- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Thursday, 30 October 2014 21:21
- Hits: 3075
สั่งทบทวนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เร่งสร้างภาพพจน์'เมืองปลอดภัย'
ไทยโพสต์ : เพชรบุรีตัดใหม่ * 'กอบกาญจน์'เดินหน้ากลยุทธ์ 8 คลัสเตอร์ปีหน้า พร้อมเร่งสร้างภาพพจน์เมืองไทยที่ถูกต้องต่อต่างชาติ เล็งดึงสตอรี่แหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน ยันกระทรวงท่องเที่ยวฯ ทำงานแบบไร้เงาปัญหาขั้วการเมือง
นางกอบกาญจน์ วัฒน วรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและ กีฬา เปิดเผยภายหลังมอบนโย บายให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า ยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินให้กับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย จะต้องกลับมามองที่กลยุทธ์ทั้ง 8 คลัสเตอร์เสียใหม่ว่า มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้าง โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 คงเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของแผนดังกล่าว เพื่อนำมาปรับปรุงในการพัฒนาการท่องเที่ยว พร้อมทั้งต้องคำนึงถึงการปรับให้ตอบโจทย์มากที่สุด เพื่อให้ภาพรวมรายได้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นไปตามที่ทางรัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังจะต้องเน้นการทำงานร่วมกันของทั้งจากทางภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเฉพาะการดึงคนรุ่น ใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา รวมถึงยังต้องลดการเหลื่อมล้ำของการท่องเที่ยว เน้นหาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และจับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ประกอบกับการพัฒนาและบูรณะสถานที่ท่องเที่ยวไปขณะ เดียวกันด้วย ต้องมีการจัดระเบียบ ทางบก ทางเรือ และเรื่องของความปลอดภัยของการท่องเที่ยว โดยปัญหาเร่งด่วนที่ต้อง เร่งดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ คือการสร้างภาพพจน์ที่ถูกต้องของประเทศไทยในมุมมองของต่างชาติ ซึ่งในตอนนี้ยังถูกมองว่าเป็นเมืองของอบายมุข และไม่ปลอดภัย
นางกอบกาญจน์ยังกล่าวว่า ทางกระทรวงยังมีความต้องการที่จะกระจายรายได้ของภาคการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ของเมืองไทยให้มากขึ้น โดย 'โครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด'ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้การกระจายของรายได้เกิดขึ้น ลดการเหลื่อมล้ำที่มีในสังคมไทย
ทั้งนี้ ล่าสุดจะเดินทางไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อร่วมมหกรรมโปงลางแพรวาและงานกาชาด มองว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือนับเป็นอีกหนึ่งแห่งของประเทศไทยที่น่าท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีธรรมชาติ ป่าไม้ โบราณวัตถุ หรือมีเรื่องราวในตัวเองเป็นเดิมอยู่แล้ว หน้าที่ของกระทรวงคงจะต้องไปสร้างคอนเทนต์ให้กับจังหวัดต่างๆ เพื่อดึงความน่าสนใจออกมาให้ได้ เพราะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมีขึ้น ภาคอีสานนับว่าเป็นเกตเวย์ประตูสู่อินโดไชน่า ซึ่งก็จะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ลาว พม่า หรือที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง มีการใช้เส้นทางกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จ ก็จะเป็นตัวช่วยในการกระจายรายได้สู่ชุมชนทางหนึ่งด้วย
นางกอบกาญจน์กล่าวว่า การทำงานภายในกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่ผ่านมา หลายฝ่ายอาจมองว่ามีปัญหาเกี่ยวกับขั้วการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การบริหารอาจเกิดปัญหาการติดขัด ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทุกฝ่ายหรือกรมต่างๆ ก็ค่อนข้างดำเนินงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่อาจจะยังมีการสื่อสารในองค์กรที่ค่อนข้างน้อยหรือผิดพลาดกันอยู่บ้าง ส่งผลให้ข้อมูลบางอย่างคลาดเคลื่อน
"มองว่า การทำงานในระบบราชการอาจมีปัญหาเรื่องของกระบวนการหรือขั้นตอนที่ล่าช้าอยู่บ้าง แต่เราก็คงต้องเป็นตัวเร่งและกระตุ้น เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ต้องทำงานอย่างเอกชนและเป็นมืออาชีพ มองหาว่าปัญหาเกิดขึ้นที่จุดใดแล้วหาเหตุผลให้ได้มากกว่าที่จะคิดว่าใครมาจากการเมืองฝ่ายไหน" นางกอบกาญจน์ กล่าว.