- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Thursday, 22 October 2015 18:08
- Hits: 7469
ผู้ว่าททท.เผยกลยุทธ์ปลุกกำลังซื้อตลาดในประเทศ ปี 59 ชูเมืองรอง ต่อยอดเมืองต้องห้าม..พลาด เชื่อมโยงกลุ่มจังหวัด มุ่งกระจายรายได้สู่วันธรรมดา ขยายตลาดกับกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 ททท. มีกลยุทธ์หลักในการทำตลาดท่องเที่ยวในประเทศ โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับความเข้มแข็งของชุมชนและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยจะนำเสนอมิติทางการท่องเที่ยว ผ่าน 3 โครงการใหญ่แห่งปี ประกอบด้วย โครงการ'เมืองต้องต้องห้ามพลาด…PLUS'โครงการ'เขาเล่าว่า…' และ โครงการ 'Outdoor Fest' ซึ่งทุกโครงการพร้อมตอบโจทย์ 'วันธรรมดาน่าเที่ยว' นำเสนอความคุ้มค่าของการท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อกระตุ้นการเดินทางให้เกิดความสมดุลเชิงพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวทางเลือก รวมทั้งเกิดการเดินทางแลกเปลี่ยนข้ามจังหวัด และเชื่อมโยงภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ โครงการ “เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” เป็นโครงการที่ต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการเมืองต้องห้าม..พลาด ที่นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ใน 12 จังหวัด ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 12% สร้างการรับรู้ทางด้านการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เมืองรอง ส่งผลให้แต่ละจังหวัดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาทิ ลำปางและนครศรีธรรมราช ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวสูงเป็นลำดับต้น ๆ จากจังหวัดโครงการนี้ ไม่เพียงแต่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เท่านั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชน อาทิ สายการบินและการคมนาคม รวมถึงภาคบริการ ยังมีอัตราการเติบโตสูงตามไปด้วย
ดังนั้น ในปี 2559 ททท. จึงเดินหน้าสานต่อของโครงการนี้เป็นปีที่ 2 ด้วยการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในเมืองที่น่าสนใจและมีลักษณะและพื้นที่ใกล้เคียงกัน อีก 12 จังหวัด ในชื่อโครงการ“เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” ประกอบด้วย
1. ลำปาง : เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เชื่อมโยง
ลำพูน : ท่องเที่ยวเมืองเก่า กลิ่นอายของวันวาน ชมวิถีชีวิตเก่าๆ
2. น่าน : กระซิบรักเสมอดาว เชื่อมโยง
แพร่ : เที่ยวด้วยตัวเองแบบช้าๆ ดื่มด่ำรายละเอียด
3. เพชรบูรณ์ : ภูดอกไม้สายหมอกล เชื่อมโยง
พิษณุโลก : เที่ยวธรรมชาติสวยงามภูเขา ดอกไม้ สายหมอก
/4. เลย...
กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.
1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 4520-22 โทรสาร 0 2250 5681-3
www.tatnewsthai.org www.facebook.com/thaitourismnews e-mail:[email protected]
4. เลย : เย็นสุด...สุขที่เลย เชื่อมโยง
ชัยภูมิ : เที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม UNSEEN และ ADVENTURE
5. บุรีรัมย์ : เมืองปราสาทสองยุค เชื่อมโยง
สุรินทร์ : เที่ยวปราสาทหินโบราณและอารยธรรมขอม
6. ราชบุรี : ชุมชนคนอาร์ต เชื่อมโยง
สุพรรณบุรี : ศิลปะพื้นบ้าน ศิลปะสร้างขึ้นมาใหม่ และพิพิธภัณฑ์ระดับจังหวัดและชุมชน
7. สมุทรสงคราม : เมืองสายน้ำสามเวลา เชื่อมโยง
นครปฐม : ท่องเที่ยววิถีชีวิตสายน้ำ
8. จันทบุรี : สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้ เชื่อมโยง
สระแก้ว : เชื่อมการท่องเที่ยวชายแดน
9. ตราด : เมืองเกาะในฝัน เชื่อมโยง
ระยอง : ท่องเที่ยวแบบหรูหราทางทะเลและหมู่เกาะ
10. ชุมพร : หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ เชื่อมโยง
ระนอง : ท่องเที่ยวทางทะเล เกาะและสวนกาแฟ
11. ตรัง : ยุทธจักรความอร่อย เชื่อมโยง
สตูล : ท่องเที่ยวด้วยอาหารอร่อยขึ้นชื่อของพื้นถิ่น
12. นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เชื่อมโยง
พัทลุง : ท่องเที่ยวแบบธรรมะและธรรมชาติ
โครงการ “เขาเล่าว่า…” เป็นโครงการที่นำเรื่องราวพื้นบ้านหรือเรื่องเล่าในชุมชน มาสร้างเป็นจุดขาย เพื่อก่อให้เกิดเป็นคุณค่าตลอดจนมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนหรือพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยว 24 แห่งในโครงการนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีเรื่องราว เรื่องเล่า หรือตำนานความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นการสร้างการรับรู้เรื่องราววิถีไทยที่น่าสนใจ เพื่อให้ได้สัมผัสกับความเชื่อ ความศรัทธา ความสามัคคีที่ชุมชนมีต่อสถานที่ต่างๆ เป็นการตอกย้ำความหมายที่มากกว่าของการเที่ยว ที่ไม่ใช่แค่การไปพบกับความสวยงาม แต่สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจ เสริมกำลังใจให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า “แหล่งท่องเที่ยวในโครงการ “เขาเล่าว่า…” ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2559 ต่อเนื่องจากโครงการ Dream Destinations เพื่อสร้างกระแสให้คนไทยเที่ยวในประเทศ กระตุ้นให้คนอยากเดินทางท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต” โดยรูปแบบการนำเสนอในโครงการนี้จะเป็นการเก็บเกี่ยวตำนานเรื่องเล่าจากทั่วเมืองไทย มาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่
ภาคเหนือ - สะพานอธิษฐานสำเร็จ : สะพานซูตองเป้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
- ประตูรักแห่งขุนเขา : ประตูผาบ่อง ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
- เมืองที่ห้ามพูดโกหก : เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์,
- พระยาช้างชนะศึก : กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน
ภาคกลาง ...
ภาคกลาง - พระประทานพร :
ได้แก่ - หลวงพ่อสด วัดจันทรังสี อ.เมือง จ.อ่างทอง
- พระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
- พระนอน วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
- เขาหนุมานวัดใจ : เขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
- มหาเทพแห่งความสำเร็จ :
ได้แก่ - พระพิฆเนศองค์นอน วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา, - พระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
- พระพิฆเนศองค์นั่ง วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
- พระปางขอฝน
ได้แก่ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- หินชมนภา : หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
- มหายุทธแดนอีสาน : พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร
- ถ้ำพญานาค : ศาลพญานาค สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง
จ.มุกดาหาร
- วิมานเทวดา : ภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
- ผ้าผิวสวย : ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี
- แห่นาคโหด : บ้านโนนเสลา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
ภาคตะวันออก
- เกาะแห่งรัก : สะพานอัษฎางค์ และ ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด)
เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
- มหัศจรรย์ทรายดำ : ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน
อ.แหลมงอบ จ.ตราด
- ป่าสีทอง : ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
- สะดือมังกร : หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ภาคใต้ - สันหลังมังกร : หาดสันหลังมังกร อ.เมือง จ.สตูล
- พระแอด-ปวดหาย : พระกัจจายนะ(พระแอด) วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
- น้ำตาศักดิ์สิทธิ์ : เขาหงอนนาค อ.เมือง จ.กระบี่
- สะพานแห่งความสุข : สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
- อุโมงค์แสงมรกต : ลานแสงมรกต ถ้ำภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล
- ไอ้ไข่ขอได้ : ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โครงการ Outdoor Fest เป็นงานแสดงสินค้าทางด้านการท่องเที่ยวแนวใหม่ จะจัดขึ้นพร้อมกับงาน “วันธรรมดาน่าเที่ยว” โดยนำเสนอกิจกรรมทางการท่องเที่ยวกลางแจ้ง อาทิ ขี่จักรยาน ดำน้ำ /ตีกอล์ฟ ...
ตีกอล์ฟ ปีนเขา เดินป่า ดูนก เป็นต้น รวมถึงนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ มีการจัดแข่งขัน ไตรกีฬา ที่ประกอบด้วย วิ่ง พายเรือคายัค ปืนหน้าผา และกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่มีกระแสความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นตลาดน่าสนใจสอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่ชอบรวมกลุ่มทำกิจกรรม ชอบแลกเปลี่ยนความรู้ ชอบแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ รวมถึงความตื่นเต้นในการท่องเที่ยว สำหรับ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” จะจัดขึ้นในวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่าในราคาพิเศษ โดยรวมเอาผู้ประกอบการโรงแรม สปา แหล่งท่องเที่ยว ผู้ให้บริการกิจกรรมต่างๆ รถเช่า บริษัททัวร์ สินค้าและบริการต่างๆ มารวมไว้ในงานเดียว รวมกว่า 250 ราย ตั้งเป้าหมายจะสร้างเม็ดเงินสะพัดในการท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 คือ ประมาณ 120 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 260,000 คน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า 3 โครงการใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว มีเป้าหมายในการสร้างความสมดุลของการท่องเที่ยวให้เกิดความคึกคักขึ้นช่วงวันธรรมดา ซึ่งยังมีอัตราการท่องเที่ยวน้อยกว่าวันหยุด พร้อมทั้งการกระจายรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวไปยังเมืองท่องเที่ยวทางเลือกใหม่หรือเมืองรอง สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นการดึงศักยภาพของนักท่องเที่ยวสอดคล้องตามเป้าหมาย ททท. ปี 2559 ครอบคลุมทั้ง 4 ตลาด ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Y) วัยเริ่มต้นการทำงานทั้งแบบประจำและทำงานอิสระ กลุ่มผู้หญิง (Lady) กลุ่มครอบครัวที่ไม่มีบุตรนิยมเดินทางท่องเที่ยวเป็นคู่ (DINKs) และกลุ่มคุณภาพสูงและผู้สูงวัย เร่งส่งเสริมเพิ่มคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับท่องเที่ยวไทยควบคู่กันไป โดยสร้างเอกลักษณ์ทางการท่งเที่ยวให้แตกต่างจากประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เพื่อรองรับการแข่งขันในโอกาสของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ในปี 2559 ททท. ได้ตั้งเป้าหมายการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 150.8 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 4% มีรายได้ 807,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.04% ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะสร้างรายได้ 1,536,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.32%
FACTSHEET
โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวรองและกลุ่มจังหวัด ปี 2559
(12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus)
.........................................................................................................................................................................
วัตถุประสงค์
เป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่รองที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่แฝงด้วยเอกลักษณ์และมีเรื่องราวน่าสนใจ 12 จังหวัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยคาดหวังให้เกิดการกระจายตัวในเชิงพื้นที่ของการเดินทางของนักท่องเที่ยว ไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการท่องเที่ยวอยู่ในจังหวัดหลัก ปี 2559 ได้เพิ่มจังหวัด Plus อีก 12 จังหวัดที่มีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่น่าสนใจไปในแนวทางเดียวกันกับ 12 จังหวัดแรก เพื่อตอกย้ำจุดขายที่แข็งแรงอยู่แล้วหรือเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และมีเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดเมืองต้องห้าม...พลาดเดิมและจังหวัดข้างเคียงที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ด้วย
แนวคิด 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus
กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดที่เป็นเมืองเล็กๆ เมืองทางผ่าน หรือเมืองที่ถูกลืม แต่จริงๆ แล้ว เป็นเมืองที่มีเรื่องราวน่าสนใจและของดีซ่อนอยู่ รอให้ออกไปค้นหา เป็นเมืองต้องห้าม...พลาด และนำเสนอการเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้ๆ หรือเมือง Plus นั่นเอง
Concept การเชื่อมโยงกันของเมืองต่างๆ
ภาคเหนือ
ลำปาง-ลำพูน เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา
เน้นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในความเป็นเมืองเก่า มีกลิ่นอายของวันวาน ชมวิถีชีวิตเก่าๆ ชมสถาปัตยกรรมล้านนา/วัดวาอาราม อนุรักษ์วิถีชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ วัฒนธรรมโบราณอย่าง รถม้า หอนาฬิกา สะพานข้ามแม่น้ำ สถานีรถไฟ และที่สำคัญคือการเชื่อมกันด้วยรถไฟผ่านอุโมงค์ขุนตาน และเลือกชมเลือกซื้อผ้าทอพื้นเมืองเป็นของฝากกลับบ้าน
เพชรบูรณ์-พิษณุโลก ภูดอกไม้สายหมอก
เป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ปกคลุมด้วยทะเลหมอก อากาศเย็นตลอดปี อีกทั้งยังมีสีสันของทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งสองจังหวัดมีความเป็นธรรมชาติที่คล้ายกันจึงเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติสวยงาม ภูเขา ดอกไม้ สายหมอก อย่าง ภูทับเบิก เขาค้อ ไร่กะหล่ำปลี อุทยาแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเส้นทางเชื่อมโยง Route 12
น่าน-แพร่ กระซิบรักเสมอดาว
น่านเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิตและมีความโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศไทย มีเรื่องราวของความรักและความผูกพันของคู่รัก อย่างภาพกระซิบรักบันลือโลกที่วัดภูมินทร์ การถวายเทียนคู่มงคลต่อองค์พระประทานพนทวีวัดมงคล และไหว้สักการะวัดพระธาตุแช่แห้ง ต่อด้วยการไปไหว้สักการะวัดพระธาตุช่อแฮที่แพร่ ถือเป็นเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบช้าๆ ดื่มด่ำกับรายละเอียด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์-สุรินทร์ เมืองปราสาทสองยุค
สองจังหวัดนี้มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยปราสาทหินโบราณและอารยธรรมขอม มีแหล่งปราสาทหินโบราณที่สำคัญที่สุดในเมืองไทย เช่น ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำที่บุรีรัมย์ และปราสาทศีขรภูมิ ปราสาทตาเหมือนที่สุรินทร์ และในปัจจุบันปราสาทยุคใหม่คือปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ ไอ-โมบาย สเตเดียม หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม รวมถึงสนามแข่งรถ Buriram United International Circuit ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย
เลย-ชัยภูมิ เย็นสุด...สุขที่เลย
เชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติที่สวยงาม UNSEEN และ Adventure เลยมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ภูหลวง ภูเรือ ภูลมโล ภูสวนทราย ภูป่าเปาะ และล่องแพชมวิวระหว่างรับประทานอาหารที่ห้วยกระทิง ส่วนชัยภูมิก็ต้องไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรทอง (ผาหำหด) ภูแลนคา ตาดโตน ป่าหินงาม มอหินขาวและทุ่งดอกกระเจียวที่เป็น Highlight หลักของจังหวัดที่พลาดไม่ได้
ภาคกลาง
สมุทรสงคราม-นครปฐม เมืองสายน้ำสามเวลา
เมืองเก่าริมน้ำกับวิถีชีวิตประจำวันริมแม่น้ำ ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดดอนหวาย ตลาดทุ่งคา ตลาดร่มหุบ สายน้ำแม่กลอง สายน้ำนครชัยศรี มีจุดขายเป็นสายน้ำ 3 เวลา เชื่อมโยงการท่องเที่ยววิถีชีวิตสายน้ำ เช้าตักบาตรทางน้ำ กลางวันเที่ยวชมตลาดน้ำและตลาดบก เย็นนั่งเรือดูหิ่งห้อย ขี่จักรยานริมแม่น้ำลัดเลาะริมสวน เยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน เลือกชิมเลือกซื้อของได้ตลอดแนวริมน้ำ เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวแล้วกลับไปด้วยความประทับใจ
ราชบุรี-สุพรรณบุรี ชุมชนคนอาร์ต
เมืองที่รวบรวมงานศิลปะไว้มากมาย มีจุดขายเป็นการนำศิลปะต่างๆ มาดึงดูดนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงด้วยศิลปะพื้นบ้าน ศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นใหม่และพิพิธภัณฑ์ระดับจังหวัดและชุมชนทั้งตลาดน้ำดำเนินสะดวก โรงโอ่ง พิพิธภัณฑ์จิปาถะพัน วัดขนอน จ. ราชบุรี ตลาดสามชุก (ตลาด 100 ปี) ตลาดเก้าห้อง อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร วัดป่าเลไลยก์ จ. สุพรรณบุรี
ภาคตะวันออก
ตราด-ระยอง เมืองเกาะในฝัน
หมู่เกาะภาคตะวันออกมีความงดงามไม่แพ้ทะเลอื่นในประเทศไทย เป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมสำหรับนักเดินทาง หาดทรายขาว แหล่งดำน้ำดูปะการังใต้ท้องทะเลที่สวยงาม ที่สำคัญมีที่พักระดับ Luxury สุดหรู สุดชิคคอยให้บริการอยู่จำนวนมาก หมู่เกาะทะเลตราด 52 เกาะ มีกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง ดูเหยี่ยวแดงคอขาว ล่องเรือชุมชนบ้านสลักคอก จ.ตราด เกาะเสม็ด เกาะมันนอก เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง เป็นต้น
จันทบุรี-สระแก้ว สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้
เมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ตลอดทั้งปี และมีการนำผลไม้มาประกอบอาหารที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็น Original ของท้องถิ่น เช่น มัสมั่นทุเรียน น้ำพริกระกำ แต่นอกจากความสมบูรณ์ของผลไม้ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชายแดนก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของทั้งสองเมือง เส้นทางอุทยานแห่งชาติป่าเขาสอยดาว โป่งน้ำร้อน ต่อด้วยอุทยานแห่งชาติปางสีดา ละลุ ปราสาทสด๊กก๊อกธม ตลาดการค้าชายแดน (ตลาดโรงเกลือ+ศูนย์การค้าอินโดจีน) ที่ห้ามพลาด
ภาคใต้
ตรัง-สตูล ยุทธจักรความอร่อย
ตรังเป็นเมืองที่รวบรวมอาหารอร่อยมากมาย ทั้งอาหารไทย จีน ติ่มซำ หมูย่าง เค้ก ขนมเปี๊ยะ อาหารใต้พื้นเมือง โรตี ชากาแฟ สามารถกินได้ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน ส่วนสตูลก็มีความหลากหลายของอาหาร เช่น โรตี มะตะบะ ชาชัก แกงตอแมะห์ (แกงกะหรี่ปลา) แกงแพะ-ข้าวเหนียว ขนมบุหงาปุดะ ขนมลูกโดน เชื่อมโยงด้วยอาหารอร่อยขึ้นชื่อของพื้นถิ่น อาหารทะเลสดๆ
ชุมพร-ระนอง หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้
ชุมพรจังหวัดที่มีทะเลที่สวยงามของฝั่งอ่าวไทย มีหาดทรายยาวต่อเนื่อง ถึง 222 กิโลเมตร (1 ลี้ เท่ากับ 0.5 กิโลเมตร) มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย คือหาดวัวแล่น หาดทุ่งซาง หาดทรายรี ยาวจนถึงหาดอรุโณทัย รวมถึงเกาะกุลา เกาะง่าม เกาะรังกาจิว จังหวัดที่เชื่อมโยงกับชุมพรคือจังหวัดระนอง มีเกาะที่สวยงามอย่างเกาะพยาม เกาะช้าง รอยต่อของสองจังหวัดที่กระบุรีและเขาทะลุมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้วยสวนกาแฟ แหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชมสวนกาแฟ วิถีการผลิตกาแฟ และนั่งจิบกาแฟหอมกรุ่นขึ้นชื่อของเมืองชุมพร
นครศรีธรรมราช-พัทลุง นครสองธรรม
นครศรีธรรมราชและพัทลุงเป็นจังหวัดที่โดดเด่นทั้งเรื่องทางธรรมะและธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองกระจายอยู่ทุกอำเภอ สิ่งที่เป็น Highlight สิ่งแรกคือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ. นครศรีธรรมราช กับประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ และวัดเขียนบางแก้ว จ. พัทลุงก็มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเช่นเดียวกัน ด้านธรรมชาติทั้งสองจังหวัดมีความหลากหลาย เช่น อุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกกรุงชิง หมู่บ้านคีรีวง อ.ขนอม จ. นครศรีธรรมราช ส่วน จ. พัทลุง มี การล่องเรือชมนกน้ำ ควายน้ำ ที่ทะเลน้อย และวิถีชีวิตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างยิ่ง
กลุ่มเป้าหมายหลัก
นักท่องเที่ยวในประเทศ กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มคนผู้สูงอายุ กลุ่ม Expat และ กลุ่ม Gen Y
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เกิดการกระจายตัวของการท่องเที่ยวสู่พื้นที่จังหวัดรองที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้
2. เกิดการกระจายรายได้และการหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดรองมากยิ่งขึ้น
แนวคิด
“เขาเล่าว่า” ท่องเที่ยววิถีไทย... ผ่านวิถีแห่งเรื่องเล่า
จากวิถีชีวิตของชาวบ้านในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศไทย ที่มีการทำมาหากิน พักผ่อนบันเทิง ความเชื่อ และ ศาสนา บวกกับความเจ้าบทเจ้ากลอนของคนไทย จนเกิดเป็นบทร้องรำ ศิลปะ นิทาน นิยาย คำบอกเล่า หรือ ตำนานต่างๆที่สืบสานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ในปี 2559 นี้ จะเป็นการเปิดเป็นประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ให้กับการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากออกไปค้นหาเรื่องราวที่มาจากเรื่องเล่า ในโครงการ “เขาเล่าว่า” ที่ถือได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการท่องเที่ยวในเชิงลึกมากขึ้นเป็น “กลยุทธ์ท่องเที่ยวแบบสี่มิติ” คือ
1. AWARENESS “รับรู้” เรื่องราววิถีและความเชื่อแบบไทยๆที่น่าสนใจจากพื้นที่ต่างๆ
2. EXPERIENCE “เข้าไปเห็น” กระตุ้นให้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเรื่องราวต่างๆทั่วเมืองไทย
3. ENGAGEMENT “มีส่วนร่วม” ได้ลงไปสัมผัสกับธรรมชาติและชุมชน
4. VALUE “เข้าถึง” เรื่องราวความเป็นมา ความเชื่อ ตลอดจนคุณค่าต่างๆของพื้นที่
โดยแนวคิดหลักของโครงการเขาเล่าว่า คือความเชื่อที่ว่า..เบื้องหลังทุกๆที่ในเมืองไทยนั้นก็เต็มไปด้วย.. เรื่องราวเรื่องเล่า ของพื้นบ้าน บ้างก็เป็นคล้ายตำนานจากเมืองเก่า... บ้างก็เป็นเรื่องเล่าของคนในท้องถิ่น... บ้างให้คุณประโยชน์ ในแก่ผู้ไปสัมผัส.... บ้างเป็นมงคลแก่ผู้ที่ได้ไปกราบไหว้... บ้างคล้ายความเชื่อที่ท้าทาย เร้นลับ...
ททท. จึงขอเชิญคนไทยออกไป รับรู้ สัมผัส มีส่วนร่วม และ เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ที่นอกจากจะมีความสวยงาม หรือมีความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราว “เขาเล่าว่า”
….. ที่ไม่ได้เล่าเพียงให้เราแค่เชื่อ….แต่เล่าให้เราออกไปเห็น
“เขาเล่าว่า” ภาคเหนือ
“สะพานอธิษฐานสำเร็จ” สะพานซูตองเป้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
เขาเล่าว่า
…ก่อนจะทำการใหญ่ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จใดๆ ให้ถามใจตัวเองก่อนว่ามีแรงศรัทธามากพอหรือเปล่า?
ด้วยพลังแห่งศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านที่ก่อประสานกันเป็นสะพานที่มีความงดงาม จนกลายเป็นความเชื่อที่ว่า...ใครที่มาที่นี่ให้เดินข้ามผ่านสะพานอธิษฐานสำเร็จ แล้วไปอธิษฐาน ณ วัดที่ปลายสะพาน...ความสำเร็จในสิ่งที่หวัง ก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ประตูรักแห่งขุนเขา” ประตูผาบ่อง ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
เขาเล่าว่า
...รักแท้คือการเดินทางที่ต้องไปค้นพบ ที่หินผาแข็งแกร่งที่นิ่งสงบนับล้านปีถือเป็นแหล่งสะสมพลังงานของโลกใบนี้ จะมีประตูรักแห่งขุนเขา...ที่เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา
“เมืองที่ห้ามพูดโกหก” เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
เขาเล่าว่า
...จากตำนานที่เล่าต่อๆ กันมา มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง ที่คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึง เมืองนี้เป็นเมืองของคนดี ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดไร้ซึ่งสัจจะวาจา ต้องถูกออกจากเมืองไปทันที
“พระยาช้างชนะศึก” กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน
เขาเล่าว่า
...“ภู่ก่ำงาเขียว” เป็นช้างคู่บารมีของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย เป็นพระยาช้างที่มีฤทธิ์มาก เมื่อออกศึกสงครามเพียงแค่ช้างหันหน้าไปทางศัตรูก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ ว่ากันว่า...ครั้งหนึ่งในชีวิต หากมีโอกาสได้ลอดท้องพระยาช้างชนะศึกงาเขียว เท่ากับได้รับพรแห่งชัยชนะให้สมหวังในทุกสนามแข่งขัน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และการดำเนินชีวิต
“เขาเล่าว่า” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“หินชมนภา” หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
เขาเล่าว่า
…ณ หาดหินรูปทรงประหลาดอันกว้างใหญ่ ในฤดูน้ำโขงลด จะมีหินกลางน้ำผุดขึ้นมาให้เราได้เห็น ชาวบ้านเชื่อกันว่าให้หาหินนี้ให้เจอ เพราะเป็นจุดชมท้องฟ้าที่ส่องแสงและสีสันได้สวยที่สุด ทั้งแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ และทะเลดวงดาว สวยระยิบระยับเต็มท้องฟ้าในยามคืนข้างแรม
...ท้องฟ้าที่สวยและงดงามดั่งฝัน ใครได้มาเซล์ฟฟี่ตรงนี้ก็จะทำให้เราได้สัมผัสกับชีวิตที่สวยงามดั่งฝัน และอย่าลืมแชร์ความสวยงามนี้ไปให้คนอื่นๆได้เห็นกันด้วย
“มหายุทธแดนอีสาน” พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร
เขาเล่าว่า
...กาลครั้งหนึ่งที่อีสานแล้ง เพราะฝนไม่ตกต่อเนื่องกันถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน !!! จนทำให้พญามหายุทธแดนอีสานอาสานำสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง, ม้า, วัว, ควาย, ปลวก, ผึ้ง และต่อแตน ขึ้นไปรบพญาแถนจนชนะ ฝนจึงตกมาตามเดิม โดยมีข้อแม้ว่า ต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบอกกล่าวทุกปี ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องราวที่มาของประเพณีบั้งไฟและแลนด์มาร์คพญามหายุทธแดนอีสานแห่งใหม่ ของเมืองไทย...ที่ใครเห็นต้องตะลึง
“ถ้ำพญานาค” ศาลพญานาค ใต้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง จ.มุกดาหาร
เขาเล่าว่า
…จากความเชื่อทางพุทธศาสนาและศรัทธาของชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงที่มีต่อพญานาค เชื่อกันว่า ณ เสาต้นที่2 ของสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงเป็น “ถ้ำพญานาค” ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นจุดที่ท่านจะ ขึ้นมาเพื่อให้พรและปกปักรักษาลูกหลาน ใครที่ได้มาสักการะให้ขอพรพญานาค ณ ถ้ำพญานาค ขอโชคลาภ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตมักสำเร็จผล
“วิมานเทวดา” ภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
เขาเล่าว่า
...เส้นทางสู่โลกแห่งการหลุดพ้นนั้นคือ ความเพียรพยายาม ที่นี่คือแดนสวรรค์บนดินที่ทุกคนสามารถไปสัมผัสปรัชญาทางธรรม โดยใช้ความเพียรและครองสติขึ้นจากชั้นที่ 1 จนถึงชั้นที่ 7 เชื่อกันว่าเป็นเสมือนวิมานของเทวดาแห่งป่าหิมพานต์ ใครที่มีโอกาสได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนยอดของภูสวรรค์ 7 ชั้น จะถือว่าเป็นมหาบารมี
“ผ้าผิวสวย” ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี
เขาเล่าว่า
… “ผ้า” สามารถช่วยบำรุงผิวของเราให้สวยได้จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นำพืชโบราณที่เป็นที่เลื่องลือในสรรพคุณด้านสุขภาพมาย้อมสีผ้าแบบไร้สารเคมี ที่ทำให้เมื่อใส่จะรู้สึกเย็นสบาย ไม่ร้อน และถูกวิจัยมาแล้วโดยประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาว่า สามารถป้องกันรังสียูวีได้ แพทย์พื้นบ้านโบราณยังเชื่อว่า กลิ่นหอมของผ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังสามารถนำไปนึ่งเพื่อประคบบาดแผลลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
“แห่นาคโหด” แห่นาคโหด บ้านโนนเสลา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
เขาเล่าว่า
..พิธีแห่นาคที่นี่...แปลก...ประหลาด...และโหดที่สุดในโลก!! บททดสอบความอดทนอดกลั้นของลูกผู้ชาย เพื่อทดแทนพระคุณของ “แม่” ที่ต้องอดทนอดกลั้นกับความเจ็บปวดเมื่อตอนคลอดลูกออกมา และต้องอดทนกับความทรมานในการ “อยู่ไฟ” บนแคร่ไม้ไผ่ ฉะนั้นนาคที่นี่จะสามารถบวชได้ ต้องอดทนกับความเจ็บปวดและครองตัวให้มั่นบนแคร่ไม้ไผ่ที่ถูกเซิ้ง ถูกโยนอย่างรุนแรง และถูกหามแห่ไปรอบๆหมู่บ้าน
“เขาเล่าว่า” ภาคกลาง
“พระประทานพร”
หลวงพ่อสด (พระสงฆ์องค์ใหญ่) วัดจันทรังษี อ.เมือง จ.อ่างทอง
หลวงพ่อใหญ่ (พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
พระนอน (พระนอนองค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย) วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
เขาเล่าว่า
…ที่นี่มีพระที่จะประทานพร 3 ข้อ ให้กับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวสามารถไปกราบไหว้และสัมผัสได้ครบทั้ง 3 ที่ 3 องค์
องค์ที่หนึ่ง ให้ไปสัมผัสลูกแก้วที่ฐานพระ ท่านจะประทานพรให้สุขภาพสดใสแข็งแรง
องค์ที่สอง ให้ไปสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์พระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ ท่านจะประทานพรให้ตำแหน่งหน้าที่การงาน กิจการเจริญรุ่งเรือง เป็นใหญ่เป็นโต
องค์ที่สาม ให้ไปสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้มีอายุยืนยาว
“เขาหนุมานวัดใจ” เขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
เขาเล่าว่า
….ระยะทางกับความยากลำบาก พิสูจน์มิตรภาพและรักแท้ เสริมพลังรัก กับลพบุรีเมืองลิง
หากได้พาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักแท้ โดยการพิชิตยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองหนุมาน ด้วยการเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้นไปด้วยกัน พร้อมสักการะรอยพระพุทธบาทและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาแห่งนี้ เราจะรู้เลยว่าเขาคือ “รักแท้” ของเราอย่างแน่นอน หรือผู้ที่เกิดปีนักษัตรปีวอก (ปีลิง) ไปกราบไหว้ขอพรเสริมพลัง เป็นสิริมงคลแห่งปีกับเจ้าพ่อพระกาฬ (ศาลพระกาฬ อ.เมือง จ.ลพบุรี)
“มหาเทพแห่งความสำเร็จ”
พระพิฆเนศองค์นอน วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
พระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
พระพิฆเนศองค์นั่ง วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
เขาเล่าว่า
…พระศิวะเคยกล่าวไว้ว่า การบูชาเหล่ามหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ใดต้องการความสำเร็จ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ให้บูชา “มหาเทพ” เทพแห่งปัญญาและศิลปะองค์นี้ก่อนทุกครั้ง และตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า ถ้าอยากขอพรท่านให้สมหวังเร็วขึ้น หลังขอพรจากองค์เทพ “พระพิฆเนศ” แล้ว อย่าลืมไปกระซิบขอพรที่หูหนู บริวารของเทพ หนูบริวารนี้จะนำความไปเตือนท่านให้ประทานสิ่งที่ต้องการกลับมา โดยมีเคล็ดลับว่าจะต้องเอามืออีกข้างปิดที่หูหนู
ฉะเชิงเทรา…เป็นเมืองแห่งมหาเทพ “พระพิฆเนศ” ทั้งปางนอน-ปางนั่ง-ปางยืน ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ครั้งหนึ่งในชีวิตอย่าลืมไปสักการะให้ครบทุกที่ เพื่อเสริมสิริมงคลครั้งยิ่งใหญแก่ชีวิต
“พระปางขอฝน” พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
เขาเล่าว่า
…ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมาก แต่ด้วยพระพุทธบารมี...ได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ และที่อำเภอห้วยกระเจา คืออีสานจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของพระปางขอฝน ที่สุดแห่งความศรัทธากับประติมากรรมทางพุทธศิลป์ ...พระพุทธรูปสำริดปางขอฝนที่สูงที่สุดในประเทศไทยและงดงามว่ากันว่า หากได้มากราบไหว้ ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน
เขาเล่าว่า ภาคตะวันออก
“เกาะแห่งรัก” สะพานอัษฎางค์ และ ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด) เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
เขาเล่าว่า
…ที่ใดมีรักของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่นย่อมอบอวลไปด้วยพลังแห่งรัก ณ เกาะแห่งนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวของ ความรัก ว่ากันว่า...ใครที่อยากเติมความหวานให้ชีวิต ยามเช้าให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งรักกับแสงแรกของวัน ณ ปลายสะพานแห่งรัก และยามพระอาทิตย์ตกให้ไปอธิษฐานขอพรกลางช่องเขา
“มหัศจรรย์ทรายดำ” ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน อ.แหลมงอบ จ.ตราด
เขาเล่าว่า
...ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ก่อเกิดเป็นเม็ดทรายสีดำสนิท เชื่อกันว่า มีสรรพคุณของแร่ธาตุธรรมชาติที่สามารถทำให้ผ่อนคลายสุขภาพได้ เพียงแค่ได้นอนหมกตัวอยู่ใต้ผืนทรายดำ ก็จะทำให้รู้สึกถึงพลังบำบัดเหมือนได้ทำสปาธรรมชาติ
“ป่าสีทอง” ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
เขาเล่าว่า
...แหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ จะมีพลังที่สุดแสนบริสุทธิ์ปกคลุมอยู่ เมื่อก้าวเข้าไปจะพบกับ ๑ กิโลเมตร ความสุขบนสะพานไม้ทอดยาวกลางป่าอันสมบูรณ์ และมีความงดงาม ๓ เวลา ๓ อารมณ์...สบายๆ แสงสีทองกว้างไกลสุดสายตา ยามเช้าสว่างไสวเหลืองทองอร่าม ดุจจิตรกรนำสีทองมาแต่งแต้มธรรมชาติให้ตระการตา ยามบ่ายป่าสีทองสงบเงียบมีความสุข ในยามเย็นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกับมวลความบริสุทธิ์ของพลังงานธรรมชาติป่าชายเลน ที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จำนวนป่าสีทองมหาศาล ที่จะช่วยเติมเต็มพลังกับร่างกาย จิตใจ และความคิด
“สะดือมังกร” หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เขาเล่าว่า
…ผืนทะเลใดที่มีสะดือมังกร ทะเลตรงนั้นจะเป็นเหมือนศูนย์รวมแห่งพลังจักรวาล เป็นจุดที่ครบธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ชาวบ้านที่นี่เขาเชื่อกันว่า ใครได้ไปยืนแช่ ณ ทะเลนั้น จะได้รับพลังชีวิตใหม่ที่ดีเข้ามา โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบ เชื่อว่าจะยิ่งส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน
เขาเล่าว่า ภาคใต้
“สันหลังมังกร” หาดสันหลังมังกร จ.สตูล
เขาเล่าว่า
...ที่เมืองพระสมุทรเทวาอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อน้ำลดเราจะได้เห็นแนวสันทรายคล้ายมังกรโผล่พ้นน้ำทะเล ราวกับมังกรกำลังพลิ้วกายแหวกว่ายอยู่กลางทะเล เมื่อได้เห็น...ให้ไปยืนอยู่บนสันทรายเกล็ดมังกรนี้ แล้วรับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล จะช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้กับทุกร่างกายและจิตใจ ที่อ่อนล้าให้กลับมาเข้มแข็งพร้อมสู้ต่อไป
“พระแอด-ปวดหาย” พระกัจจายนะ (พระแอด) พระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เขาเล่าว่า
...ที่วัดพระมหาธาตุเมืองนครศรี มีพระศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ที่เชื่อกันว่า ท่านมีอภินิหารบันดาลลูกให้แก่ผู้ที่ไปขอ
ที่ไม่เหมือนใคร ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง นำไม้ไปค้ำยันที่ด้านหลังองค์พระ อาการปวดก็จะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
“น้ำตาศักดิ์สิทธิ์” เขาหงอนนาค อ.เมือง จ.กระบี่
เขาเล่าว่า
… ณ ดินแดนอันชวนฝันของนักเดินทางที่ถูกโอบล้อมด้วยวิวพาโนรามาอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นจุดจบเรื่องราวความรักของพญานาคจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา เกิดเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ที่มีน้ำใสไหลตลอดปี ชาวบ้านเชื่อว่า เมื่อได้อธิษฐานขอพรพร้อมทั้งนำน้ำมาลูบหน้า จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอ และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
“สะพานแห่งความสุข” สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
เขาเล่าว่า
…บนสะพานที่ถูกขนาบข้างไปด้วยทะเลสาบและเชื่อมระหว่างสองจังหวัด ที่นี่....เป็นสะพานที่เต็มไปด้วยพลัง แห่งความสุข เพราะสองข้างทางคือภาพอันงดงามของวิถีธรรมชาติอันสมบูรณ์และเรียบง่าย...วิวสวยๆ ของทะเลสาบสุดลูกหูลูกตา...วิถีชีวิตควายน้ำ...และนกนานาพันธุ์ แค่ได้ไปเห็นและได้สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดจะช่วยฟอกความรู้สึกเหนื่อยล้าให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความสุข
“อุโมงค์แสงมรกต” ลานแสงมรกต ถ้ำภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล
เขาเล่าว่า
….ชีวิตคนเราขอเพียงแห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ มันก็เกิดพลังที่จะเดินก้าวต่อไปในชีวิต ในความมืดของถ้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แต่มีอยู่โถงหนึ่ง ถ้าไปในเวลาที่แสงจากภายนอกทำมุมเข้ามา จะเกิดเป็นถ้ำแสงมรกตให้เห็น เชื่อกันว่า นี่คือแสงปลายอุโมงค์ที่เล่าขานกันมา ใครได้มาเห็นสักครั้ง ...ก็จะเกิดพลังชีวิต
“ไอ้ไข่ขอได้” ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
เขาเล่าว่า
...“วิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์” เมื่อเกือบ ๒oo ปี เชื่อกันว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย ที่นี่ไม่มีการโฆษณาใดๆ แต่ทุกคนที่มาเพราะความเลื่อมใสอย่างแท้จริง ทุกวันผู้คนต่างหลั่งไหลไปขอพรไม่ขาดสาย จะเห็นได้ว่าในวัดเต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาเอามาแก้บน (รูปปั้นไก่ชน ของเล่นเด็ก และการจุดประทัด) บ่งบอกถึงแรงศรัทธาที่มีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ที่มาขอแล้วได้รับ