.อ.ท. ดันความร่วมมือ ส่งเสริมการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมคณะ ส.อ.ท. ให้การต้อนรับ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ ดร.ชลจิต วรวังโส วีรกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ นายธีรภัทร เธียรโกศล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบนิเวศการลงทุน นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต ผู้อำนวยการสำนักบริการผู้ลงทุน นายทวีชัย ลิยี่เก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นายอังศุธรย์ วสุสัณห์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจ BCG นายเรืองฤทธิ์ อัมพุช อุปละนาละ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี นางอภิชยา ศรีคชา รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมบริการ และคณะ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ณ ห้องประชุม Passion (802) ชั้น 8 ส.อ.ท.
ดร.จุฬา กล่าวว่า “การหารือกันในวันนี้ เป็นวาระใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งใหญ่เกินกว่าที่ EEC จะทำได้เพียงฝ่ายเดียว เพราะมีมิติที่ต้องดูแลทั้งเชิงสังคมและความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศต่อไป ผมขอขอบคุณที่ให้การต้อนรับ และได้หารือกันในวันนี้ เป้าหมายของเราไม่ไกลกัน ดังนั้นเราต้องร่วมกันทำ เพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป”
กลไกการทำงานของ EEC ประกอบด้วย
1. Dedicated Development Mechanism
โครงการ EEC มุ่งพัฒนา 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น การแพทย์ สุขภาพ (Medical and Health) ดิจิทัล (Digital) ยานยนต์ (Next-gen Automotive) บีซีจี (BCG) และภาคบริการต่างๆ (Services) ตลอดจนมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา พร้อมสร้างแรงจูงใจ สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลงทุน เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล สิทธิ์ในการถือครองที่ดิน รวมถึงการออก EEC Visa และใบอนุญาต เพื่อเอื้อต่อการดำเนินงานมากขึ้น
2. Favorable Ecosystem
EEC มุ่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ผ่านการให้ความรู้ และการอบรม รวมทั้งการให้เงินทุนสำหรับชุมชน เพื่อพัฒนาพื้นที่ต่างๆ โดยรอบ
3. Supporting Infrastructure
EEC มุ่งสนับสนุนการดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เช่น การต่อยอดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ตลอดจนการสนับสนุน EEC PPP Fast Track ซึ่งเป็นประกาศคณะกรรมการนโยบาย การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ได้กำหนดเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งสามารถช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน เร่งกระบวนการทำงานทั้งหมดให้รวดเร็วขึ้น
ด้านนายเกรียงไกร กล่าวว่า ส.อ.ท. พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดั้งเดิม ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีการปรับเปลี่ยน 4 หัวข้อหลักๆ ได้แก่
– เปลี่ยนจาก OEM (Original Equipment Manufacturer) เป็น ODM (Original Design Manufacturer) / OBM (Original Brand Manufacturer)
– เปลี่ยนจากการใช้แรงงาน เป็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องจักร และระบบ Automation
– เปลี่ยนการผลิตเพื่อกำไร เป็นการผลิตที่ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
– เปลี่ยนจาก unskilled labor เป็น high-skilled labor
นอกจากนี้ เรายังมีการขับเคลื่อน Next-Gen Industries (อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต) เพื่อสร้างเครื่องยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านอุตสาหกรรม S-Curves การผลักดันโมเดล BCG รวมทั้งการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
สำหรับข้อเสนอที่ ส.อ.ท. ยื่นต่อสำนักงาน EEC มีดังนี้
– ร่วมมือในการเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากเอลนิโญและภัยแล้งในพื้นที่ EEC และผลักดันให้มีหน่วยงานกำกับดูแล บริหารการจัดการน้ำ (Regulator) เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำได้ โดยเฉพาะในยามวิกฤติ
– ส่งเสริมให้เกิดโรงงานต้นแบบตามโมเดลแบบ BCG ในพื้นที่ EEC เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
– ส่งเสริมให้โรงงานใน EEC ได้รับการรับรอง Eco Factory, Eco product และการรับรองคาร์บอนเครดิต เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวทาง ESG
– ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในการลงทุนใน EEC รวมทั้งการสร้างโอกาสให้ SMEs เข้าไปมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain)
– ร่วมมือในการพัฒนากำลังคนรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอนาคตของ EEC
– พัฒนากลไกและมาตรการส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการหรือสถาบันการศึกษาไทย
– บูรณาการส่งเสริมและพัฒนาระบบขนส่งทางรางในพื้นที่ EEC เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้ประกอบการ
ภายหลังจากการประชุม จะมีการหารือข้อเสนอแนะข้างต้นเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด อันนำไปสู่การผลักดันประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จใน EEC และเป็นเรือธงของประเทศ ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป