WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOIหรญญา สจนยเปิดเสรีอาเซียนไม่กระทบไทย

      บ้านเมือง : นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า ตามที่มีนักธุรกิจและนักลงทุนไทยหลายรายสอบถามถึงความชัดเจนของเรื่องความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน หรือ ACIA (ASEAN Comprehensive Investment Agreement) ในประเด็นการยกเลิกข้อสงวนในความตกลงกับผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย บีโอไอขอยืนยันว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) มีมติเห็นชอบให้ขยายการให้สิทธิ์ให้นักลงทุนต่างชาตินอกอาเซียนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเท่านั้น มิได้มีการพิจารณาเปิดเสรีในสาขาอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยข้อสงวนเรื่องธุรกิจ 5 สาขา ยังเป็นไปตามข้อสงวนเดิมที่ได้ตกลงไว้ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักธุรกิจและนักลงทุนไทย

       "ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2555 ที่ความตกลง ACIA มีผลบังคับใช้ ประเทศไทยเป็นเพียงชาติเดียวในอาเซียนที่ขอสงวนการเปิดเสรีให้เฉพาะนักลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น โดยไม่ให้สิทธิ์กับนักลงทุนนอกอาเซียนที่ลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนแล้วต้องการเข้ามาขยายการลงทุนในไทย ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายการลงทุนมายังประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการใช้สิทธิ์ภายใต้กรอบ ACIA จึงได้มีการพิจารณาและยกเลิกข้อสงวนนี้เพียงข้อเดียว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดการลงทุน และทำให้นักลงทุนต่างชาติเห็นว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความเชื่อมั่นในการขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน"

              สำหรับ ข้อสงวนของไทย ภายใต้ความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน ยังคงเป็นไปตามเดิมไม่มีการยกเลิก โดยได้มีการกำหนดข้อสงวนรวม 25 รายการ จำนวนกว่า 40 รายการย่อย ที่ไทยกำหนดให้ลงทุนได้เฉพาะคนไทย ส่วนใหญ่เป็นกิจการในบัญชี 1-2 แนบท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ห้ามมิให้ต่างชาติดำเนินการ อาทิ การทำนา ทำไร่ ทำสวน การเลี้ยงสัตว์ การประมง การสกัดสมุนไพรไทย การทำ นาเกลือ การทำป่าไม้และการแปรรูปไม้จากป่าธรรมชาติ การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย การสีข้าว การผลิตน้ำตาลจากอ้อย เป็นต้น

     ทั้งนี้ ความตกลงด้านการลงทุนอาเซียนไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอยังเป็นไปตามเงื่อนไขที่บีโอไอกำหนด

เปิดเสรีลงทุนอาเซียนไม่กระทบธุรกิจไทย BOI ชี้แค่เปิดทางต่างชาติได้สิทธิ์

     แนวหน้า : นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ตามที่มีนักธุรกิจและนักลงทุนไทยหลายราย สอบถามถึงความชัดเจนของเรื่องความตกลง ด้านการลงทุนอาเซียน หรือ ACIA (ASEAN Comprehensive Investment Agreement) ในประเด็นการยกเลิกข้อสงวนในความตกลงกับผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย บีโอไอ ขอยืนยันว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบาย เศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) มีมติเห็นชอบ ให้ขยายการให้สิทธิ์ให้นักลงทุนต่างชาตินอกอาเซียนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเท่านั้น ไม่ได้มีการพิจารณาเปิดเสรีในสาขาอื่นๆ เพิ่มเติม โดยข้อสงวนเรื่องธุรกิจ 5 สาขา ยังเป็นไปตามข้อสงวนเดิมที่ได้ตกลงไว้ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักธุรกิจและนักลงทุนไทย

    "ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2555 ที่ความ ตกลง ACIA มีผลบังคับใช้ ไทยเป็นเพียงชาติเดียวในอาเซียนที่ขอสงวนการเปิดเสรีให้เฉพาะนักลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น โดยไม่ให้สิทธิ์กับนักลงทุนนอกอาเซียนที่ลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียน แล้วต้องการเข้ามาขยายการลงทุนในไทย ซึ่งอาจกลายอุปสรรคต่อการขยายการลงทุนมายังไทยของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการใช้สิทธิ์ภายใต้กรอบ ACIA จึงได้มีการพิจารณาและยกเลิกข้อสงวนนี้เพียงข้อเดียว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดการลงทุน และทำให้นักลงทุนต่างชาติเห็นว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความเชื่อมั่นในการขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน" นางหิรัญญา กล่าว

     อย่างไรก็ตาม ข้อสงวนของไทยภายใต้ความ ตกลงด้านการลงทุนอาเซียน ยังคงเป็นไปตามเดิม ไม่มี การยกเลิก โดยได้มีการกำหนดข้อสงวนรวม 25 รายการ จำนวนกว่า 40 รายการย่อย ที่ไทยกำหนดให้ลงทุนได้เฉพาะคนไทย ส่วนใหญ่เป็นกิจการในบัญชี 1-2 แนบท้าย พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ห้ามมิให้ต่างชาติดำเนินการ อาทิ การทำนา ทำไร่ ทำสวน การเลี้ยงสัตว์ การประมง การสกัด สมุนไพรไทย การทำนาเกลือ การทำป่าไม้และการแปรรูปไม้ จากป่าธรรมชาติ การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย การสีข้าว การผลิตน้ำตาลจากอ้อย เป็นต้น ทั้งนี้ ความตกลงด้านการลงทุนอาเซียนไม่มี ผลกระทบใดๆ ต่อการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ โดยการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ยังเป็นไปตามเงื่อนไขที่บีโอไอกำหนด 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!