- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Wednesday, 02 November 2016 17:07
- Hits: 6633
ยอดลงทุน BOI พุ่งชี้ 9 เดือนแรกปีนี้ 342,000 ล้าน
แนวหน้า : นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบ ส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์ หลังจากยกเลิกการส่งเสริมไปเมื่อปี 2557 เนื่องจากตลาดอาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ มีแนวโน้มการเติบโตถึงร้อยละ 10 ต่อปี และไทยยังเป็นประเทศผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 7 ของโลก หากขอรับ ส่งเสริมเฉพาะการผลิตจะได้รับประโยชน์ด้านที่ไม่ใช่ภาษี แต่หากมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาจะได้รับสิทธิ์ด้านภาษีเพิ่ม
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดบีโอไอ ยังเห็นชอบส่งเสริมการลงทุนคลัสเตอร์อากาศยาน โดยไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่ใน สถานที่ 14 จังหวัดที่กำหนดไว้ช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้การผลิตชิ้นส่วนอากาศยานเติบโตมากขึ้นรองรับการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
ที่ประชุมบอร์ดยังเห็นชอบส่งเสริมการลงทุน 13 โครงการ มูลค่ารวม 63,440 ล้านบาท ยอมรับว่า ต่างชาติยังมีความเชื่อมั่น เข้ามาขยายการลงทุนในประเทศอย่าง ต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดการลงทุนจริงเมื่อได้รับการส่งเสริม 9 เดือนแรก ของปี วงเงิน 342,000 ล้านบาท นับว่าเป็นตัวเลข ค่อนข้างสูง จากเป้าหมายทั้งปี 550,000 ล้านบาท
บีโอไอมั่นใจยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งปี 59 เข้าเป้า 5.5 แสนลบ.
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มั่นใจว่ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5.5 แสนล้านบาทแน่นอน โดยล่าสุด มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.59) แล้วจำนวน 1,095 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 3.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 150% โดยแนวโน้มยังขยายตัวสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ยานยนต์ เครื่อมือแพทย์ อากาศยาน เป็นต้น
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ในส่วนของการลงทุนเกี่ยวกับอากาศยานนั้น มั่นใจว่าจะมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องตามมา ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
BOI ขยายพื้นที่ส่งเสริมตั้งคลัสเตอร์อากาศยาน พร้อมฟื้นหนุนลงทุนกิจการผลิตอาหารสัตว์
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุมพิจารณาทบทวนเงื่อนไขในการส่งเสริมการลงทุนคลัสเตอร์อากาศยาน โดยให้ยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดไว้ว่าต้องตั้งสถานประกอบการใน 14 จังหวัดที่มีสนามบินหรือใกล้เคียงสนามบิน
เนื่องจากอุตสาหกรรมอากาศยานเป็นอุตสาหกรรมใหม่ การลงทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนหรือเครื่องมือเครื่องใช้ในอากาศยานยังมีจำนวนน้อยและยังไม่มีการกระจุกตัวในรูปแบบคลัสเตอร์ที่ชัดเจนเหมือนคลัสเตอร์ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยานขนาดกลางและขนาดเล็ก ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปตั้งโรงงานใกล้สนามบินก็สามารถส่งมอบชิ้นส่วนได้ ซึ่งแตกต่างจากการซ่อมอากาศยานหรือชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องตั้งโรงงานใกล้สนามบิน นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยหลายรายกำลังพัฒนาการผลิตเพื่อให้สามารถรับช่วงการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอากาศยานเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ไม่ได้ตั้งโรงงานในพื้นที่ 14 จังหวัดที่มีสนามบิน ที่ประชุมจึงมีมติยกเลิกเงื่อนไขเรื่องที่ตั้งของกิจการในคลัสเตอร์อากาศยาน ซึ่งตามนโยบายเดิมกำหนดให้ต้องตั้งกิจการในพื้นที่ 14 จังหวัด
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมเห็นชอบเปิดให้การส่งเสริมกิจการผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์ เนื่องจากเห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ของไทยเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของภาคการเกษตร มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ และมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมการผลิตอาหารแปรรูป
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดแต่ละประเภท เช่น สัตว์เศรษฐกิจที่เน้นการเจริญเติบโตและลดต้นทุน หรือสัตว์เลี้ยงที่เน้นมีสุขภาพดี อายุยืนยาว ลดความเสี่ยงจากโรคหรือเชื้อปนเปื้อน ดังนั้น การยกระดับมาตรฐานการผลิตและคุณภาพอาหารสัตว์จึงมีความสำคัญและควรได้รับการส่งเสริม
สำหรับ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.หากมีเฉพาะขั้นตอนการผลิต จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภาษีตามประเภท B1 และกรณีที่ 2 หากมีการลงทุนด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ
ทั้งนี้ บีโอไอได้ยกเลิกการส่งเสริมลงทุนในประเภทกิจการผลิตอาหารสัตว์ไปเมื่อสิ้นปี 2557 เพื่อให้มีการกำหนดประเภทกิจการที่เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการดังกล่าวเป็นรูปแบบชั่วคราวเฉพาะกิจการที่ตั้งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและชายแดนภาคใต้เท่านั้น
ปัจจุบันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 ต่อปี การส่งออกก็มีแนวโน้มขยายตัว ขณะที่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากทิศทางดังกล่าวบีโอไอจึงได้เปิดให้การส่งเสริมกิจการอาหารสัตว์ ส่วนผสมอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์เลี้ยงขึ้นอีกครั้ง โดยมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งรองรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านอาหารสัตว์ ส่วนผสมอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์เลี้ยงได้ในอนาคต เพราะไทยมีความพร้อมในด้านการผลิตอาหารที่ปลอดภัยตรวจสอบได้ และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีวัตถุดิบจำนวนมาก
อินโฟเควสท์