- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Monday, 21 December 2015 10:14
- Hits: 4658
'บีโอไอ'รุกหนักจีบจีนลงทุนในไทย
ไทยโพสต์ * ‘สมคิด’ โชว์ศักย ภาพเศรษฐกิจไทย ดึงจีนขยายลงทุนในไทย บีโอไอเร่งโรดโชว์ พร้อมเปิดสำนักงานเพิ่มถึง 3 แห่ง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ 'Thailand : Moving Forward to Sustainable Growth' ในงานสัมมนา Thai - Chinese Business Forum 2015 ว่า การค้าระหว่างไทยกับจีนขณะนี้มีมูลค่าสูงถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัญหาการเมืองก็เริ่มคลี่คลายโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกำลังดำเนินการเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในปี 2560 ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยปี 2559 ก็จะเติบโตได้ระดับ 3.5-4% ประกอบกับการ ที่ไทยมีทำเลเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นไทยจะเป็นกำลังสำคัญหรือเป็นส่วนเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างบนบกและทะเลในการสร้างนโยบาย ONE BELT ONE ROAD หรือเส้นทางสายใหม่ในศตวรรษที่ 21 ของผู้นำจีนให้เป็นจริงได้เพื่อเชื่อมเอเชียเข้ากับยุโรปและรัสเซีย
ด้าน นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 40 ปีระหว่างไทย-จีน โดยจีนมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในภูมิภาค และการที่ไทยมีนโยบายเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดี และเป็นนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันไทยและจีนมีโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ยุทธศาสตร์ที่พัฒนาต่างมีความคล้ายคลึงกัน รัฐบาลจีนยินดีร่วมกับไทยในทุกรอบด้านเพื่อพัฒนาผลักดันยุทธศาสตร์ทั้งสองประเทศ อาทิ ยุทธศาสตร์ One Belt One Road และผลักดันยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน ตลอดจนผลักดันให้จีนเข้ามาลงทุนในไทย
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า 10 เดือนแรกปีนี้การลงทุนจีนมาไทยมีทั้งสิ้น 45 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 12,165 ล้านบาท โดยจัดเป็นอันดับ 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมายังไทย อนาคตมูลค่าการลงทุนระหว่างไทยและจีนจะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยไตร มาสแรกปี 2559 บีโอไอกำลังทำแผนที่จะไปโรดโชว์ร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จีน โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายเช่น ดิจิทัล โลจิสติกส์ ฯลฯ
พร้อมกันนี้ บีโอไอได้เปิดสำนักงานในจีนถึง 3 แห่ง ทั้งที่ ปักกิ่ง กว่างโจว และเซี่ยงไฮ้ สามารถ กระตุ้นให้บริษัทขนาดใหญ่ของจีนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย.
BOI-พณ.จัดสัมมนาความร่วมมือไทย-จีน ดึงการลงทุนในอุตฯเป้าหมายเพิ่ม
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายในงานสัมมนา Thai-Chinese Business Forum 2015 จัดโดยบีโอไอ และกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสที่คณะนักธุรกิจจีน นำโดยนายหวาง หย่ง มนตรีแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาประเทศไทยเนื่องในปีพิเศษครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน และเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจ ไทย-จีน ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม 2558 ว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐของไทย นักธุรกิจไทยและจีนกว่า 200 คน จากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเข้าร่วมพบปะ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงศักยภาพ และโอกาสขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนร่วมกันระหว่างไทยและจีน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ
บีโอไอจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการลงทุน เช่น การส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น และภายในงาน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมทั้งกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "Thailand’s New Economic Polices" เน้นย้ำถึงนโยบายเดินหน้าปฎิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านมาตรการต่างๆ การกำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต และการเชิญชวนให้นักลงทุนจีนร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับนักลงทุนไทย เพื่อรองรับทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์สำคัญที่กำลังเติบโต และเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในอนาคต
ทั้งนี้ ในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนไทยและจีน มีความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะสัมพันธภาพทางเศรษฐกิจร่วมกันมานาน และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการลงทุนจากประเทศไทยไปจีน และการลงทุนจากจีนในประเทศไทย ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีบริษัทจีนขนาดใหญ่ และเป็นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนแล้ว ทั้งกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ และยางล้อรถยนต์ เช่น บริษัทรถยนต์ SAIC (Shanghai Automotive Industry Corporation) ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ MG บริษัท เซ็นจูรี่ ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลิงหลง ยางรถยนต์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหางโจว จงเช่อ รับเบอร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น บริษัท ทรินา โซลาร์ ไซเอนซ์ แอนด์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ บริษัทโจงลี่ เทลซัน โซลา (ไทยแลนด์) จำกัด ผลิตแผงโซลาเซลล์ เป็นต้น
"บีโอไอให้ความสำคัญกับการลงทุนระหว่างไทยและจีนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่บีโอไอเปิดสำนักงานในจีนถึง 3 แห่ง ทั้งที่ปักกิ่ง กวางโจว และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถกระตุ้นให้บริษัทขนาดใหญ่ของจีนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตามยังมีกิจการที่เป็นเป้าหมายที่บีโอไอตั้งเป้าที่จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากจีนมายังไทยอีกมาก เช่น กิจการกลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์และชิ้นส่วน รถไฟและรถไฟฟ้าและอุปกรณ์ขนส่งระบบราง กิจการเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงกิจการซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง โดยมั่นใจว่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีน รวมถึงความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ จะก่อให้เกิดความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุนร่วมกันเพิ่มขึ้นต่อไป"นางหิรัญญา กล่าว
นางหิรัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนของจีนในประเทศไทย ตั้งแต่เดือน มกราคม-ตุลาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 45 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 12,165 ล้านบาท โดยจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทย รองจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การผลิตยางล้อรถยนต์ กิจการผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วนโลหะ กิจการผลิตไฟฟ้าจากขยะ กิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับ การจัดสัมมนา Thai-Chinese Business Forum 2015 เป็นหนึ่งกิจกรรมในโอกาสครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน โดยภายในงานสัมมนาครั้งนี้ จะประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ บีโอไอ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจตามยุทธศาสตร์และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทย-จีนในอนาคต
อินโฟเควสท์