USFDA ได้ออกฉลากโภชนาการอาหารแบบใหม่ เพื่อช่วยให้ชาวอเมริกันได้บริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพยิ่งขึ้น โดยฉลากแบบใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ก.ค. 2018 แต่หากเป็นอาหารที่มียอดขายต่ำกว่า 10 ล้านดอลล่าร์/ปี จะขยายออกไป 1 ปีเป็น 26 ก.ค. 2019

สิ่งสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงของฉลากโภชนาการอาหารแบบใหม่ ได้แก่

- หน่วยการบริโภค (serving size) จะมีการขยายตัวอักษร-ตัวเลข และเน้นให้เข้มขึ้น

- ปริมาณพลังงาน (calories) จะมีการขยายตัวอักษร-ตัวเลข และเน้นให้เข้มขึ้น 

- การใส่น้ำตาล (added sugars) เป็นรายการใหม่เพื่อกระตุ้นให้ชาวอเมริกันลดการบริโภคน้ำตาล

- โซเดียมและไฟเบอร์ – ปรับสัดส่วนที่ควรจะได้รับตามคำแนะนำใหม่ (2015-2020) ของกระทรวงเกษตรและกระทรวงสาธารณสุข โดยโซเดียมจะลดจากไม่เกิน 2,400 มก./วัน เหลือ 2,300 มก./วัน และไฟเบอร์จะเพิ่มจากขั้นต่ำ 25 ก./วัน เป็น 28 ก./วัน

- วิตามิน D และโปตัสเซียม – ให้เพิ่มการแสดงปริมาณ (กรัม)

- วิตามิน A และ C – ไม่กำหนดให้แสดงบนฉลาก

- ไขมัน – ให้แสดงทั้งไขมันรวม, ไขมันอิ่มตัว และไขมันประเภท trans 

- สัดส่วนที่ได้รับจากอาหารเทียบกับที่ควรได้ในหนึ่งวัน  (Percent Daily Value) จะเทียบจากปริมาณพลังงานที่ 2,000 แคลอรี่

โดย ธงชัย บุณยโชติมา / วันที่โพสต์ 30 พ.ค. 2559