- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Saturday, 26 March 2016 00:42
- Hits: 10613
ทีเส็บ จับมือสถาบันปิดทองหลังพระฯ ร่วมเทิดพระเกียรติปี 3 ปีติเปิดโครงการประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ
ทีเส็บ สถาบันปิดทองหลังพระฯ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ และ ทิก้า ร่วมใจกันจัดโครงการ “ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ” เฉลิมฉลองปีแห่ง 3 ปีติ สานต่อพระราชปณิธานของทั้งสองพระองค์ พร้อมขับเคลื่อนประชารัฐตามนโยบายรัฐบาลมุ่งส่งเสริมตลาดการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ สร้างการเรียนรู้จากโครงการพระราชดำริทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดนำความรู้ไปพัฒนาองค์กรและบุคลากร
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “เนื่องในปี 2559 นี้ เป็นปีแห่ง 3 ปีติ ซึ่งจะมีงานเทิดพระเกียรติยิ่งใหญ่ ถึง 3 งาน คือ ครบรอบ 70 ปี ครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ทีเส็บ ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) จัดโครงการ “ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ” เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อพระราชปณิธานของทั้งสองพระองค์ และเป็นการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาในประเทศสนับสนุนการเรียนรู้องค์ความรู้อันทรงคุณค่าจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากรและองค์กรต่อไป
ปีนี้ ทีเส็บ ได้กำหนดแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ผ่านการขับเคลื่อนโครงการประชารัฐที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยทีเส็บจะดำเนินการผ่าน 2 แนวทาง อันดับแรกมุ่งเน้นการกระจายรายได้ และยกระดับรายได้ด้วยธุรกิจไมซ์ภายในประเทศ เริ่มด้วยมาตรการ Quick Win ส่งเสริมการประชุมและสัมมนาในประเทศโดยเน้น “New Destination” สถานที่จัดประชุมใหม่ๆสำหรับรองรับกลุ่มการประชุมสัมมนาภายในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการพระราชดำริ พร้อมนำเสนอ “Quick Win Promotion” ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายในการจัดประชุมสัมมนา และกิจกรรมต่างๆขององค์กร อาทิ การสร้างความสัมพันธ์กลุ่ม (Team Building), การจัดทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม (CSR)
แนวทางที่สอง มุ่งสร้างความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจไมซ์ ซึ่งนับเป็นมาตรการระยะกลางและระยะยาว โดยรัฐบาลจะเน้นการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ด้วยการเพิ่มศูนย์ประชุมนานาชาติ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในกลุ่มจังหวัด การเพิ่มพื้นที่ใหม่ๆ สำหรับการจัดกิจกรรมและการเพิ่มสินค้าและบริการในท้องถิ่น รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมาย ข้อระเบียบเพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านไมซ์และการท่องเที่ยว
โครงการ“ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ”เป็นกิจกรรมหลักอันหนึ่งในการขับเคลื่อนประชารัฐภายใต้แคมเปญประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติ มีการคัดเลือกโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการส่วนพระองค์ ที่มีความพร้อมรองรับกลุ่มประชุมสัมมนาเข้าร่วมกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ โดยทีเส็บกำหนดจัดแฟมทริป ประชาสัมพันธ์โครงการ รวม 12 เส้นทางใน 4 ภูมิภาค ครอบคลุมจังหวัด กรุงเทพ ประจวบคีรีขันธ์ นครพนม สกลนคร ราชบุรี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช อยุธยา และอ่างทองร่วมกับสทน.และทิก้าจัดแพคเกจการประชุมเพื่อส่งเสริมตลาด พร้อมทั้งให้การสนับสนุนงบประมาณในการเดินทางแก่องค์กรธุรกิจที่ประสงค์จัดการประชุมสัมมนาในประเทศ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด อาทิ กลุ่มขนาด 50 คนขึ้นไป ให้การสนับสนุน 20,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 210,000 บาท สำหรับกลุ่มมากกว่า 350 คน
ทั้งนี้ ทีเส็บ คาดหมายว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ ในปีงบประมาณ 2559 ให้เติบโตขึ้นทางทั้งด้านปริมาณและรายได้ ประมาณร้อยละ 5 หรือคิดเป็นจำนวนนักเดินทางไมซ์ในประเทศ 24 ล้านคน ทำรายได้ 47,000 ล้านบาท
ด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า สถาบันปิดทองหลังพระฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับทีเส็บอีกครั้ง หลังจากที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเปิดทองหลังพระและกิจกรรมไปไหนไปกันมาแล้ว แต่ละกิจกรรมทำให้เกิดการท่องเที่ยวทัศนศึกษาโครงการพระราชดำริไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน เพราะโครงการพระราชดำริจำนวนมากมีทั้งความสวยงาม มีเรื่องราว และมีสินค้าที่ระลึก ครบถ้วน เหมาะสมต่อการไปเยี่ยมชมได้ในทุกภาคของประเทศ
งานในลักษณะนี้ทำให้เกิดประโยชน์หลายด้าน เช่น ทีเส็บได้สร้างมิติใหม่สำหรับการประชุมและนิทรรศการ โดยนำโครงการพระราชดำริเข้ามาเสริมการประชุมทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าด้านการพักผ่อนเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับงานของปิดทองหลังพระฯ ซึ่งมีหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ที่สำคัญคือเมื่อเกิดการเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริอย่างกว้างขวางแล้วจะช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาได้ดีในอนาคต
นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดทำโครงการนี้ว่า สทน. จะดำเนินงานใน 2 ส่วน คือ ผลิตรายการนำเที่ยวและการจัดประชุมสัมมนาไปยังโครงการพระราชดำริที่เข้าร่วมอยู่ในโครงการ จำนวนประมาณ 20 รายการ โดยนำเสนอขายผ่านเครือข่าย
สมาชิกและพันธมิตรของสทน. รวมกว่า 400 ราย และการสนับสนุนให้บริษัทองค์กรห้างร้านต่างๆ ได้รับรู้ถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆขององค์กรทั้งที่จัดให้กับพนักงานหรือคู่ค้าทางธุรกิจ ได้ไปทำกิจกรรมเรียนรู้ในพื้นที่โครงการพระราชดำริ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในปีมหามงคล 3 ปีตินี้ โดย สทน. ประมาณการว่าจะมีนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมประชุมสัมมนาเดินทางกับโครงการประมาณ 8,000 – 15,000 คน สร้างรายได้ 70-100 ล้านบาท
นอกจากนี้ การจัดโครงการดังกล่าว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตลาดและสร้างช่องทางการขายให้กับสมาชิกที่ผ่านการอบรมมาตรฐานบริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ภายในประเทศ (DMC Standard) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สทน. กับ ทีเส็บ เพื่อพัฒนาคุณภาพงานและเพิ่มจำนวนบริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ที่ได้มาตรฐานรองรับความต้องการของตลาดได้มากขึ้น