- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Tuesday, 09 February 2016 22:17
- Hits: 3363
ผนึกกำลัง ททท.-สสว.-พช.-ธพว.-ปตท. ร่วมลงนามโครงการประชารัฐสุขใจ Shop
สนองนโยบายรัฐร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เปิดร้านประชารัฐสุขใจ Shop จำหน่ายสินค้าพื้นบ้านและเป็นศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จำนวนทั้งสิ้น 148 แห่งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ
5 หน่วยงานได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย (พช.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือ โครงการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวและจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นทั่วประเทศในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ภายใต้ชื่อ ประชารัฐสุขใจ Shop เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าพื้นบ้านและการท่องเที่ยวในท้องถิ่น กระจายรายได้ให้ชุมชนและช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “ททท. จะเป็นผู้สนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดตั้งร้านประชารัฐสุขใจ Shop ทั้ง 148 ร้านทั่วประเทศ และดูแลเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้รู้จักในวงกว้าง รวมทั้ง การสนับสนุนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว พร้อมร่วมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว อีกทั้ง มอบหมายให้สำนักงาน ททท. ในแต่ละจังหวัดประสานงานคัดเลือกสินค้าที่มีศักยภาพมาจำหน่ายในร้านด้วย
ร้านประชารัฐสุขใจ Shop ถือเป็นการตอบสนอง พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่มีการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและของที่ระลึกถึง 26% อาหารและเครื่องดื่ม 30% ส่วนการเดินทางนั้น นักท่องเที่ยว ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ถึง 70% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งร้านประชารัฐสุขใจ Shop จะสามารถบริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน”
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า “ร้านประชารัฐสุขใจ Shop จะแตกต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพราะว่าสินค้าที่วางขายจะเป็นสินค้าเด่นในแต่ละจังหวัด ซึ่งจะดึงดูดใจให้คนที่ผ่านไปมาแวะเข้าซื้อสินค้า
ในร้าน ในส่วนของ สสว. และกรมการพัฒนาชุมชน จะช่วยกันคัดเลือกสินค้าเด่นจากผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดเกรดสินค้า โดยเกรด A ถึง B จะส่งไปวางขายในร้านค้าประชารัฐได้เลย ส่วนเกรดรองลงมาต้องนำสินค้าไปปรับปรุง ซึ่งอาจจะเป็นการปรับปรุงที่ตัวสินค้า (Product Renovation) แต่หากตัวสินค้าใช้การได้แล้ว ก็จะนำไปปรับปรุงที่รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ (Repackaging) ให้มีความสวยงามและดึงดูดใจมากขึ้น ซึ่งหน้าที่นี้ก็จะมอบให้ TCDC หรือศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ ทั้งนี้ สสว.ได้รับการอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อมาดำเนินการในส่วนนี้แล้ว”
นายทวีป บุตรโพธิ์ รองอธิบดี พช. กล่าวเสริมว่า “พช. จะร่วมกับ สสว. ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นจุดขาย’ถ้าอยากได้สินค้าที่เป็นของดีจังหวัดไหน ให้เดินเข้าไปในร้านประชารัฐสุขใจ Shop ของจังหวัดนั้น’ รวมถึง ดูแลการบริหารจัดการร้านค้าให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืนด้วยการกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้แต่ละจังหวัดเลือกไว้ 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด จะเป็นผู้ประสานงานระหว่างกลุ่มผู้ผลิตและร้านฯ ซึ่งเหมาะสำหรับจังหวัดที่ไม่มีทั้งเครือข่าย OTOP และ Trader รูปแบบที่ 2 เครือข่าย OTOP ของจังหวัด จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน รูปแบบที่ 3 Trader อาชีพและ Trader ที่พัฒนาจากเครือข่าย OTOP จะทำหน้าที่จัดหา รวบรวมและจัดส่งสินค้าให้กับร้านฯ”
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า “ธนาคารพร้อมสนับสนุนเงินทุน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ในโครงการนี้อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมถึงสนับสนุนงานด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ ทั้งด้านบริหารการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านต่างๆ และจะช่วยคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย โดยธนาคารจะทำหน้าที่ตามพันธกิจของการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา หรือ SME Development Bank เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ผู้ประกอบการ SMEs ต่อไป”
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า “ปตท. ในฐานะผู้ดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ ที่มีเครือข่ายสถานีบริการทั่วประเทศ ปตท. ยินดีที่จะสนับสนุนโครงการฯ โดย ปตท. จะสนับสนุน พื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ จำนวน 148 สถานี ให้เป็นจุดตั้งโครงการเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่คิดค่าตอบแทนการใช้พื้นที่”
นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการ ในการสร้างสรรค์ สร้างพลังในการทำความดีให้ประเทศชาติ และสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน ตอบรับนโยบายประชารัฐของรัฐบาล สนับสนุนวิสัยทัศน์’มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน’ ของรัฐบาลในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ เพื่อพัฒนาทั้งด้านเสถียรภาพ ความสงบสุข เศรษฐกิจที่เข้มแข็งของประเทศอย่างยั่งยืน