อัตราค่าจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 และความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว ในขณะที่การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทำให้เกิดแรงกดดันต่อซัพพลายเชน เมื่อเร็ว ๆ นี้ การรวมกันของคำสั่งซื้อของผู้ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นและอัตราการตอบสนองที่ช้าลงเนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ในหลายประเทศได้ผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก

      Maersk ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่สอง เนื่องจากความแออัดและคอขวดยังคงเพิ่มอัตราค่าขนส่งอย่างต่อเนื่อง

บริษัทเมื่อวันศุกร์รายงานกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 200% จาก 1.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายรับเพิ่มขึ้นเกือบ 60% เป็น 14.2 พันล้านดอลลาร์

      “ขณะนี้ในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เรามีความต้องการที่ไม่เพียงพอ กำลังการผลิตทั่วโลกไม่สามารถรองรับความต้องการทั้งหมดได้ และนั่นคือสิ่งที่ผลักดันให้อัตราค่าระวางบรรทุกสูงขึ้น” Skou กล่าวกับ “Squawk Box Europe” ของ CNBC เมื่อวันศุกร์

    “ในเวลาเดียวกัน แน่นอน เรามีความแออัดในลอสแองเจลิส เราปิดคลองสุเอซมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว เรามีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีนปิดมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ในไตรมาสที่แล้ว และนั่น ดึงความสามารถของเราออกจากตลาด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมา”

ตัวอย่างเช่น อัตราจากจีนไปยังสหรัฐอเมริกาได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่สูงกว่า 20,000 ดอลลาร์ต่อกล่องขนาด 40 ฟุต เพิ่มขึ้นมากกว่า 500% จากปีที่แล้ว ตามรายงานของ Freightos บริษัทติดตามการขนส่งสินค้า

      Skou กล่าวว่าธุรกิจต่างๆ ต่างพยายามตอบสนองความต้องการค้าปลีกที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันก็สร้างสินค้าคงเหลือ ซึ่งแสดงให้เห็นในอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการขายที่ต่ำมากในสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนทำให้ความต้องการคอนเทนเนอร์คอนเทนเนอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยในไตรมาสหน้า      ″เรายังคงสร้างธุรกิจ Ocean ที่มีคุณภาพสูงขึ้นด้วยสัญญาระยะยาวที่มากขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและทำกำไรได้ โดยมีการเติบโตมากกว่าครึ่งของ 38% ที่เกิดจากลูกค้าชั้นนำของ Ocean และการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ Terminals ซึ่งเพิ่มผลกำไรเป็นสองเท่า ในไตรมาสนี้” Skou กล่าวในแถลงการณ์ที่มาพร้อมกับผลลัพธ์

      ผลตอบแทนจากการลงทุนของ Maersk อยู่ที่ 23.7% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาและ Skou กล่าวว่ารายรับและกระแสเงินสดของ บริษัท จะช่วยให้สามารถเข้าซื้อกิจการตามเป้าหมายในขณะที่คืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น

     เมื่อวันศุกร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์กได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการบริษัทขนส่งพัสดุ Visible Supply Chain Management และ B2C Europe ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะขยายขีดความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซ

“แนวโน้มสำหรับไตรมาสที่สามนั้นแข็งแกร่ง และเราคาดว่าโมเมนตัมในปัจจุบันในมหาสมุทรจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสที่สี่ และยังเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเทอร์มินัลของเราด้วย” Skou กล่าวในแถลงการณ์

เมื่อวันจันทร์ Maersk ได้อัปเกรดแนวทางในปี 2564 เป็น EBITDA พื้นฐานที่อยู่ระหว่าง 18 พันล้านดอลลาร์ถึง 19.5 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์กระแสเงินสดอิสระอย่างน้อย 11.5 พันล้านดอลลาร์