WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TATพงษภาณ เศวตรนทรปลัดท่องเที่ยว เผย นทท.ต่างชาติ ก.ค.60 ขยายตัว 4.81% หนุนรายได้ท่องเที่ยวโต 6.16%

     นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดือน ก.ค.60 ว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 3,088,042 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัว 4.81% ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวทุกภูมิภาค ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และแอฟริกา ตามลำดับ

      ขณะที่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวก่อให้เกิดรายได้ 156,403.03 ล้านบาท ขยายตัว 6.16% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด ได้แก่ จีน เกาหลี สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย และฝรั่งเศส ตามลำดับ

       สำหรับ สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วง 7 เดือนปี 60 (ม.ค.-ก.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 20,411,682 คน ขยายตัว 4.47% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และก่อให้เกิดรายได้รวม 1,033,085.33 ล้านบาท ขยายตัว 6.07% ขณะที่ไทยเที่ยวไทย ม.ค.-มิ.ย. 4.53 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วทั้งสิ้น 1.486 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.25% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

       สำหรับ ช่วงครึ่งปีหลัง นายพงษ์ภาณุ ยังมั่นใจว่าสถานการ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะยังเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าเดือน ก.ย.60 อยู่ที่ 26.21% ขยายตัว 2.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเมินจากปัจจัยสนับสนุนต่อเนื่องมาจากช่วงครึ่งปีแรกคือ การท่องเที่ยวโลกและความมั่นใจภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังเติบโตต่อเนื่อง มีการเพิ่มเที่ยวบินไปสู่เมืองรองในอินเดีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ที่อินเดียจะมาใช้บริการ Visa on Arrival ได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะเป็นการบินตรงจากเมืองรองเข้าสู่กรุงเทพ, เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ส่วนเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นไม่ได้เป็นอุปสรรคของการท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าการเติบโตในเชิงรายได้ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีผลมากกว่าการแข็งค่าของเงินบาท

      พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาความแออัดที่สนามบินก็เป็นปัจจัยสนับสนุนอีกอย่างที่จะทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยได้มีการนำกำลัง 300 นายมาช่วยที่สุวรรณภูมิ 180 นาย ดอนเมือง 190 นาย นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเข้ามาช่วยงาน บรรจุตรงเข้ามาที่ ตม.อีกประมาณ 300 ราย มาฝึกอบรม คาดว่าจะมาปฏิบัติหน้าที่ได้ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า

       พร้อมทั้งมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น การขยายช่องตรวจเอกสารผู้โดยสารขาเข้าที่ดอนเมืองอีก 14 ช่องตรวจ จากเดิมที่มี 21 ช่องตรวจ รวมเป็น 35 ช่องตรวจ และขยายพื้นที่จาก 800 ตร.ม. เป็น 1,400-1,500 ตร.ม.เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารในช่วงพีค คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ครบทั้ง 35 ช่องตรวจ และในกรณีปัญหาผู้โดยสารหนาแน่น แถวยาวจะมี Outsorce จากทางการท่าเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก

       ขณะที่นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมั่นใจว่าในปีนี้ภาคการท่องเที่ยวจะยังเติบโตได้ดี เป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกตลาดยังแข็งแรง และดีใจที่มีมาตรการแก้ไขความแออัดที่สนามบิน และมาตรการเกี่ยวกับ Visa on Arrival ซึ่งตอนนี้เริ่มใช้ที่ภูเก็ต ก็อยากให้นำมาใช้ที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิเร็วๆ ซึ่งจะมาเสริมช่วยให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักและไม่มีสถานกงสุลที่จะช่วยเรื่องทำวีซ่า มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

ปลัดท่องเที่ยวฯ นัดหารือผู้ว่า ททท.สรุปข้อเสนอมาตรการกระตุ้น-จับตาสถานการณ์บาทแข็งห่วงผลกระทบ

      นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะหารือกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และเตรียมหารือกับภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลังจากกังวลว่าภาวะเงินบาทแข็งค่าอาจจะกระทบกับรายได้จากการท่องเที่ยว

     นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า  ขณะนี้ได้จับตาสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด หลังจากแข็งค่าไปแล้วกว่า 7% ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่านานเกินไปอาจต้องมีการหารือร่วมกับภาคเอกชน เช่น สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ฯลฯเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาทางรับมือ

     "ตอนนี้ยังไม่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยว แต่อาจจะกระทบรายได้ท่องเที่ยวบ้าง...ซึ่งเราจะจับตาใกล้ชิดและถ้าแข็งค่านานเกินไปอาจต้องหารือภาคเอกชน"นายพงษ์ภาณุ กล่าว

     อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้กังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมากจนเกินไป เพราะหากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 60 ไปจนถึงต้นปี 61 ยังเอื้อต่อการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในประเทศ

                              อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!