เมื่อเร็วๆนี้ องค์กร Strolling of the Heifers ในสหรัฐฯได้จัดทำLocavore Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดการสนับสนุนฟาร์มเกษตรท้องถิ่นของชุมชนของรัฐต่างๆของสหรัฐอเมริกา โดยพบว่า รัฐเวอร์มอนต์เป็นรัฐที่มีค่าLocavore Index สูงที่สุด รองลงมา คือ ไอโอวา มอนทานา เมน และฮาวาย
Locavore หมายถึง ผู้ที่นิยมทานอาหารที่ผลิตในท้องถิ่น โดยคำว่าLocavore เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในปี 2005 และบรรจุในพจนานุกรมของOxford American ในปี 2007
กระแสความนิยมการบริโภคอาหารที่ผลิตในท้องถิ่น (ปกติจะหมายถึงอาหารที่ผลิตภายในรัศมี 100 ไมล์) มาจากหลายสาเหตุ อาทิ
- อาหารที่ผลิตในท้องถิ่นมีระยะทางการขนส่งน้อย จึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยตามไปด้วย - อาหารที่ผลิตในท้องถิ่นย่อมมีความสดมากกว่า จึงเป็นผลดีต่อสุขภาพ - การส่งเสริมอาหารอินทรีย์ - การบริโภคอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจและการจ้างงานในท้องถิ่น - การบริโภคอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นจะช่วยพัฒนาการแปรรูปอาหารในท้องถิ่น
ทั้งนี้ Kellogg Foundation ได้สำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 800 คนทางโทรศัพท์พบว่า 80% เห็นว่า รัฐบาลควรสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยและท้องถิ่น และ 90% จะยอมจ่ายค่าสินค้ามากขึ้นหากเป็นอาหารที่ผลิตในท้องถิ่น ซึ่งก็สอดคล้องกับการวิจัยของ International Food Information Council ที่พบว่าชาวอเมริกัน 40% จะซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตในท้องถิ่น
ปรากฎการณ์ Locavore ได้ก่อให้เกิดกระแสการผลิตอาหารภายในท้องถิ่นมากขึ้น และห้างค้าปลีกหลายแห่งทั้งในสหรัฐฯ และออสเตรเลียก็ทำ campaign ในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลออสเตรเลียก็ได้แสดงความกังวลว่ากระแสLocavore อาจกระทบต่อการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มของประเทศซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่อยู่ห่างไกลจากตลาดสหรัฐฯและยุโรปมาก
|