- Details
- Category: บีโอไอ
- Published: Thursday, 02 April 2020 09:37
- Hits: 3111
บอร์ดบีโอไอ ชูแพคเกจใหม่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC
บอร์ดบีโอไอชูแพคเกจใหม่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC โดยกำหนดสิทธิประโยชน์ตามมาตรการ EEC ใหม่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ครอบคลุมกิจการในกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปี (กิจการ A1, A2, A3)
มุ่งเน้นในกิจการในกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ ไบโอเทค
นาโนเทค วัสดุขั้นสูง และดิจิทัล และกิจการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย เช่น การออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ วิจัยและพัฒนา บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์
สำหรับ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้มีการกำหนดเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน 2 ทางเลือก ได้แก่ เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเกณฑ์ที่ตั้ง โดยสามารถเลือกดำเนินการทั้งสองเกณฑ์ควบคู่กันเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสูงสุด หรือเลือกเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งก็ได้ ดังนี้
- เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
กรณีมีการพัฒนาบุคลากรไทยในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามรูปแบบที่กำหนด เช่น โครงการ Work-integrated Learning (WiL) สหกิจศึกษาและทวิภาคี หรือรูปแบบที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเห็นชอบ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน 2 ลักษณะแตกต่างกันตามกลุ่มประเภทกิจการ คือ
- กิจการในกลุ่ม A1, A2, A3 จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ร้อยละ 50 เพิ่มเติม 3 ปี
- กิจการในกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายและกิจการสนับสนุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มเติม 2 ปี
- เกณฑ์ที่ตั้ง
ในกรณีตั้งโครงการในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ ได้แก่ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) และศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา (EECmd) จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม คือ 1) กิจการในกลุ่ม A1, A2, A3 จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ร้อยละ 50 เพิ่มเติม 2 ปี 2) กิจการในกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายและกิจการสนับสนุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มเติม 1 ปี นอกจากนี้ กรณีตั้งในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 1 ปี ด้วย
มาตรการนี้ให้มีผลบังคับใช้สำหรับคำขอรับการส่งเสริมที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2563 จนถึงสิ้นปี 2564 ยกเว้นโครงการที่จะตั้งในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ 4 แห่ง (EECi EECd EECa และ EECmd) สามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการนี้ได้โดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการยื่นคำขอ
บีโอไอขยายเวลายื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้นิติบุคคล
บีโอไอขยายเวลายื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้ผู้ประกอบการยื่นเอกสารออนไลน์ได้ทุกงาน
บีโอไอ ปรับระบบการทำงานรองรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ขยายเวลายื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ถึง 31 กรกฎาคม 2563 สอดรับมาตรการกระทรวงการคลังที่เลื่อนเวลาชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล รุกเปิดใช้ระบบ e-Submission สำหรับการยื่นเอกสารออนไลน์ได้ทุกงาน
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่ขยายวงกว้างขึ้น จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังได้มีมาตรการให้เลื่อนเวลาการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล รอบระยะเวลาบัญชีปี 2562 (ภ.ง.ด.50) เป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบนั้น
เพื่อให้เงื่อนไขด้านการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของบีโอไอสอดคล้องกับมาตรการของกระทรวงการคลัง บีโอไอจึงได้ขยายกำหนดเวลาการยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 หรือก่อนครบกำหนดเวลายื่นรายการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อความสะดวกของผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
นอกจากนี้ แม้ว่าบีโอไอจะเปิดให้บริการตามปกติ แต่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นต้องยื่นเรื่องหรือเอกสารต่างๆ บีโอไอจึงได้เพิ่มบริการรับเอกสารทางออนไลน์ นอกเหนือจาก e –Service ที่มีอยู่เดิม (เช่น e-Investment สำหรับรับคำขอส่งเสริมฯ e-Tax สำหรับการยื่นขออนุมัติการใช้สิทธิภาษีเงินได้นิติบุคคล) โดยผู้ประกอบการหรือผู้ใช้บริการสามารถยื่นเรื่อง จดหมาย หรือเอกสารต่างๆ ผ่านระบบการยื่นเอกสารออนไลน์ หรือ “e–Submission” ผ่านเว็บไซต์บีโอไอได้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ระบบการยื่นเอกสารออนไลน์นี้ใช้ได้กับการยื่นเอกสารต่อสำนักงานของบีโอไอในส่วนภูมิภาคทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี สงขลา และสุราษฎร์ธานี ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ นอกเหนือจากการติดต่อบีโอไอผ่านโทรศัพท์ อีเมล แล้ว บีโอไอได้เพิ่มช่องทางการติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย ได้แก่ ไลน์: @boinews เฟสบุ๊ก: BOI NEWS รวมทั้งสามารถ นัดหมายเพื่อประชุมออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.boi.go.th หัวข้อ e–Service
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web