- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Tuesday, 29 August 2017 07:04
- Hits: 4041
'ทีเส็บ' ชูกลยุทธ์เสริมตลาดไมซ์อินเตอร์ฯ ดัน'พัทยา-หัวหิน-กรุงเทพฯ' สามเมืองสวรรค์แห่งการจัดงานเชิงธุรกิจและการพักผ่อน
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดินหน้าตอกย้ำจุดขายประเทศไทยต่อตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (MICE) ต่างประเทศ ชูกลยุทธ์สื่อสารการตลาดสนองตอบนโยบายเศรษฐกิจตามโมเดล ไทยแลนด์ 4.0 และ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (The Eastern Economic Corridor) โดยเล็งการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในพื้นที่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ รองรับโอกาสจากการลงทุน และระบบคมนาคมความเร็วสูง เพื่อหนุนรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ควบคู่การพัฒนาประเทศ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐ ได้ประกาศนโยบายและทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีการออกมาตรการเพื่อการปฏิรูปภาคเศรษฐกิจ อาทิ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน การพัฒนานวัตกรรมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยทีเส็บเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของภาคธุรกิจและกิจกรรมที่เกี่ยวกับไมซ์ ที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำหรับการประชุมสัมมนา และจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ
“ทีเส็บ พัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศในภาพรวม โดยมุ่งหวังให้กิจกรรมด้านไมซ์เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ทีเส็บ เดินหน้าสร้างเครือข่ายร่วมกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดเพื่อดึงดูดให้องค์กรต่างๆ มาจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย ซึ่งแคมเปญล่าสุด ทีเส็บนำเสนอจุดเด่นของประเทศไทย ใน 3 ด้าน ได้แก่ โอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง ความหลากหลายของสถานที่และจุดหมายในการจัดกิจกรรมไมซ์ รวมถึงความมีเอกลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของบุคลากรของไทย ที่สามารถรองรับการจัดงานกิจกรรมไมซ์ระดับโลก โดยองค์ประกอบเหล่านี้ เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นสวรรค์แห่งแห่งการจัดงานเชิงธุรกิจและการพักผ่อนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ทีเส็บ ยังดำเนินกิจกรรมเพื่อตอกย้ำการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย International Media Familiarisation Trip (IMFT2017) โดยเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 35 สำนักข่าวจาก 16 ประเทศ มาเยี่ยมชมและสัมผัสศักยภาพของจุดหมายปลายทางด้านไมซ์ชั้นนำของไทย ได้แก่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ ภายใต้ธีม ‘CONNECT Thailand: Kingdom of Bleisure’ นำเสนอประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ที่ยังเพียบพร้อมด้วยกิจกรรมพักผ่อนที่สร้างความประทับใจได้อย่างตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มไมซ์
สำหรับ การโปรโมทศักยภาพด้านไมซ์ของทั้งสามเมือง ทีเส็บ นำเสนอจุดแข็งในด้านต่างๆ อาทิ พัทยา เมืองแห่งธุรกิจและการพักผ่อน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี พื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการคาดการณ์เม็ดเงินลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 1.505 ล้านล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการระดับใหญ่หลายโครงการ อาทิ การยกระดับสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาโครงข่ายด้านคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการจูงใจนักลงทุนด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมให้ อีอีซี เป็นฐานของ 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตตามเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อพัทยาในการเป็นจุดหมายของนักธุรกิจและนักเดินทางกลุ่มไมซ์
ผนวกกับความพร้อมในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่พัทยามีรองรับอยู่แล้ว เช่น ศูนย์แสดงนิทรรศการ สถานที่จัดงานประชุมสัมมนาที่มีให้เลือกหลากหลาย โรงแรมห้องพักหลายระดับ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลอันเป็นที่นิยม และแหล่งกิจกรรมผ่อนคลายสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในพัทยา อาทิ ศูนย์การจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่ที่สวนนงนุช พร้อมหอประชุมขนาดใหญ่ รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เป็นจำนวนมาก คานโชว์ (KANN Show) ซึ่งเป็นการแสดงไลฟ์โชว์โดยประยุกต์เรื่องราวจากวรรคดีไทย และ เฮลท์แลนด์ สปา พัทยา (Health Land Spa Pattaya) ซึ่งเป็นหนึ่งในด้านการนวดและสปาในระดับภูมิภาค
สำหรับ หัวหิน เป็นจุดหมายที่สามารถเชื่อมโยงกับเมืองพัทยาด้วยบริการเรือเฟอรรี่ข้ามอ่าวไทยด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยเป็นเมืองชายทะเลที่มีมนต์เสน่ห์และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระราชวงศ์ของไทย ปัจจุบัน มีโรงแรมระดับห้าดาวหลากหลายแบรนด์ และยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ตอบโจทย์ในการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ ซึ่งเน้นความหรูหรา พิเศษและแตกต่าง ทั้งนี้ หัวหินมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไมซ์ที่ครบครัน อาทิ สนามกอล์ฟ สถานที่ให้บริการสปาระดับหรู ห้องพัก และสถานที่จัดงานระดับใหญ่ โดยนักเดินทางที่มาจัดกิจกรรมไมซ์ในหัวหิน สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเมืองชายทะเล ความหลากหลายของร้านอาหารทะเล และ สีสันของตลาดโต้รุ่ง ทั้งนี้ ปัจจัยบวกด้านโครงการพัฒนาด้านการคมนาคม ตามแผนเชื่อมโยงกรุงเทพฯ-หัวหินด้วยรถไฟความเร็วสูง จะส่งผลต่อการขยายตัวของกิจกรรมด้านไมซ์ในหัวหินในอนาคต ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 94,670 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างการเปิดรับฟังเสียงภาคเอกชน
ส่วนกรุงเทพมหานคร หนึ่งในเมืองหลวงของเอเชีย สามารถตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นฮับแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย มีศูนย์การประชุมและนิทรรศการระดับโลก โรงแรม หลากหลายระดับ แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งท่องเที่ยวและบันเทิง สำหรับ การเดินหน้าพัฒนากรุงเทพฯ มีโครงการขยายและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทางสัญจร และการพัฒนาพลังสยาม หรือ Siam Synergy ด้วยการแท็กทีมของ 3 กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าที่ปักหมุดทำเลสยาม-ปทุมวัน คือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค, กลุ่มสยามพิวรรธน์และกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ของสำนักทรัพย์สินจุฬาฯ เพื่อตอกย้ำตัวตนของย่านสยามในฐานะศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การช็อปปิ้ง และศิลปวัฒนธรรม-ความบันเทิงที่หลากหลายและครบทุกมิติ
“สำหรับการนำเสนอจุดเด่นด้านไมซ์จากสามจุดหมายปลายทางต่อกลุ่มสื่อมวลชนต่างประเทศในปีนี้ ทางทีเส็บต้องการสร้างประสบการณ์ตรงและมุมมองต่อประเทศไทยทั้งความมีระดับของสถานที่พัก สถานที่จัดกิจกรรม จุดเด่นทางวัฒนธรรม อาหารไทย และกิจกรรมเพื่อสังคม ที่ทำให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายการจัดงานไมซ์ ที่มีความหมายและน่าจดจำได้เป็นอย่างดี” นางศุภวรรณ กล่าว
ในปีงบประมาณ 2560 ทีเส็บคาดการณ์ว่า จะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางเข้าในประเทศไทยรวม 27.1 ล้านคน สร้างรายได้ 155,000 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ต่างประเทศ 1,109,000 คน สามารถสร้างรายได้ประมาณ 101,000 ล้านบาท และ นักเดินทางกลุ่มโดเมสติกไมซ์ 26 ล้านคน สร้างรายได้ 54,000 ล้านบาท และยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนไมซ์ให้เป็นกลไกในการสร้างความเจริญ กระจายรายได้ผ่านอุตสาหกรรมไมซ์สู่ภูมิภาค สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ