- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Monday, 23 August 2021 21:50
- Hits: 13158
สวทช. จับมือ สบส. และพันธมิตร ร่วมพัฒนา Wellness Hub ประเทศไทย รองรับการท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพในยุคโควิด-19
สวทช. ลงนามความร่วมมือกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และเครือข่ายพันธมิตร ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สมาคมการส่งเสริมสุขภาพไทย สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย และสมาคมการผังเมืองไทย ร่วมพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบริการเพื่อสุขภาพ Wellness Hub โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมความพร้อมตามแผนเปิดประเทศหลังการระบาดโควิด-19 และรองรับการท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพในอนาคต
ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ดร.ฐิตาภา สมิตินนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นผู้แทน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ‘การพัฒนาและส่งเสริม Wellness Hub ของประเทศไทย’ ร่วมกับทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผศ.นิวัติ แก้วประดับอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมส่งเสริมสุขภาพไทย นายสมพงศ์ ดาวพิเศษ นายกสมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย และนายฐาปนา บุณยประวิตร เลขานุการคณะกรรมการกฏบัตรไทยและนายกสมาคมการผังเมืองไทย โดยพิธีลงนามจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting
ดร.ฐิตาภา สมิตินนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริม Wellness Hub ของประเทศไทยครั้งนี้ ทุกฝ่ายมีภารกิจที่จะดำเนินการร่วมกันคือการเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่เดิมมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังวิกฤตโควิด-19 สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ สวทช.พร้อมที่จะนำองค์ความรู้และผลงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของการบริการส่งเสริมสุขภาพที่พัฒนา
โดยคนไทย เช่น อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อุปกรณ์เพื่อการฟื้นฟูร่างกาย เป็นต้น ซึ่งหลายรายการถูกจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ Class 1 โดย สวทช.จะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพองค์ประกอบและระบบนิเวศน์ธุรกิจในการยกระดับมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม บริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อความปลอดภัยและมีคุณภาพที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมนี้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไปสู่ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ หรือ Wellness Hub ต่อไป
ดร.ฐิตาภา ยังกล่าวในการเสวนาถึงบทบาทของ สวทช. ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ว่า ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ปีทีแล้ว สวทช.ได้เร่งวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่จะสามารถนำไปช่วยสังคมให้มากที่สุด โดยมีผลงานนวัตกรรมที่สำเร็จและส่งมอบนำไปใช้งานจริงแล้วจำนวนมาก โดยยกตัวอย่างผลงาน เช่น การร่วมกับกรมควบคุมโรคพัฒนา DDC Care แอปพลิเคชั่นประเมินและติดตามผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 , การพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ทางไกล AMED Telehealth ที่ถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง และปัจจุบันถูกนำไปใช้ร่วมกับการกักตัวที่บ้านหรือ Home Isolation ของผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว , การพัฒนาเปลความดันลบสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในชื่อ PETE เปลปกป้อง รวมไปถึงการพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ในรูปแบบต่าง ๆ และวัคซีนแบบพ่นจมูกที่นักวิจัยอยู่ระหว่างการทดลองและพัฒนา
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ