- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Saturday, 03 May 2014 22:41
- Hits: 3661
นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกมาไทย-ญี่ปุ่นหาย 2 แสนคน-บริษัททัวร์กระอักปี 57 การท่องเที่ยวพังยับ
แนวหน้า : ภาคการท่องเที่ยว ระบมพิษการเมือง แอตต้า เผยหลังจบสงกรานต์เข้าสู่ภาวะซบเซาอีกครั้ง โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่จากต่างชาติ ยกเลิกแผนมาไทย โดยเฉพาะญี่ปุ่นอ่อนไหวมากชี้ลดลงไปแล้ววกว่า 50 % ส่วนกรุ๊ปใหญ่จากจีน-เกาหลี ก็ชะลอดูสาถณการณ์ บริษัทร้องจ๊ากแม้แต่คนไทยก็หยุดใช้บริการ เพราะไม่มีเงิน ห้างดังย่านราชประสงค์ ยอมรับกำลังซื้อหายไปเยอะ
นายเอนก ศรีชีวะชาติ อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวจากนี้ไปหลังจบเทศกาลสงกรานต์ว่า ตลาดสำคัญๆ ที่เดินทางเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะเช่นจีนเกาหลีญี่ปุ่น ที่นิยมเข้ามาจัดประชุมสัมมนาในไทย และให้รางวัลแก่พนักงานบริษัท ขณะนี้ยังไม่ดีขึ้น ยกเว้นประเภทกลุ่มFITที่เดินทางกันเอง เป็นกลุ่มเล็กๆ ดีขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ผลมาจากการชุมนุมทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวชะลอเดินทางเข้ามาไทยโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ล่าสุดบริษัทคู่ค้ารายหนึ่งก็ยังโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอยู่ แม้จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว แต่ยังกังวลเรื่องการชุมนุมที่มีอยู่และยังมีการประกาศเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย เป็นเหตุให้เกิดความไม่ไว้วางใจ
นายเอนก กล่าวอีกว่า สิ่งที่บริษัททัวร์ประเภทอินบาวด์(นำนักท่องเที่ยวเข้ามา) ประคองธุรกิจในช่วงนี้ โดยการรับกลุ่มทัวร์เล็กๆ เช่น เข้ามาตีกอล์ฟ และหันไปจับกลุ่มตลาดใหม่ ได้แก่ ตลาดอาเซียน อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย
"นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นลดลงช่วงไตรมาสแรก 50 % หรือหายไปประมาณ 2 แสนคน ปีที่แล้วมีเข้ามา 1.4 ล้านคน แต่มีความเคลื่อนไหวสอบถามเข้ามาเรื่อยๆหลังยกเลิก พ.ร.ก. แต่ยังไม่กลับมาเพราะยังมีชุมนุม ยอดบุ๊กกิ้งล่วงหน้ายังไม่มี ต้องรอการเมืองนิ่งอย่างเดียว" นายเอนกกล่าว
ด้านนายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า การท่องเที่ยวประเภทเอาท์บาวด์ของคนไทยในตลาดต่างประเทศ หลังช่วงสงกรานต์จะชะลอลง เหตุจากความไม่มั่นใจทางการเมือง ไม่กล้าตัดสินใจใช้จ่าย อาจเกิดภาวะเงินฝืดเพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของภาวะเงินส่วนเกิน ส่วนตลาดต่างประเทศที่คนไทยนิยมสูงที่สุดในช่วงสงกรานต์คือญี่ปุ่นที่แซงเกาหลีใต้ และจีน และจะดีต่อเนื่องช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีวันหยุดช่วงวันแรงงาน สำหรับตลาดโดเมสติกคนไทยเที่ยวในประเทศ แต่ละบริษัทไม่ดีนัก เพราะคนไทยขับรถและวางแผนเที่ยวเอง
ด้านนายนพดล ภาคพรต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เพื่อฟื้นการท่องเที่ยวบริเวณย่านแยกราชประสงค์ จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนจัดงาน "ลีฟวิ่ง อาร์ต เฟสติวัล” ครั้งที่ 2 เพื่อหวังให้กลายเป็นซิกเนเจอร์หลักของย่านแยกราชประสงค์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ หลังเผชิญกับปัญหาการเมือง จึงได้ดึงศิลปินระดับชาติ ระดับโลก มาร่วมสร้างผลงานแบบ 3 มิติ และ 4 มิติ ด้วยการวาดภาพบริเวณสกายวอล์คใต้บีทีเอส และหน้าห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ เพื่อดึงการท่องเที่ยวให้กับมาคึกครื้นเหมือนเดิม คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมตลอดงานถึง 10 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวไทย 60 % ต่างชาติ 40 % สร้างเงินสะพัด 6,500 ล้านบาท
ด้านนางกรกฎ ศรีวิกรม์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่าหลังจากจัดงานศิลป์ครั้งแรกไปแล้ว นับว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ จึงพยายามฟื้นการค้าย่านราชประสงค์อีกครั้ง โดยศิลปินจะเริ่มสร้างผลงานตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม-8 มิถุนายน เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาบริเวณแยกราชประสงค์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านราชประสงค์ประมาณ 250,000-270,000 คนต่อวัน ยอมรับว่าในส่วนของกำลังซื้อ หรือยอดขายยังไม่เท่าเดิม จากหลายปัจจัยทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ หรือภาระหนี้ครัวเรือน อีกทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาทั้งหมด เห็นได้จากอัตราการเข้าพักโรงแรมในย่านขณะนี้ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 % ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 80 %
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการแยกราชประสงค์ต้องการร่วมกันสร้างบรรยากาศ การท่องเที่ยวและค้าขายให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิมตลอดทั้งปี โดยการเตรียมจัดงาน “ไทยแลนด์แกรนด์เซล” ทุกห้างลดราคาสินค้าสูงสุด 7% เป็นระยะเวลา 2 เดือน จากนั้นในช่วงปลายปีจัดงานเคาท์ดาวน์อีกครั้ง คาดว่าหลังปัญหาการเมืองยุติและแม้การบริโภคยังไม่ฟื้นตัวนัก การซื้อขายสินค้า ก็จะกลับมาปกติในช่วงปลายปี