ขู่บึ้มทำเนียบขาว ลามหนัก ยึดโรงแรมทีมาลี บุกจับ 170 ตัวประกัน มีนักเที่ยวจีน-อินเดีย ยิงกันสนั่นตายแล้ว3 ไอเอสมุ่งกรุงโรมอีก ฮึ่มคาร์บอมบ์ย่างสด

       ไอเอสขู่ไม่เลิก-ฮึ่มโจมตีทำเนียบขาว รวมถึงชาวสหรัฐ แฉเตรียมถล่มอีกระลอกด้วยคาร์บอมบ์-ระเบิด ส่วนกรุงโรมก็ตกเป็น เป้าหมายด้วย ทำให้อเมริกาประกาศตั้งค่าหัวแกนนำอาวุโสไอเอส 179 ล้านบาท ด้านอียูถกคุมเข้มพรมแดนทั้งหมด ขณะที่สถานทูตเตือนคนไทยในสวีเดน เลี่ยงเดินทางไปสถานที่สำคัญ-มีคนเยอะ ส่วนจีนเริ่มตอบโต้-ลุยซินเจียง ขณะที่ก่อการร้ายยังลามหนัก กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายสุดโต่งจับตัวประกัน 170 คนที่มาลี ยิงสนั่นโรงแรมตายแล้ว 3 ศพ-ก่อนทยอยปล่อยตัว ขณะที่สวีเดนจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายโยงไอเอส

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9124 ข่าวสดรายวัน

ขู่ไม่เลิก - เว็บไซต์เดลี่เมล์เผยแพร่คลิปวิดีโอของนักรบ ไอเอส ประกาศขู่โจมตีและเผาทำเนียบขาว ของสหรัฐอเมริกา คาดว่าบันทึกภาพในจังหวัดทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 20 พ.ย.

ไอเอสขู่ถล่มทำเนียบขาว
       เมื่อวันที่ 20 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความเคลื่อนไหวการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลนานาชาติกับกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส หลังเกิดเหตุก่อการร้ายใหญ่ในกรุงปารีส คร่าชีวิตเหยื่อ 129 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. ทำให้ชาติตะวันตกผนึกความร่วมมือบุกจับกุมผู้ต้องสงสัยในยุโรป พร้อมกับโจมตีฐานกำลังไอเอสในซีเรีย ส่วนฝั่งไอเอสปล่อยคลิปข่มขู่ก่อการร้ายในทวีปยุโรปและอเมริกาออกมาอย่างต่อเนื่อง
     โดยเว็บไซต์เดลี่เมล์เผยแพร่คลิปวิดีโอข่มขู่ของนักรบไอเอส คาดบันทึกภาพในจังหวัดดิจาห์ ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ระบุว่าจะโจมตีทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา รวมถึงประชาชนชาวอเมริกันของประธานาธิบดีบารัก โอบามา โดยวิดีโอดังกล่าวเป็นคลิปที่ 3 ที่ไอเอสโพสต์ข่มขู่บนโลกออนไลน์ นับตั้งแต่โศกนาฏกรรมกลางกรุงปารีส
    สำหรับภาพ จากคลิปแสดงให้เห็นนักรบติดอาวุธ สวมชุดคลุมสีดำและโพกศีรษะแบบเปิดหน้า ระบุว่า "เราจะนำข่าวดีมาฝากประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส และประชาชนชาวฝรั่งเศส เช่นเดียวกับนายโอบามา และชาวอเมริกัน ข่าวดีคือ จะโจมตีตามมาเป็นระลอก เราควรย่างพวกเขาด้วยระเบิดและคาร์บอมบ์ เราจะติดตามพวกเขาไม่ว่าจะเป็นที่ไหน และเราจะทำกับพวกเขาเยี่ยงทาส เยี่ยงสุนัขรับใช้"

แพร่คลิปขู่โจมตีกรุงโรมด้วย
      ต่อมาภาพตัดหายไปปรากฏเป็นฉากสีดำ พร้อมเปลวเพลิงลุกไหม้เป็นตัวอักษรอาหรับสีธงชาติฝรั่งเศส คำว่า "ปารีสก่อนโรม" คล้ายกับจะกล่าวว่าเป้าหมายโจมตีครั้งต่อไปคือ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการอิตาลีเพิ่งแถลงว่าตำรวจกำลังตรวจสอบและไล่ล่าผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย 5 คน ซึ่งเอฟบีไอแจ้งมายังอิตาลีว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีสถานที่สำคัญ รวมถึงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก
      จากนั้นนักรบติดอาวุธอีกคนกล่าวว่า "ฝรั่งเศส เราควรบดขยี้ประเทศนี้ ชาวฝรั่งเศสจะไม่รู้จักกับความสุขอีก และจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างยืนยาว เราเริ่มต้นที่กรุงปารีส และจะปิดฉากด้วยการล่มสลายของทำเนียบขาว เราควรทำให้ทำเนียบขาวฉาบไปด้วยสีดำจากไฟ เราจะระเบิดให้เหมือนรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกพังทลายในดินแดนแห่งนี้"

ตั้งค่าหัวไอเอส 179 ล้าน
      ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 179 ล้านบาท สำหรับผู้มีเบาะแสนำไปสู่การจับกุมนายติรัด อัล-จาร์บา หรือที่รู้จักในนาม อาบู-มูฮัมหมัด อัล-ชิมาลี แกนนำระดับอาวุโสของกองกำลังไอเอส ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดหานักรบต่างชาติเข้าไปฝึกฝนเป็นจีฮัดในซีเรีย นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการโอนถ่ายเงินทุนจากยุโรป อเมริกาเหนือ และคาบสมุทรอาหรับ มายังซีเรีย และอิรัก โดยนายชิมาลีมีความเชื่อมโยงกับกองกำลังไอเอสตั้งแต่ปี 2548 เมื่อครั้ง ไอเอสยังเป็นเครือข่ายพันธมิตรของกลุ่มอัล ไคด้า จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักรบชาวฝรั่งเศส และเบลเยียม ผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส โดยกระทรวงการคลังสหรัฐขึ้นบัญชีดำนายชิมาลีเป็นบุคคลอันตรายห้ามเดินทางเข้าประเทศ พร้อมทั้งอายัดทรัพย์สิน
    ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศเพิ่งตั้งค่าหัว 4 แกนนำกองกำลังไอเอส ได้แก่ นายอับด์ อัล-ราห์มาน มุสตาฟา อัล-คาดูลี นายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-อัดนานี นายทาร์คาน ทายูมูราโซวิช บาตีราชวีลี และนายทาริก บิน-อัล-ทาฮาร์ บิน อัล ฟาลีย์ อัล อาวนี อัล-ฮาร์ซี รวมเป็นเงินราว 660 ล้านบาท โดยนายฮาร์ซีซึ่งเป็นหน่วยมือระเบิดพลีชีพ มีค่าหัวประมาณ 105 ล้านบาท รองจากนายอาบู บากร์ อัล-แบกแดดี หัวหน้าไอเอส ที่ 359 ล้านบาท และนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี หัวหน้าอัล ไคด้า ที่รับช่วงต่อจากนายโอซามา บิน ลาเดน ซึ่งมีค่าหัวสูงสุดถึงกว่า 890 ล้านบาท

ญาติหญิงบึ้มฆ่าตัวให้การ
      ขณะที่ความคืบหน้าในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส หลังปฏิบัติการบุกจับนายอับ เดลฮามิด อาบาอุด อายุ 27 ปี ชาวเบลเยียม เชื้อสายโมร็อกโก ผู้บงการก่อการร้ายกรุงปารีส ซึ่งถูกวิสามัญฯ ยิงเข้าที่ศีรษะ ก่อนระเบิดที่ซุกซ่อนไว้จะจุดชนวนทำให้ร่างแหลกเป็นชิ้นๆ อยู่ในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 8 บนถนนคอร์บิลลง เขตเทศบาลแซ็งต์-เดอนีส์ ชานกรุงปารีส เมื่อวันที่ 18 พ.ย. เช่นเดียวกับลูกพี่ลูกน้องชื่อ น.ส.ฮัซนา อิตบูลาห์เซน อายุ 26 ปี ชาวฝรั่งเศส เชื้อสายโมร็อกโก ที่เสียชีวิตจากระเบิดพลีชีพ จนชิ้นส่วนศีรษะและกระดูกสันหลังลอยกระเด็นตกลงนอกอพาร์ตเมนต์
     นายยูสซุฟ อิต บูลาห์เซน พี่ชาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า น.ส.บูลาห์เซนเพิ่งเริ่มสวมผ้าคลุมศีรษะ และศึกษาพระคัมภีร์อัลกุรอานเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    นอกจากนี้ บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ยังเผยแพร่คลิปเสียงของน.ส.บูลาห์เซน ก่อน ก่อเหตุฆ่าตัวตาย ซึ่งในคลิปได้ยินชัดว่าตำรวจถามว่า "แฟนหนุ่มของเธออยู่ที่ไหน" จากนั้นเป็นเสียงผู้หญิงตอบกลับมาว่า "ช่วยฉันด้วยๆ เขาไม่ใช่แฟนของฉัน" และตามมาติดๆ ด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้อง

อียูเร่งคุมเข้มพรมแดน
     ส่วนเหล่ารัฐมนตรีมหาดไทยของสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดประชุมฉุกเฉินในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เพื่อหารือเรื่องเพิ่มความเข้มงวดให้กับการตรวจค้นเข้าพรมแดน ตามที่นายแบร์นาร์ด กาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส กล่าวกระตุ้นให้ประเทศในยุโรปตื่นตัวและลุกขึ้นมาป้องกันการก่อการร้ายอย่างจริงจัง
    การประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่นายอับ เดลฮามิด อาบาอุด หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าเคยอาศัยอยู่ในซีเรีย ถูกปลิดชีพในอพาร์ตเมนต์ย่านแซงต์เดอนีส์ ทางเหนือของกรุงปารีส เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ในปฏิบัติการตรวจค้นของตำรวจฝรั่งเศส ที่มีผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 3 ราย รายแรกระบุชื่อแล้วคือ น.ส.ฮัซนา อิตบูลาห์เซน อายุ 26 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายอาบาอุด ส่วนอีกรายเพิ่งพบศพในอพาร์ตเมนต์เมื่อคืนวันพฤหัสฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สวีเดนจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย
      ด้านเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าของปฏิบัติการบุกจับเครือข่ายก่อการร้ายในสวีเดนว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายมูทาร์ มุทานา มาจิด ชายชาวอิรัก อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาวางแผนก่อการร้าย ได้ในเมืองโบลิเดน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสวีเดน (ซาโป) ระบุเบื้องต้นว่า นายมาจิดไม่มีความเชื่อมโยงกับโศกนาฏกรรมในกรุงปารีส แต่เป็นบุคคลอันตราย และเชื่อว่าเคยร่วมรบกับกองกำลังไอเอสในซีเรียมาแล้ว
    ขณะที่นายกรัฐมนตรีสเตฟาน ลอฟเวน ผู้นำสวีเดน แถลงชื่นชมการทำงานที่ฉับพลันของตำรวจ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุว่า จะคงระดับเตือนภัยก่อการร้ายระดับสูงอีกระยะหนึ่ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เนื่องจากสวีเดนเคยมีเหตุการณ์คนร้ายมุสลิมสายสุดโต่งระเบิดพลีชีพในย่านการค้าของกรุงสตอกโฮล์ม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน เมื่อปี 2553

จีนเริ่มตอบโต้-ลุยซินเจียง
      สำหรับ จีนที่เพิ่งประกาศคิดบัญชีกับ ไอเอส หลังตัวประกันชาวจีนถูกไอเอสสังหาร สื่อมวลชนของรัฐออกข่าวว่า ตำรวจสังหารสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ไปแล้ว 28 ราย ในช่วง 56 วันที่ผ่านมา นับเป็นปฏิบัติการที่นองเลือดที่สุดในรอบหลายเดือน โดยระบุว่าเพื่อตอบโต้ที่กองกำลังนักรบดังกล่าวเข้าไปก่อการสังหารสังหารหมู่เหยื่อในเหมืองถ่านหิน เมืองอักซู 16 ศพ เมื่อเดือนก.ย.
     พร้อมระบุว่า นักรบในซินเจียงส่วนหนึ่งเคยไปร่วมรบกับไอเอสในซีเรีย ก่อนกลับมาก่อการในซินเจียง อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังสงสัยว่า กลุ่มอุยกูร์ที่ว่านี้เกี่ยวข้องกับไอเอสจริงหรือไม่ หรือถูกปราบปรามโดยอาศัยสถานการณ์ของโลก

จับ 170 ตัวประกันที่มาลี-ตาย 3
     ส่วนที่ทวีปแอฟริกา เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุเขย่าขวัญจากฝีมือกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายสุดโต่ง บุกจับตัวประกันกว่า 170 คน เป็นลูกค้าและนักท่องเที่ยว 140 คน และพนักงานอีกราว 30 คน ที่โรงแรมเรดิสสันบลู ในกรุงบามาโก ประเทศมาลี ซึ่งอยู่ในพื้นที่แอฟริกาตะวันตก อดีตประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย
    รายงานระบุว่า มีผู้ได้ยินเสียงปืนดังออกมาถึงบริเวณภายนอกโรงแรม ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจของมาลีเข้าปิดล้อมโรงแรม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบริเวณชั้น 7 และคนร้ายได้จุดไฟเผาทางเดินในอาคาร
     ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ในจำนวนตัวประกัน 170 คน มีนักท่องเที่ยวจีนอย่างน้อย 7 คน รวมอยู่ด้วย โดยสำนักข่าวซินหัวระบุว่า ได้พยายามติดต่อกับตัวประกันชาวจีนคนหนึ่ง ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีคนร้ายถืออาวุธปืนประมาณ 10 คน นอกจากนี้ยังมีชาวอินเดียกว่า 20 คน ถูกจับเป็นตัวประกันด้วย ในเวลาต่อมาสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของมาลีรายงานว่าตัวประกันกว่า 80 คน ถูกปล่อยออกมาจากโรงแรม ส่วนสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้ยกเลิกเที่ยวบิน ระหว่างกรุงปารีสกับกรุงบามาโกทุกเที่ยวบินแล้ว
    ต่อมาบีบีซีระบุว่า กลุ่มอัล-มูราบุตุน กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายสุดโต่งของนายมอกห์ทาร์ เบลมอกห์ทาร์ ซึ่งก่อการร้ายในพื้นที่ประเทศมาลี ไนเจอร์ และลิเบีย โพสต์ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุจับตัวประกันที่โรงแรมเรดิสสัน บลู โดยกลุ่มอัล-มูราบุตุนก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มติดอาวุธ 2 กลุ่มของเครือข่ายอัล ไคด้า สาขาแอฟริกาเหนือ และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มอัล ไคด้า ในอิสลามิกแม็กห์เรบ
     ทั้งนี้ ประเทศมาลีมีความเกี่ยวพันกับฝรั่งเศส ในฐานะที่เคยเป็นอาณานิคมระหว่างปี 2435-2503 ไม่กี่ปีมานี้ต้องเผชิญกับสงครามกลางเมือง การรัฐประหารและการสู้รบระหว่างชาติพันธุ์ตั้งแต่ปี 2554 กระทั่งรัฐบาลชั่วคราวมาลีเกรงว่า กลุ่มนักรบอิสลามจะบุกเข้ามาถึงกรุงบามาโก เมืองหลวง จึงขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส และสหประชา ชาติ ซึ่งต่อมาในปี 2555 สหประชาชาติส่งกองกำลังเข้ามารักษาความมั่นคงในพื้นที่ตอนเหนือ และฝรั่งเศสส่งกองกำลังเข้าไปสกัดกั้นกลุ่มนักรบจีฮัดในมาลี ในปี 2557 จากนั้นเมื่อเดือนมี.ค.ปีนี้ มาลีเพิ่งประสบเหตุก่อการร้ายอีกครั้ง หลังกลุ่มคนร้ายกราดยิงใส่ร้านอาหารในกรุงบามาโก มีผู้เสียชีวิต 5 ราย

สถานทูตเตือนคนไทยในสวีเดน
    วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ประกาศเตือนชาวไทยที่พำนักอยู่ในประเทศสวีเดนว่า หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำให้หน่วยงานความมั่นคงของสวีเดน ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงและตำรวจสวีเดนมีความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่สาธารณะบางแห่ง
     ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงขอให้ชาวไทยในสวีเดนพิจารณาหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่สำคัญที่มีผู้คนจำนวนมาก ซึ่งอาจตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุร้ายได้ รวมทั้งใช้ความระมัดระวังดูแลความปลอดภัยของตนเอง ตลอดจนแจ้งเตือนญาติและเพื่อนชาวไทยให้ทราบด้วย ซึ่งสถานทูตไทยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีพัฒนาการจะแจ้งให้ทราบต่อไป