- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Saturday, 07 January 2017 14:51
- Hits: 17879
กอบกาญจน์ จับมือคมนาคมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทางรางเน้นกลยุทธ์สัมผัสวิถีถิ่น
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯ จับมือกระทรวงคมนาคม ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทางราง (Rail Tourism) เน้นกลยุทธ์สัมผัสวิถีถิ่น Local Experience ฟื้น 10 กิจกรรม สุดสร้างสรรค์ความประทับใจ ให้นทท.ตลอดโบกี้ เสริฟ์อาหารท้องถิ่นแต่ละชุมชน มี “ครัวรถไฟ"ช่วยสร้างเสน่ห์เมนูขึ้นชื่อ
การเดินทางการท่องเที่ยวทางรางด้วยรถไฟ ซึ่งมีเสน่ห์และสามารถสร้างสรรค์เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวต่างๆ ให้เกิดความเชื่อมโยงไปยังเมืองต่างๆเชื่อมโยงทางพื้นที่และทางวัฒนธรรมโดยอยู่ในระหว่างการพัฒนา และดำเนินงานร่วมกันให้ใช้งานได้ในปี 60 เช่นต่อยอดเส้นทาง กรุงเทพ-หัวหิน หัวหิน-ปราณบุรี สัมผัสมุมมองโค้งชายทะเลเลียบอ่าวปราณบุรี
พร้อมทั้ง พัฒนาเส้นทางตลาดร่มหุบเส้นทางอัมพวา แม่กลองสมุทรสาคร โดยใช้พื้นที่ชั้นบนของอาคารในบริเวณใกล้เคียง ให้มองลงมาจากมุมสูงได้, เชื่อมโยงเส้นทางสู่เมืองต้องห้ามพลาด เชียงใหม่-ลำปาง-ลำพูน, นำหัวรถจักรไอน้ำมาปรับปรุง ดัดแปลงวิ่งบนสะพานข้ามแม่น้ำแคว เส้นทางรถไฟสายมรณะ, ให้ ททท. โปรโมทเส้นทางสายสีม่วง เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว, ทัวร์เล่าเรื่อง แต่ละสถานี เช่น สถานีโรแมนติก...สถานีชุมทางบ้านดารา ก่อนแยกไปพิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานีที่พระพุทธเจ้าหลวง ร.5 เสด็จมารับเจ้าดารารัศมี,
รื้อฟื้นเมนูอร่อยบนครัวรถไฟ และมี จานเด็ด อาหารท้องถิ่นในแต่ละเส้นทาง, เพิ่มตู้บรรทุกจักรยาน เอาใจนักปั่นเส้นทางอยุธยา ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา, จัดให้มี free wi-fiและที่ชาร์ทแบตโทรศัพท์บนรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสาร, เตรียมแผนการตลาดสำหรับรถไฟใหม่จากญี่ปุ่น.เจาะตลาด mid to high และเป็น Tourism for Allให้เป็น Luxury Train เช่น เป็น Gourmet Train Ride
"10 กิจกรรมนี้เป็นรูปแบบทำงานบูรณาการของททท.ร่วมกับกระทรวง คมนาคม เป็นสิ่งที่เคยมีอยู่แล้ว แต่จะนำมารื้อฟื้นใหม่ เช่น เรื่องอาหารท้องถิ่น เมนูขึ้นชื่อของแต่ละชุมชนหรือจังหวัด มาเสริฟ์บนครัวรถไฟ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ"นางกอบกาญจน์ กล่าว
และจากการที่มติคณระรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้มีการเสนอร่างพ.ร.บ.การจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางขึ้นนั้น ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยในเรื่องเส้นทางการท่องเที่ยวเพราะเป็นการปฏิรูปการขนส่งทางราง และจะทำให้การท่องเที่ยวทางราง ( Rail Tourism) ที่กระทรวงท่องเที่ยวบูรณาการร่วมกันระหว่างคมนาคมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สานต่อทำในสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับ ในปี 2560 นี้ มิติด้านพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเน้นสร้างการท่องเที่ยวไทยให้เป็นศูนย์กลาง (Hubs)ใน 5 ด้าน อาทิ ด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) การจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance) เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก World Wedding Congress ในเดือนพฤษภาคมที่ภูเก็ตการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และการท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect) ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กลยุทธ์ Local Experience การสร้างสรรค์ประสบการณ์สัมผัส ชีวิต ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิต คนไทยแบบ 360 องศานั่นเอง ซึ่งการท่องเที่ยวทางรางจะเป็นสิ่งที่เราเร่งทำสานต่อจากรูปแบบเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 4/59 รายได้รวมจากการท่องเที่ยว จำนวน 628,486.67 ล้านบาท ขยายตัว 4.41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 400,436.63 ล้านบาท ขยายตัว 2.03% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 228,050.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 27 ธ.ค.มีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 32.13 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 1.61 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8.96% และ 12.68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ สิ่งที่ควรคำนึงในบริบทของการท่องเที่ยวที่สำคัญในปี 59 และระยะต่อไปได้แก่รายได้จากนักท่องเที่ยวยุโรปขยายตัว 12% และนักท่องเที่ยว CLMV สร้างรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท, การแข่งขันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ด้วยการยกเว้นวีซ่ารุนแรงขึ้น และอีคอมเมิร์ซจีนบุกไทยและอาเซียน, การท่องเที่ยวในเมืองรอง (24 เมือง) สร้างรายได้ 1.47 แสนล้านบาท เร่งพัฒนาเมืองชายแดนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอาเซียน, ในปี 2560 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว และเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าและการแข่งขันรวมถึงการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำกระตุ้นการท่องเที่ยวโลก
ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยที่สำคัญในปี 60 ได้แก่การท่องเที่ยวโลกคาดว่าจะขยายตัว 3.8% และนักท่องเที่ยวยุโรปจะมาเอเชียมากขึ้น, โครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยวขยายตัว ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว (ท่าอากาศยานดอนเมือง ภูเก็ต และอู่ตะเภา), เศรษฐกิจไทยในปี 60 มีแนวโน้มขยายตัว 3-4% และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเริ่มเป็นรูปธรรม
อินโฟเควสท์
กอบกาญจน์ เผยปี 59 รายได้ท่องเที่ยวขยายตัว 12.64% ยอดนทท. 32.6 ล้านคน, รายได้ช่วงปีใหม่โต 8.69%
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงนสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยตลอดปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค- 31 ธ.ค. 59 ว่า มีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 32.58 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 1.64 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8.91% และ 12.64% จากปีที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยนักท่องเที่ยวสวีเดนพักนานที่สุด 19.41 วัน ในขณะที่นักท่องเที่ยวอิสราเอลใช้จ่ายสูงสุด 84,827 บาทต่อทริป นักท่องเที่ยวต่างชาติพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 9.56 วัน ใช้จ่ายมากขึ้นเป็น 5,268.42 ต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.25%
ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.59 – 3 ม.ค.60 กรมการท่องเที่ยว รายงานว่า สร้างรายได้รวม 30,161.91 ล้านบาท ขยายตัว 8.69% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 19,605.53 ล้านบาท ขยายตัว 5.41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเป็นรายได้จากไทยเที่ยวไทย 10,556.38 ล้านบาท ขยายตัว 15.36% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับ ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่สำคัญ ดังนี้ ตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ปัจจัยบวกด้านการบิน คือ เที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินพิเศษช่วงปีใหม่ จำนวน 65 เที่ยวบิน หรือประมาณ 16,389 ที่นั่ง (บินเข้ากรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ มากที่สุดเป็น 3 อันดับแรก) และปัจจัยด้านการเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรป โดยประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม 3 อันดับแรกของตลาดรัสเซีย (ตุรกี เวียดนาม ไทย) ซึ่งในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวรัสเซียขยายตัวสูงถึง 24%
ทั้งนี้ ผลจากมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษี (1 – 31 ธ.ค.59) และมาตรการช็อปช่วยชาติ (14 – 31 ธ.ค.59) ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการจองห้องพักโรงแรม บริการนำเที่ยว รวมถึงรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ สภาพอากาศที่หนาวเย็นในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเยือนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงศาสนา อาทิ การสวดมนต์ข้ามปี การปฏิบัติธรรม และการทำบุญปีใหม่ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 14 ม.ค.เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้การสนับสนุนชุดการแสดงพิธีเปิดในการจัดงานวันเด็ก ณ ทำเนียบรัฐบาล รวมถึง การกีฬาแห่งประเทศไทยได้จัดกิจกรรมวันเด็กเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยจัดให้มีกิจกรรมการแสดงบนเวที กิจกรรมการแข่งขันกีฬา กิจกรรมเสริมทักษะ และกิจกรรมสวนสนุก รวมถึงตัวแทนนักกีฬาทีมชาติจากหลากหลายชนิดกีฬาเข้าร่วมด้วย ตั้งแต่เวลา 8.30 น.- 17.30 น. ณ บริเวณลานพลาซ่า อินดอร์สเตเดียม สนามกีฬาหัวหมาก และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานหลักของภาครัฐในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา อาทิ เช่น งาน Ride to Khong’s Legendary (มหกรรมแข่งขันจักรยานทางไกลประเทศไทย) ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 – 15 ม.ค.60 โดยใช้เส้นทางการแข่งขันเริ่มจากจังหวัดขอนแก่น-กาฬสินธุ์- สกลนคร-นครพนม โดยภายในงานมีกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรมหลักได้แก่การแข่งขันจักรยานแบบ Criterium Stage และแบบ Stage Race รวมระยะทางทั้งหมด 300 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนครั้งที่ 36 ( ASEAN Tourism Forum ATF 2017) ที่สิงค์โปร์ ในหัวข้อ “Shaping our Tourism Journey Together" โดยประเทศไทยเตรียมผลักดัน 2 ประเด็นหลักเข้าสู่ที่ประชุม ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยว ( Digital Tourism ) และการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) ในภูมิภาคอาเซียน และเตรียมความพร้อมในการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ATF ในปี 2018 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นการสร้างการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเซียน (ASEAN Connect) และไปรับมอบการเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป
สำหรับ ปีนี้ ททท. เข้าร่วมงานเป็นครั้งที่ 4 และได้จัดคูหาประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Thai Local Experience" และในช่วงปลายเดือนระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค. ททท. จะจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย" ที่สวนลุมพินี จำลองหมู่บ้าน 5 ภูมิภาค ให้ได้สัมผัสวิถีไทยสไตล์ลึกซึ้ง พบกับแคมเปญใหม่ “ท้าเที่ยวข้ามภาค" ปิดท้ายกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬาด้วยงานวิ่ง ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 14 ในวันที่ 29 ม.ค. 60 ที่จังหวัดขอนแก่น
พงษ์ภาณุ เช็คความพร้อมสุวรรณภูมิ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
เวลา15.00 น. วานนี้ (29 ธ.ค.) นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อตรวจเช็คความพร้อมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมกล่าวว่า
"ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคือประตูหลักของประเทศไทย ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกและช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่นับว่าเป็นช่วงไฮซีซั่น ของคนทุกชาติ ศาสนา จากการพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในวันนี้ ต่างมีความรู้สึกว่าประเทศไทยของเราเป็นจุดหมายคุณภาพที่ชาวต่างชาติใฝ่ฝัน และปรารถนาจะมาเยี่ยมเยือน"
โดยนายพงษ์ภาณุ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนเดินทางมาเพื่อตรวจเยี่ยมระบบการให้บริการและระบบการรักษาความปลอดภัยในภาพรวมโดยเริ่มตั้งแต่
1. สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้รายงานว่า ช่วงนี้จำนวนผู้โดยสารขาเข้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและ ทาง ตม.ได้จัดกำลังเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีช่องตรวจพาสปอร์ตอัติโนมัติ หรือ Autochannel ไว้ตรวจลงตราสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ
2. ตำรวจท่องเที่ยว ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยจัดกำลังหมุนเวียนตลอด 24 ชม. เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยและความปลอดภัยในเขตสนามบินสุวรรณภูมิ
3. สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) ซึ่งทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหา
4. กรมศุลกากร ได้เสริมเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสินค้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT refund for tourists เพื่อส่งเสริมมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย
"ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ประเทศไทยคือแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพที่มีครบเครื่องทั้ง ความงามของธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม รอยยิ้ม และน้ำใจของคนไทย ซึ่งไม่มี ที่ใดในโลกจะทัดเทียมได้"
ทั้งนี้ จากการตรวจความพร้อมของทุกหน่วยงานตนรู้สึกประทับใจและมีความมั่นใจว่า เรามีความพร้อมในทุกๆ ด้านในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่จะมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้
อินโฟเควสท์