รัฐมนตรี RCEP 16 ประเทศ ติดตามความคืบหน้าเจรจา FTA

     รัฐมนตรีเศรษฐกิจจากอาเซียน และประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ได้ประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือความตกลง (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ครั้งที่ 2 เน้นย้ำเจตนารมณ์ให้ความตกลง RCEP เป็นความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ทันสมัย ครอบคลุมเนื้อหาอย่างกว้าง และมีคุณภาพสูง

   นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ RCEP ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2557 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย สาระสำคัญสรุปดังนี้ ที่ประชุมได้พิจารณารายงานผลความก้าวหน้าของการเจรจาเปิดเสรี 3 เสาหลัก คือ สินค้า บริการ และการลงทุน เพื่อติดตามให้การเจรจาเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่ผู้นากำหนดให้สรุปผลการเจรจาภายในสิ้นปี 2558 โดยรัฐมนตรีได้มอบหมายนโยบายให้เจ้าหน้าที่เร่งสรุปรูปแบบของการเปิดเสรีสินค้าสำหรับยื่นเสนอยกเลิกภาษีนำเข้าเป็นกลุ่มแรก (Initial Offer) โดยจะต้องครอบคลุมจำนวนรายการสินค้าและมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากที่สุดเพื่อเป็นฐานเริ่มต้นในการเจรจาต่อยอดเพื่อให้ RCEP ดีกว่าความตกลง FTA ที่อาเซียนมีอยู่ในปัจจุบันในโอกาสนี้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำความสำคัญของการปรับประสานอัตราภาษีและเงื่อนไขถิ่นกำเนิดสินค้าที่แตกต่างกันในความตกลงแต่ละฉบับของอาเซียนที่มีอยู่กับประเทศสมาชิก RCEP ให้รวมเป็นฉบับเดียวภายใต้ RCEP เพื่อให้เป็นกฎเกณฑ์เดียวซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและลดต้นทุนการค้าแก่ผู้ประกอบการ

    ในด้านการค้าบริการได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่สรุปรูปแบบการเปิดตลาดการค้าบริการที่เหมาะสมกับประเทศสมาชิก RCEP ให้แล้วเสร็จก่อนการเจรจาคณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP ครั้งที่ 6 ในเดือนธันวาคมนี้ ที่ประเทศอินเดีย สำหรับการลงทุน รัฐมนตรีประเทศสมาชิก RCEP ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าควรใช้แนวทางการเปิดตลาดที่ระบุสาขาและมาตรการที่ไม่ต้องการเปิดเสรีลงไปในตารางข้อผูกพัน (Negative List Approach) ซึ่งเป็นแนวทางที่ยอมรับภายใต้ทุกความตกลงของอาเซียนกับประเทศสมาชิก RCEP นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นอื่นๆที่จะช่วยเสริมสร้างให้ RCEP เป็นความตกลงที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงตามเจตนารมณ์

   อาทิ พาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นการหารือในประเด็น SMEs และพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์เป็นสำคัญและให้พิจารณาแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีฯ จะประชุมกันเพื่อติดตามผลความก้าวหน้าของการเจรจา RCEP อีกครั้ง ก่อนเดือนสิงหาคม 2558

    การมอบหมายนโยบายในการเจรจาดังกล่าวข้างต้นจะทำให้การเจรจาดำเนินการต่อไปได้อย่างมีทิศทางบรรลุเป้าหมายให้ความตกลง RCEP เป็นความตกลงที่มีคุณภาพสูงครอบคลุมทุกมิติทางการค้า มีการเปิดเสรีทั้งในเชิงกว้างและลึก ต่อยอดจากความตกลงการค้าเสรีที่อาเซียนมีอยู่เดิมกับประเทศคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในภูมิภาค RCEP ซึ่งจะกลายเป็นเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุมประชากรกว่า 3 พันล้านคน มีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 10.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 29% ของการค้าโลก และครอบคลุมตลาดส่งออกของไทยกว่า 57% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630