- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Wednesday, 20 August 2014 21:42
- Hits: 3773
บอร์ด BOI เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ใหม่, ไฟเขียวมาตรการช่วย SMEs-ส่งเสริมลงทุนชายแดนใต้
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานกรรมการ และพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นรองประธานกรรมการว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการของ “ร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนในระยะ 7 ปี” (พ.ศ. 2558 – 2564) ตามที่บีโอไอนำเสนอ
สำหรับนโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ จะมีการปรับเปลี่ยนจากการส่งเสริมที่ครอบคลุมเกือบทุกกิจการ (Broad-based) เป็นการส่งเสริมที่มีเป้าหมายชัดเจนและมีการจัดลำดับความสำคัญมากขึ้น (Focus & Prioritized) และมีการทบทวนบัญชีประเภทกิจการที่จะให้การส่งเสริมตามยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเน้นอุตสาหกรรมที่จะช่วยนำไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ให้สามารถก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายอุดม กล่าวว่า ยังคงกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะให้การส่งเสริมการลงทุนออกเป็น 7 กลุ่มเช่นเดิม แต่จะเน้นประเภทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีมูลค่าเพิ่มสูง มีการวิจัยและพัฒนาหรือการออกแบบ รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร 2) อุตสาหกรรม แร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐาน 3) อุตสาหกรรมเบา 4) อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง 5) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 6) อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ และ 7) อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค
สำหรับรูปแบบการให้สิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมจะมี 2 ประเภท คือ สิทธิประโยชน์ตามประเภทกิจการ (Activity-based Incentives) คือ การให้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามประเภทของกิจการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ (Merit-based Incentives) ที่จะให้เพิ่มเติมสำหรับโครงการที่มีการลงทุนหรือมีค่าใช้จ่ายในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยรวมมากขึ้น ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาทักษะขั้นสูง การพัฒนาผู้รับช่วงการผลิต และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค
นอกจากนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ จะยกเลิกระบบการส่งเสริมที่อิงกับเขตพื้นที่ (เขต 1-3 เดิม) ปรับเปลี่ยนจากการส่งเสริมตามเขตพื้นที่ (Zones) เป็นการส่งเสริมให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ในภูมิภาค (New Regional Clusters) เพื่อสร้างการรวมกลุ่มใหม่ของการลงทุนที่สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของแต่ละพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของ Value Chain ซึ่งคณะกรรมการฯ จะกำหนดสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมเป็นรายกรณี
นอกจากนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ บทบาทของบีโอไอจะต้องให้ความสำคัญทั้งการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ (Inbound Investment) และการส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ (Outbound Investment) ซึ่งเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่จำเป็นเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรัพยากรในประเทศ แสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะโอกาสจากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเป็นการเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก โดยมีประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ลำดับ 1 อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม กัมพูชา และลาว ลำดับ 2 จีน อินเดีย และอาเซียนอื่นๆ ลำดับ 3 ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และแอฟริกา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการของมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งให้สามารถก้าวสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเห็นชอบในหลักการของมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยกระตุ้นให้กิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในด้านต่างๆ ได้แก่ 1. ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อประหยัดพลังงาน 2. ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อใช้พลังงานทดแทน 3. ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม 4.ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และ 5. ลงทุนเพิ่มด้านการวิจัย พัฒนา และการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
นายอุดม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการของมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทุกประเภทกิจการที่อยู่ในข่ายให้การส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะครอบคลุมการลงทุนในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจังหวัดสตูล รวมทั้งพื้นที่ในอำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลาด้วย
อินโฟเควสท์
บีโอไออนุมัติยุทธศาสตร์ใหม่ อุ้ม SME/ส่งเสริมลงทุนใต้
แนวหน้า : บีโอไออนุมัติยุทธศาสตร์ใหม่ อุ้ม SME/ส่งเสริมลงทุนใต้ หนุนเอกชนรองรับ AEC
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกรรมการ และพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นรองประธานกรรมการว่า ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ “ร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนในระยะ 7 ปี” (พ.ศ. 2558 – 2564) ตามที่บีโอไอนำเสนอ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการตามกรอบเวลาการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ คือ ให้มีผลบังคับใช้สำหรับคำขอรับส่งเสริมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ใหม่ จะยกเลิกระบบการส่งเสริมที่อิงกับเขตพื้นที่ (เขต 1-3 เดิม) ปรับเปลี่ยนจากการส่งเสริมตามเขตพื้นที่ (Zones) เป็นการส่งเสริมให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ในภูมิภาค (New Regional Clusters) เพื่อสร้างการรวมกลุ่มใหม่ของการลงทุนที่สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของแต่ละพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของ Value Chain ซึ่งคณะกรรมการ จะกำหนดสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมเป็นรายกรณี
นอกจากนี้ ต่างประเทศบีโอไอจะต้องให้ความสำคัญทั้งการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ (Inbound Investment) และการส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ (Outbound Investment) ซึ่งเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่จำเป็นเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรัพยากรในประเทศ แสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะโอกาสจากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเป็นการเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก โดยมีประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ลำดับ 1 อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม กัมพูชา และลาว ลำดับ 2 จีน อินเดีย และอาเซียนอื่นๆ ลำดับ 3 ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และแอฟริกา
นายอุดม กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ซึ่งเดิมจะสิ้นสุดภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 นี้ โดยให้ขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอีออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เพื่อเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งให้สามารถก้าวสู่ระดับสากลมาก ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาของมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ออกไปอีก 3 ปี โดยเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทุกประเภทกิจการที่อยู่ในข่ายให้การส่งเสริมการลงทุน และจะ
สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2560