- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Monday, 14 July 2014 22:01
- Hits: 3508
ลุยเรียกเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทยงัดไม้เด็ดปล่อยแคมเปญดูดต่างชาติ
บ้านเมือง : ทีมข่าวเศรษฐกิจ/รายงาน
สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติลดน้อยลง เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงกำหนดทิศทางดำเนินการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวไทยในปีหน้า คงเป้าหมายรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
เร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ททท.
นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยถึงทิศทางการส่งเสริมตลาดในภาพรวม ว่า ททท. ได้ยึดตามแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาเป็นกรอบในการดำเนินงาน โดยจะมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว คือ การฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเร่งรัดวางรากฐานที่ดีของประเทศ และการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม โดยประเด็นการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อตลาดนักท่องเที่ยว เป็นการวางเป้าหมายลำดับแรก ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวนโยบายของ คสช. โดย ททท. จะสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย ด้วยการนำส่งความสุข สนุกแบบไทยๆ ที่แตกต่างจากชาติอื่นๆ ภายใต้แคมเปญการสื่อสารหลักที่เน้นย้ำแบรนด์ 'Amazing Thailand ; Happiness Within'พร้อมความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมพิเศษระดับนานาชาติเป็นปฏิทินท่องเที่ยวตลอดทั้ง 12 เดือน เพื่อทำให้เกิดการใช้จ่ายและพักนานวัน ควบคู่กับการสร้างสรรค์สินค้าท่องเที่ยวเชิงคุณค่า ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวและสร้างการเชื่อมโยงการเดินทางในประชาคมอาเซียน โดยดำเนินการส่งเสริมตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับ ทิศทางการดำเนินงานด้านตลาดในประเทศ ททท.ยังคงใช้แนวทางการสื่อสารการตลาดไปสู่นักท่องเที่ยวไทย ภายใต้แคมเปญ'หลงรักประเทศไทย'เพื่อชักจูงให้คนไทยเที่ยวไทยได้รู้จักเมืองไทยและรักประเทศมากขึ้น เนื่องจากบรรยากาศการเที่ยวเมืองไทยของคนไทยยังมีความเคลื่อนไหวที่ดี ททท. จะมุ่งกระตุ้นความต้องการในการเดินทางของคนไทยในทุกกลุ่ม (กลุ่มครอบครัว วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และเยาวชน) รวมทั้งสร้างความสมดุลเชิงพื้นที่เพื่อลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก โดยส่งเสริมการเดินทางสู่จังหวัดท่องเที่ยวทางเลือกที่มีเอกลักษณ์ '10 เมืองต้องห้าม...พลาด'(ลำปาง, เพชรบูรณ์, บุรีรัมย์, เลย, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, จันทบุรี, ตราด, ชุมพร, ตรัง) และสานต่อโครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาด้วยแนวคิด'เที่ยวง่าย สบายกระเป๋า'เป็นการสร้างความสมดุลเชิงเวลา
ตั้งเป้ารายได้ 8 แสนล้านบาท
ส่วนทิศทางด้านตลาดต่างประเทศ ในปี 2558 ในส่วนของกลุ่มตลาดก้าวไปข้างหน้า ยุโรป อเมริกา ซึ่งภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ททท.จะมุ่งรุกคืบพื้นที่ใหม่ในเมืองรอง เช่น Lyon, Marseille, Nice ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส Stuttgart, Hamburg, Munich, Leizig ในเยอรมัน Birmingham, Manchester, New Castle, Glasgow, Edinburg ใน สหราชอาณาจักร และกลุ่มแอฟริกาเหนือ (โมร็อกโก แอลจีเรีย ตูนิเซีย) พร้อมกับการรักษาฐานตลาดเดิมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางซ้ำ โดยเฉพาะตลาดสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส อเมริกา และบราซิล ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตก้าวกระโดด ผ่านกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและนำเสนอพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ เช่น ขนอม สุโขทัย สร้างประสบการณ์ร่วมในวิถีไทย โดยชูเรื่องศาสตร์การทำอาหาร มวยไทย เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มตลาดฟื้นฟู ซึ่งจะโฟกัสไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ อาเซียนและแปซิฟิคใต้ โดย ททท.จะรุกตลาดเมืองรองของจีน อาทิ เซียะเหมิน อู่ฮั่น ซีอาน ฉางฉวน ซึ่งเป็นเมืองที่มีสภาพเศรษฐกิจดี เมืองปูซาน เกาหลี รวมถึงตลาดขนาดเล็ก แต่มีศักยภาพในตะวันออกกลาง เช่น จอร์แดน อียิปต์ เลบานอน พร้อมทั้งเข้าถึงกลุ่มตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในเมืองเดิม เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย เจาะกลุ่มคอร์ปอเรต กลุ่มครอบครัว นักบริหารรุ่นใหม่ และสาวออฟฟิศที่มีกำลังซื้อสูง โดยสินค้าที่อยู่ในความสนใจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สุขภาพความงาม และอาหารไทย นอกจากนี้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในปีหน้า จะทำให้ตลาดอาเซียนเดินทางระหว่างกันได้กว้างขวางขึ้น ททท. จะวางตำแหน่งทางการตลาดให้ประเทศไทยเป็น ASEAN Connectivity ใช้โอกาสของไทยเป็น Entry/Exit Point เพื่อดึงตลาดประเทศที่สามทั้งในกลุ่มตลาดระยะใกล้ เช่น สิงคโปร์ จีนและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) รวมถึงตลาดระยะไกลเข้ามาท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การมุ่งสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระดับบนหรือตลาดความสนใจพิเศษ (Niche Market) ได้แก่ กลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าความหรูหรา กลุ่มคู่แต่งงาน-ฮันนีมูน กลุ่มกอล์ฟ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเน้นการจัดกิจกรรมที่กระตุ้นการขายได้จริง เช่น Honeymoon Agent Fam Trip & Romance Symposium กิจกรรม Thailand Golf Travel Mart งาน Thailand Health Tourism Mart ฯลฯ และเพิ่มช่องทางการขายเข้าสู่นักท่องเที่ยวโดยตรงผ่าน Online รวมถึงการทำตลาดร่วมกับพันธมิตรซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยในการสร้างรายได้การท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท (เติบโต 16%) และรายได้จากตลาดในประเทศ 800,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14%)
ดันเป้าท่องเที่ยวในประเทศ
นายอานุภาพ ธีรรัฐ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่า ททท.จัดประชุมแผนปฏิบัติการท่องเที่ยวด้านตลาดในประเทศ ประจำปี 2558 โดยกำหนดแนวนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยแบ่งออกเป็น 3 โครงการหลักภายใต้แนวคิด'หลงรักประเทศไทย'ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทางเลือก 2.โครงการ Dream Destinations 2015 กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน ส่งเสริมให้คนไทยออกไปท่องเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวสายดอกไม้ตลอดทั้งปี และ 3.โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว จำนวน 148 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 9.5% มีรายได้ จำนวน 8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%
ทั้งนี้ สำหรับ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทางเลือก ททท.จะแนะนำ 10 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจทั่วประเทศ เพื่อกระจายการท่องเที่ยวสู่จังหวัดท่องเที่ยวทางเลือกที่มีเอกลักษณ์และมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด "เมืองต้องห้าม...พลาด" ประกอบด้วย ภาคเหนือ : เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา (ลำปาง), ภูดอกไม้สายหมอก (เพชรบูรณ์) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เมืองปราสาทสองยุค (บุรีรัมย์), เย็นสุด...สุขที่เลย (เลย) ภาคกลาง : เมืองสายน้ำสามเวลา (สมุทรสงคราม), ชุมชนคนอาร์ต (ราชบุรี) ภาคตะวันออก : เมืองเกาะในฝัน (ตราด), สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้ (จันทบุรี) ภาคใต้ : ยุทธจักรความอร่อย (ตรัง), หาดทรายขาวสี่ร้อยลี้ (ชุมพร)
ส่วนโครงการ Dream Destinations 2015 กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน : ททท. ได้คัดสรรเส้นทางสายดอกไม้ที่มีความงามดั่งฝันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดทั้งปี ประกอบด้วย มกราคม : หุบเขาพญา เสือโคร่ง ภูลมโล อ.ด่านซ้าย จ.เลย, ทุ่งเบญจมาศ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, ลานทิวลิป เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม จ.เชียงราย, ถนนสุพรรณิการ์ จ.นครนายก กุมภาพันธ์ : ถนนเหลืองปรีดียาธร จ.สุพรรณบุรี, ทะเลบัวแดง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี, ดอกเสี้ยว ป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง มีนาคม: ถนนชมพูพันธ์ทิพย์ มหาวิทยาลัยเกษตร เขตกำแพงแสน จ.นครปฐม, เมษายน : ถนนดอกคูณ จ.ขอนแก่น, ทะเลบัว อุทยานนกน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง พฤษภาคม : ทุ่งดอกเปราะภู ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก มิถุนายน : นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม กรกฎาคม : ทุ่งดอกกระเจียว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ, ดอกเข้าพรรษา ไหล่เขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวงและเขาพู จ.สระบุรี สิงหาคม : ทุ่งดอกปอเทือง ต.รำแดง จ.สงขลา กันยายน : ทุ่งดอกหงอนนาค ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ตุลาคม : ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พฤศจิกายน : ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน, ดอกชวนชม สวนนงนุช จ.ชลบุรี และ ธันวาคม : ดอกกาแฟบาน จ.ชุมพร, ทุ่งคริสต์มาส ณ ลานต้นคริสต์มาส ภูเรือ จ.เลย, ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จ.ลพบุรี โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว : ส่งเสริมการท่องเที่ยวในการกระตุ้นเศรษฐกิจวันธรรมดา เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้การท่องเที่ยวไปยังวันธรรมดาได้ อันจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่น
ขณะที่นักท่องเที่ยวก็จะได้ประโยชน์การท่องเที่ยวอย่างคุ้มค่า โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวคนไทยที่สามารถท่องเที่ยวในวันธรรมดา อาทิ กลุ่มครอบครัว (ปิดเทอม) เจ้าของธุรกิจ สมาคมและชมรมผู้สูงอายุ/เกษียณ คนทำงาน (ลาพักร้อน) กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มสุขภาพ เป็นต้น
เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชวนเที่ยว
"สำหรับแผนในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในระยะเร่งด่วนนั้น ททท.ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ 'แคมเปญท่องเที่ยว...คืนความสุขให้เมืองไทย'ชุด 'ยินดีต้อนรับ" โดยได้เลือกให้ดาราชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งได้แก่ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ และอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เป็นตัวแทนในการเชิญชวนคนไทยออกมาเที่ยว"
นายอานุภาพ กล่าวต่อว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะถือเป็นการสร้างกระแสกระตุ้นให้คนไทยกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทย เพื่อช่วยชาติฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ยังเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจให้หมุนเวียนในกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงาน และกลุ่มครอบครัว โดยกรอบ แนวคิดของโฆษณาดังกล่าวเกิดจากผู้ประกอบการ ร้านค้า พ่อค้า แม่ค้า ชุมชน ต่างรอคอยและพร้อมต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จึงสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อชักชวนให้คนไทยออกไปท่องเที่ยว และอย่าปล่อยให้ผู้ประกอบการทั้งหลายรอเก้อ ออกมาสร้างความคึกคัก คืนความสุขให้กับตัวเอง และคืนความสุขให้เมืองไทย
"การท่องเที่ยวถือเป็นพลังสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศ และกระจายรายได้สู้ท้องถิ่นต่างๆ สิ่งสำคัญที่จะมาช่วยเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศไทย ก็คือ นักท่องเที่ยวคนไทย ททท. มีแนวคิดที่จะมุ่งที่จะชักชวนคนไทยให้ออกไปท่องเที่ยวในเมืองไทยกันเยอะๆ เพื่อช่วยสร้างความคึกคักในพื้นที่ สร้างบรรยากาศที่ดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนและฟื้นฟูประเทศไทย"นายอานุภาพ กล่าวเพิ่มเติม
ภาคกลางหวังกวาดรายได้ 3.6 แสนล้าน
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง กล่าวว่า ในส่วนความรับผิดชอบของ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคกลาง คาดว่าได้รับส่วนแบ่งการตลาดตามเป้าหมาย นักท่องเที่ยวไทย (คนไทยเที่ยวไทย) จำนวน 70 ล้านคนครั้งต่อปี รายได้ 367,641 ล้านบาท โดยได้แบ่งภาระหน้าที่และเป้าหมายความรับผิดชอบร่วมกับเครือข่ายภาคี ผ่านสำนักงาน ททท.ในเขตความรับผิดชอบการตลาด 8 สำนักงาน ดังนี้ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร (รับผิดชอบพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 29 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 280,000 ล้านบาท, ททท.สำนักงานกาญจนบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ กาญจนบุรี) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 7 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 14,370 ล้านบาท, ททท.สำนักงานเพชรบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ เพชรบุรี ราชบุรี) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 7.2 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 20,090 ล้านบาท, ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ (รับผิดชอบพื้นที่ ประจวบคีรีขันธ์) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 4.1 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 19,514 ล้านบาท, ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา (รับผิดชอบพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 5.6 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 10,146 ล้านบาท สำหรับ
ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 3.4 ล้านคนครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 4,107 ล้านบาท, ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม (รับผิดชอบพื้นที่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 5.6 ล้านคนต่อครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 7,010 ล้านบาท, ททท.สำนักงานลพบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี) รับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 8.3 ล้านคนครั้งต่อปี ประมาณรายได้ 12,404 ล้านบาท
ทั้งนี้ แนวทางการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ปี 2558 ซึ่งถือเป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 หลงรักประเทศไทย กับ "เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง" ได้ดำเนินงานต่อเนื่องและต่อยอดมาจากปี 2554 Unseen 3 (ได้นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่แปลกๆ ) ใน 19 จังหวัดภาคกลาง และเติมเต็มจากปี 2555 มหัศจรรย์เมืองไทย (ได้เลือกจุดขายใหม่เกี่ยวกับ ที่กิน ที่นอน ที่ช้อป 19 จังหวัดภาคกลาง) และกระตุ้นตลาดต่อเนื่องในเชิงบูรณาการในปี 2556 โดยได้นำเสนอ Event Marketing 'เที่ยวภาคกลางทั้งปีไม่มีเบื่อ'ใช้กิจกรรมพิเศษ งานเทศกาล งานประเพณี ในท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วนำมาใช้ในการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคได้ตลอดทั้งปี และขับเคลื่อนการตลาดแบบผสมผสานตลอดทั้งปี 2557 กับแคมเปญ ททท. 'หลงรักประเทศไทย'ตกหลุมรักเที่ยวภาคกลาง
อัดกิจกรรมตลอดทั้งปี
ดังนั้น ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จึงได้เน้นการทำงานในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย โดยการทำงานในเชิงบูรณาและเครือข่าย ร่วมกับ'ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558'สร้างเป็นแบรนด์'เที่ยวภาคกลาง'สร้างภาพลักษณ์จุดขาย&ง่ายต่อการจดจำด้วยการต่อยอดสโลแกน 'เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง'นำมากระตุ้นการตลาดท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวออกมา'เที่ยวภาคกลาง'ในแต่ละเดือนด้วย Event Marketing โดยอาศัยกิจกรรมพิเศษที่จะช่วยการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสให้เกิดการตัดสินใจในการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับการตลาดตลอดทั้ง 12 เดือน พร้อมรุกการตลาดใหม่กับ'วันธรรมดาน่าเที่ยว @ 19 จังหวัดภาคกลางตลอดทั้งปี'แหล่งท่องเที่ยวเมืองทางเลือก หรือ เมืองต้องห้าม.พลาด @ สมุทรสงคราม และราชบุรี'เที่ยวถนนสายดอกไม้ หรือ Dream Destination 2 @ ลพบุรี สระบุรี นครปฐม สุพรรณบุรีฯลฯ และทำการบูรณาการโครงการ/แผนงาน ต่างๆ หลายร้อยโครงการ/แผนงานที่สามารถสร้างคุณค่าสู่มูลค่าหรือรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมการให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยว (การตลาดท่องเที่ยว 3.0) เจาะลึกแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชุมชน เน้นการท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพ และสุขภาพ นำเสนอที่เที่ยว ที่กิน ที่นอน ที่ช็อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภูมิภาค คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวในฝัน สร้างมิติใหม่ทุกรูปแบบเพื่อขับเคลื่อนการทำงานไปสู่เป้าหมายเชิงบูรณาการร่วมกับภาคีพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยได้ผสมผสานกลยุทธ์ต่างๆ ของกระบวนการทำงานเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ ล่าสุด ททท.ร่วมคืนความสุขให้ประชาชนปิดถนนราชประสงค์ จัดบิ๊กอีเว้นท์ Street Festival เร่งสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด Thailand Happiness ชูไฮไลท์ Happiness Concert ระดมศิลปินรวมพลังส่ง'คำเชิญรอยยิ้ม'จากคนไทยไปทั่วโลก และ Happiness Street โชว์สร้างสีสันตลอดสองข้างทาง พร้อมจัด Mega Famtrip เชิญสื่อมวลชน บริษัทนำเที่ยว และ Blogger จาก 37 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน ฟื้นความเชื่อมั่นดันเป้านักท่องเที่ยวไตรมาสสุดท้าย จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างหนัก ส่งผลให้ ททท.กำหนดจัดกิจกรรม Street Festival โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมตอกย้ำสถานการณ์ในประเทศไทยสู่ภาวะปกติ และเป็นการประกาศว่าเมืองไทยสวยงามปลอดภัย เชิญชวนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ภายใต้แนวคิด Thailand Happiness ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2557 ณ บริเวณถนนพระราม 1 และถนนราชประสงค์ โดยกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นความร่วมมือร่วมใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคนไทยทุกภาคส่วนและในการส่งคำเชิญนับล้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้กลับมาสัมผัสกับความเป็น "Land of Smiles" อีกครั้ง ภายในบริเวณงานจะตกแต่งรูปแบบสไตส์ไทยประยุกต์ อาทิ กำแพงดอกไม้นานาชนิด หลังคาร่มจากภาคเหนือ ตกแต่งต้นไม้ด้วยผ้าขาวม้าเอกลักษณ์ของภาคอีสาน เป็นต้น
ทั้งนี้ กิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Happiness Concert และ Happiness Street โดยในส่วนของ Happiness Concert ณ ถนนราชประสงค์ จัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น. โดยกิจกรรมไฮไลท์สำคัญจะมีศิลปินระดับประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ดา เอ็นโดรฟิน, โปเตโต้, หญิงลี, ปาล์มมี่, ป็อด โมเดิร์นด็อก เป็นต้น ส่วน Happiness Street จะปิดถนนพระราม 1 บริเวณด้านหน้าสยามพารากอน - สี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2557 แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ 1.Happiness Show off : สนุกสนานกับขบวนพาเหรด หรรษากับสากลในความเป็นไทย ด้วยขบวนอีสานดรัมไลน์ โชว์เอกลักษณ์แฟชั่นไทยหนึ่งเดียวในโลกกับการรวมนางงามไทยแต่งกายชุดประจำชาติแบบประยุกต์ อิ่มเอมกับครัวไทยสู่ครัวโลก พาความสนุกเที่ยวไทยไปทุกที่ กับขบวนจักรยานสามล้อถีบท่องเที่ยวไทย สุขใจ ประเทศไทยเมืองผลไม้ ปิดท้ายกับความมันส์กับลูกทุ่งสุดอลังการ จากเยาวชนไทย พร้อมกิจกรรมโชว์ในรูปแบบของ Thai style ได้แก่ โขนเด็กแรพ ฝรั่งร้องเพลงไทย คีตไทยเล่นของนอก โปงลางอีสานอินดี้ และชฎาทองอมยิ้ม เป็นต้น
2.Happiness Gifts Market : พบกับ 80 ร้านค้าแนว Street Style แบ่งเป็น Fashion Market : สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าแฮนด์เมด, Online On Street : ยกสินค้าออนไลน์มาไว้บนถนน, Restaurant In trend : โดยจะยกร้านอาหารชื่อดังย่านราชประสงค์-ราชดำริไปจนถึงร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดทั่วไป, Star on Street : ตลาดนัดดาราและเซเลบชื่อดังมากมาย 3.Happiness Surprise กล่องของขวัญยักษ์ในถนนคนเดิน จำนวน 2 กล่อง โดยกล่องของขวัญจะเปิดออกได้ด้วยรอยยิ้มของคนมาร่วมงาน ที่รวมตัวกันถ่ายภาพลง Instagram คืนความสุขให้เมืองไทย และเมื่อครบ 5,000-10,000 รอยยิ้ม กล่องก็จะเปิดออก และพบกับกิจกรรมสุด Surprise ของแต่ละกล่องที่แตกต่างกันจากศิลปินที่จะมาร่วมให้ความสุข, Star Tunnel : อุโมงค์ไฟดาว LED นับหมื่นดวง Landmark Lighting : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และ
4.Happiness Activity : ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมที่คืนความสุขให้คนไทยมากมาย อาทิ Happiness Refill มองหาลูกโป่ง Happiness จากคนขายในราคา 50 บาท เพื่อร่วมบริจาคเงินให้มูลนิธิต่างๆ และรับของแถมน่ารักๆ และเป็นการรีฟิลความสุขให้ตัวเองและคนอื่นไปพร้อมๆ กัน, Connect to Happiness : ตู้ไอศครีมแจกฟรี เพียงแค่กดปุ่มที่ตู้พร้อมกับกดปุ่มที่วัว ไอศรีมก็จะออกมา แต่วัวและตู้จะถอยห่างจากกันเรื่อยๆ คนที่จะกดต่อไปต้องหาตัวช่วยมาต่อกัน สร้างความสามัคคีให้คนแปลกหน้า, กิจกรรมโชว์จากซูเปอร์ฮีโร่มาช่วยกันทำดี จากเป้าหมายปี 2558 มีรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นความท้าทายของ ททท.เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างกระแสและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวอย่างคึกคักและสดใสดังเช่นเดิม