เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯมีมติ 234 : 195 ไม่รับร่างกฎหมาย Farm Bill ฉบับใหม่(The Agriculture Reform, Food and Jobs Act of 2013) แม้ร่างฯนี้จะเพิ่งความเห็นชอบของวุฒิสภาสหรัฐฯไปเมื่อต้นเดือน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะต้องต่ออายุ Farm Bill ฉบับปัจจุบันออกไปอีก 1 ปี ทั้งที่รัฐสภาก็ได้ต่ออายุFarm Bill ฉบับนี้ไปเมื่อปีที่แล้วมาครั้งหนึ่งแล้วด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ สภาผู้แทนราษฎรไม่ผ่านร่าง Farm Bill 

    จุดเด่นของร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้แก่

- Farm Bill ฉบับนี้จะมีรายจ่าย 955,000 ล้านดอลล่าร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งลดลงจาก Farm Bill ฉบับปัจจุบัน ราว 24,000 ล้านดอลล่าร์
- รายจ่ายที่มากที่สุด คือ เงินช่วยเหลือด้านโภชนาการ (Food Stamp) จำนวน 760,000 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งลดลงจากฉบับปัจจุบัน 4,100 ล้านดอลล่าร์ 
- จุดสำคัญที่สุดของ Farm Bill ฉบับนี้ คือ การยุติการอุดหนุนการผลิตที่สำคัญ 2 ประเภท คือ การจ่ายเงินโดยตรง (ราว 5,000 ล้านดอลล่าร์/ปี) และ Counter Cyclical payment 
- การเพิ่มการอุดหนุนด้านการประกันพืชผลจาก 9,000 ล้านดอลล่าร์/ปีในปัจจุบัน เป็น 12,000 ล้านดอลล่าร์/ปี (ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯจะให้เงินอุดหนุนค่าประกันพืชผลในอัตรา 60%)
- การคงบทบาทของ USAID ในการช่วยเหลือด้านอาหารแก่ต่างประเทศ (1,000 ล้านดอลล่าร์/ปี) 

     เหตุผลที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯไม่รับร่าง Farm Bill นี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการตัดงบ Food Stamp ซึ่งจะกระทบ ชาวอเมริกันถึง 1 ใน 7 และนอกจากนี้ทำเนียบขาวยังขู่จะ veto ร่างกฎหมายนี้ด้วยเหตุผลเดียวกัน

โดย นายธงชัย บุณยโชติมา