- Details
- Category: USA
- Published: Monday, 21 November 2016 09:39
- Hits: 8343
ฟิทช์ เตือนนโยบายการค้า ทรัมป์ อาจบั่นทอนทั้งกับต่างชาติและสหรัฐเอง
นายเจมส์ แมคคอร์แมค นักวิเคราะห์จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกมาเตือนว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ดำเนินการแก้ไขนโยบายการค้าตามที่เคยหาเสียงไว้จริงๆแล้ว ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศคู่ค้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา เม็กซิโก จีน เกาหลี สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ และท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐเอง
นายแมคคอร์แมคกล่าวว่า นโยบายการค้าที่ทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อหาเสียงนั้น ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน และยังไม่น่าจะปรากฎให้เห็นเป็นรูปร่างจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐมนตรีชุดใหม่
นอกจากนี้ การที่นายทรัมป์ได้ประกาศแผนสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก และแผนส่งตัวผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศนั้น ยังจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจเพื่อนบ้านด้วย
อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ผลิตในสหรัฐเรียกร้องให้ทรัมป์ทำการทบทวนนโยบายทางการค้า และดำเนินการด้วยความเหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้การค้าระหว่างสหรัฐ จีน และเม็กซิโก ดำเนินไปอย่างราบรื่น รวมถึงหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางภาษีฝ่ายเดียว แต่ควรมุ่งเน้นไปที่การเจรจาต่อรองด้วย
นอกจากนี้ หน่วยงานด้านธุรกิจ ผู้บริหารภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายที่สนับสนุนด้านการค้า ยังได้พยายามโน้มน้าวให้นายทรัมป์เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า ข้อตกลงการค้าเสรีจะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต ซึ่งรวมถึงช่วยสร้างงานด้วย
ฟิทช์ คาดการส่งออกเหล็กของจีนยังคงสูงในปีนี้ เหตุอุปสงค์ในประเทศทรงตัว
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกเหล็กของจีนจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีหน้า เนื่องจากปริมาณการใช้เหล็กภายในประเทศอยู่ในระดับทรงตัว โดยคาดว่ายอดส่งออกในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 100 ล้านตัน
ส่วนปริมาณการใช้เหล็กนั้น คาดว่าในปีหน้าจะอยู่ในระดับราว 700-705 ล้านตัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มที่แข็งแกร่งของปริมาณการใช้รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน ฟิทช์คาดว่า กำลังการผลิตเหล็กของจีนจะอยู่ที่ 14-27 ล้านตันต่อปี จนถึงปี 2563 ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกในปีหน้าจะยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผู้ผลิตจีนยังคงได้รับประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนและราคาวัตถุดิบที่ต่ำลง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น อุตสาหกรรมเหล็กของจีนได้เผชิญภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ราคาเหล็กร่วงลง และโรงงานหลายแห่งต้องปิดทำการเนื่องจากเรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การที่ราคาเหล็กเริ่มฟื้นตัวในปีนี้ ทำให้โรงงานถลุงเหล็กเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน
อินโฟเควสท์