- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Friday, 03 June 2016 09:40
- Hits: 2401
เอ็กซ์พีเดีย ชูประเด็น 'นักท่องเที่ยวไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก' พร้อมเผยผลสำรวจเจาะลึกพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยในการเดินทาง
Expedia.co.th เว็บไซต์บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ชูประเด็น 'นักท่องเที่ยวไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก'พร้อมเปิดเผยข้อมูลจากผลสำรวจของ Expedia Sky Conduct Report เจาะลึกพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจากหลายมุมโลกโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทย
เอ็กซ์พีเดีย ตระหนักดีว่าความพึงพอใจของลูกค้าและการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ จึงร่วมมือกับบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ทางการตลาดชื่อดังอย่าง นอร์ธสตาร์ (Northstar) ทำการสำรวจและศึกษาเกี่ยวกับความนิยมและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว โดยการสุ่มตัวอย่างจากนักท่องเที่ยว จำนวน 11,026 คน จาก 22 ประเทศ อาทิ เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไทย, และประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากผลสำรวจ พบว่า ภายในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวไทยกว่า 79% ที่เดินทางโดยสารเครื่องบินเพื่อธุรกิจ หรือเพื่อการพักผ่อนเป็นจำนวนสูงถึง 5 ครั้งต่อคน ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์มีเพียง 65% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวไทยเป็นตลาดสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ ผลสำรวจเพิ่มเติมอื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยมีความแตกต่างจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นอย่างชัดเจนในเรื่องวัฒนธรรม วิถีการใช้ชีวิต มารยาท สังคมและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
ไซม่อน ฟิเกต์ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดีย ของเอ็กซ์พีเดีย กล่าวว่า “ข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาครั้งนี้ชี้ชัดว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางหลักในการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย ผลสำรวจยังบอกอีกว่านักท่องเที่ยวชาวไทยหลงไหลการใช้เทคโนโลยีจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แม้แต่บนเครื่องบินก็มักจะเห็นว่านักท่องเที่ยวชาวไทยต้องมีโทรศัพท์มือถือและหูฟังติดตัวระหว่างการเดินทางไปด้วยตลอด ซึ่งทั้งโทรศัพท์มือถือและหูฟังนั้น ถูกให้ความสำคัญมากกว่าน้ำเสียอีก ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอ็กซ์พีเดียให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเรามีการพัฒนาเว็บและแอพพลิเคชั่นบนมือถืออย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และยังอยู่ภายในงบประมาณที่กำหนดไว้”
จากผลการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยยังระบุถึง 5 กิจกรรม ที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกที่จะทำมากที่สุดระหว่างเดินทาง อันดับหนึ่งคือการนอนพักผ่อน ซึ่งมากถึง 57.1% รองลงมาคือการฟังเพลง 41.9% การรับประทานอาหาร 36% การอ่านหนังสือ/นิตยสาร 31.7% และการเล่นอินเตอร์เน็ต 26.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากต้องเดินทางที่บินนานกว่า 10 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวชาวไทยจะเลือกการนอนหลับมากถึง 77% ในขณะที่การเลือกใช้ระบบความบันเทิงภายในเครื่องบินมี 56% และรับประทานอาหาร 52% ส่วนการลุกขึ้นเดินไปมาบนเครื่องบินนั้นนักท่องเที่ยวชาวไทยมีเพียง 16% ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมีจำนวน 12% ซึ่งแตกต่างจากนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและอเมริกันที่มีถึง 45% และ 39% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่นักท่องเที่ยวขาดไม่ได้ หรือต้องนำติดตัวไประหว่างเดินทางบนเครื่องบิน ซึ่งผลสำรวจออกมาว่านักท่องเที่ยว ทั่วโลกได้จัดลำดับความสำคัญให้ “น้ำ”มาเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ อาหาร โทรศัพท์มือถือ หูฟัง และนิตยสารหรือ หนังสือพิมพ์ ตามลำดับ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นเลือกโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดมากถึง 54% และหูฟัง 37.9% โดยมีน้ำ ตามมาเป็นอันดับสาม 37.2% และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับสุดท้ายเพียง 3% ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเลือกให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 14%
ในด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบิน นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสำคัญมากถึง 53% และยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่นั่งที่กว้างขึ้นและอาหารพิเศษอย่างครบชุด ( full meal) โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเดินทางในเที่ยวบินระยะไกล นานกว่า 12 ชั่วโมง ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่องความสะดวกสบายคิดเป็น 43% และเรื่องอาหาร full meal คิดเป็น 54% ทั้งในกรณีที่เดินทางระยะใกล้หรือไกล นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง ซึ่งมีเพียง 14% เท่านั้นที่เลือกสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันที่มีจำนวนสูงถึง 35%
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจระบุว่านักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นเหมือนกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นในการพยายามเลี่ยงการชำระค่าธรรมเนียมสัมภาระสูงถึง 69% โดยที่ 59% เลือกใช้วิธีจัดของในกระเป๋าให้มีน้ำหนักเบากว่าเกณฑ์กำหนด อีก 63% ตัดสินใจไม่เช็คอินกระเป๋าเพราะไม่ต้องการเสียเวลารอรับ และ 51% ไม่เช็คอินกระเป๋า เพื่อป้องกันกระเป๋าสูญหาย
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล รุกขยายธุรกิจในไทยต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวรีสอร์ทสุดหรู ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ในเดือนมิถุนายน 2559 นี้
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช รีสอร์ทสุดหรูขนาด 180 ห้องพักแห่งใหม่ล่าสุดที่มาในโฉมใหม่พร้อมเอกลักษณ์ภายใต้แบรนด์แมริออท หลังทุ่มงบประมาณกว่า 2,300 ล้านบาทในการปรับโฉม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่ที่ชื่นชอบบรรยากาศของการพักผ่อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติและครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเหนือระดับ
ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ขนาด 180 ห้อง ตั้งอยู่บนหาดในยาง ชายหาดที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัว ขนาบซ้ายขวาด้วยป่าอันสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติสิรินาถที่จะพาคุณหลบความวุ่นวายของสังคมเมืองสู่บรรยากาศแห่งธรรมชาติที่แท้จริง สะดวกสบายด้วยการเดินทางที่ใช้เวลาเพียง 10 นาทีจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต และสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เมืองเก่า ร้านอาหาร และจุดชมวิวที่งดงามของภูเก็ตได้สะดวก
มร.คาร์ล ฮัดสัน รองประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา และญี่ปุ่น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงการเปิดตัวของ ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช รีสอร์ทสุดหรูแห่งล่าสุดว่า “ภายหลังจากการที่ ทีซีซี แลนด์ แอสเซท เวิรด์ ได้มีการลงนามสัญญาเพื่อให้ทางแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลได้เข้ามาพัฒนาและบริหารโรงแรมและรีสอร์ททั้ง 7 แห่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยล่าสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้มีการเดินหน้าแผนการเปิดตัวรีสอร์ทสุดหรูไปแล้วเริ่มที่ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา ที่เปิดให้บริการไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และล่าสุดกับการเปิดตัว ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ซึ่งถือเป็นโรงแรมและรีสอร์ทแห่งที่ 18 ภายใต้เครือแมริออทที่เปิดบริการในประเทศไทย”
“ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวที่เกาะภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก คือ กลุ่มประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย ซึ่งภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเฉลี่ยปีละกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวของภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและชาวไทยที่ต้องการจะสัมผัสความงามของธรรมชาติและการบริการระดับเวิลด์คลาสในแบบฉบับของแมริออท”คุณเดวิด อิพเพอร์ซีลล์ ผู้จัดการทั่วไป ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช
แนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติมุ่งเน้นที่จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่แรกสัมผัส เริ่มที่ล็อบบี้เลานจ์ในคอนเซ็ปต์ The Great Room ที่เป็นเอกลักษณ์ของแมริออท มาในรูปแบบโอเพ่นแอร์พร้อมบริการเครื่องดื่มที่หลากหลายเพื่อเป็นจุดนัดพบแรกเมื่อมาเยือน และสามารถรับลมทะเลได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการออกแบบห้องพักที่มีถึง 2 สไตล์ ทั้งสไตล์โมเดิร์น แมริออท (Modern Marriott) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเรียบหรู แต่ทว่ากลมกลืนและร่วมสมัยด้วยการใช้สีเอิร์ธโทน และสไตล์คอนเทมโพรารี่ไทย (Contemporary Thai) เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้เข้าพักที่ต้องการสัมผัสกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมไทย โดยมีจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด คือ Pool Villa บนชายหาดที่จะให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
นอกเหนือจากความโดดเด่นของรูปโฉมของรีสอร์ทที่ให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายเพื่อที่จะเติมเต็มความสุขในวันพักผ่อนได้อย่างลงตัว ให้คุณสามารถใช้ชีวิตในรีสอร์ทได้อย่างมีความสุขตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ ห้องอาหารและบาร์ซึ่งถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้กับผู้เข้าพักด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษพร้อมกับเชฟมืออาชีพที่รังสรรค์ทั้งเมนูอาหารไทยและอาหารนานาชาติ เริ่มที่ Andaman Kitchen ห้องอาหารในรูปแบบ All-day dining ที่เปิดให้บริการทุกมื้อ และเอาใจผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลด้วยอาหารทะเลสดใหม่ที่เป็นจุดเด่นที่พลาดไม่ได้ของห้องอาหาร Big Fish Restaurant & Bar ที่ตั้งอยู่ริมทะเลที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลยามค่ำคืนบนชายหาดส่วนตัว ปิดท้ายด้วย The Lobby Lounge ที่ที่คุณจะได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศการจิบน้ำชายามบ่ายหรือค็อกเทลสุดเก๋ที่บริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ทที่มีพื้นที่พักผ่อนโอ่โถงเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
นอกจากนี้ ภายในรีสอร์ทยังครบครันด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมายให้คุณได้เพลิดเพลิน อาทิ สระว่ายน้ำสไตล์ลากูนขนาดใหญ่ ฟิตเนสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สปาสุดหรูกับซิกเนเจอร์สปาเมนูที่คุณไม่ควรพลาด และเอาใจคุณหนูๆ ด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ได้แก่ สระว่ายน้ำสำหรับเด็กและคิดส์คลับ
ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช นั้นยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าประทับใจสำหรับการจัดงานประชุมและอีเว้นท์ต่างๆ กับห้องบอลรูมขนาดใหญ่ 126 ตารางเมตร และห้องอเนกประสงค์อื่นๆ อีกหลายห้องที่สามารถปรับให้ตรงกับความต้องการของการจัดงานในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ส่วนตัวหรืองานแต่งงานริมชายหาด กับบรรยากาศสุดโรแมนติกริมทะเลของชายหาดภูเก็ต
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก กรุณาติดต่อ ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช โทร +66 (0) 76 625 555 หรือเว็บไซต์ www.phuketmarriottnaiyang.com