- Details
-
Category: ท่องเที่ยว
-
Published: Sunday, 26 October 2014 19:04
-
Hits: 3266
ทีเส็บหนุนแฟร์ไทย-เมียนมาร์ มิติใหม่ขยายโอกาสค้าชายแดน
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เร่งอัดฉีดยกระดับงานแสดงสินค้าในประเทศตามกลยุทธ์ 'สร้าง-กระจาย-ยกระดับ'พร้อมทั้งร่วมผลักดัน'งานแสดงสินค้าส่งเสริมการค้าชายแดนและข้ามแดนไทย-เมียนมาร์'หรือ Thai - Myanmar Trade Fair 2014 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยความร่วมมือของหอการค้าจังหวัดตาก หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับ Union of Myanmar Federation of Chambers of Commerce and Industry หรือ สมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมาร์ ตลอดจนหอการค้าจังหวัดเมียวดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ศูนย์กลางแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (ศูนย์ OTOP) อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
นายภูริพันธ์ บุนนาค ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมตลาดในประเทศ ทีเส็บ ซึ่งนำคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมชมงาน รวมถึงทำการสำรวจสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ ตามโครงการ “ส่งเสริมและยกระดับงานแสดงสินค้าในประเทศ: Domestic Exhibition” เปิดเผยว่า “งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้เป็นการผสานพลังภาครัฐและเอกชนทั้งสองประเทศ ที่เตรียมขยายผลไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุน ตามแผนเศรษฐกิจของชาติในการพัฒนาการค้าชายแดนเพื่อรองรับโอกาสที่มากับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจาก สมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมาร์ ตลอดจนหอการค้าเมียวดีนำผู้ประกอบการธุรกิจจำนวนกว่า 200คน มาพบปะเจรจาการค้า การลงทุน กับผู้ประกอบการไทย โดยมีผู้เข้าชมงานทั้งไทย-เมียนมาร์ไม่น้อยกว่า 20,000 คนเลยทีเดียว ซึ่งงานนี้จะมีการสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดงานในอนาคต”
สำหรับ'งานแสดงสินค้าส่งเสริมการค้าชายแดนและข้ามแดนไทย-เมียนมาร์' หรือ Thai - Myanmar Trade Fair 2014 เป็นงานที่ 'สร้าง' หรือ Invent ขึ้นเป็นครั้งแรก และสามารถรวบรวมผู้ประกอบการธุรกิจชั้นนำของไทยและเมียนมาร์ รวมทั้งสิ้น 77 บริษัท มาจัดแสดงสินค้า ตลอดจนร่วมการประชุม สัมมนา และการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสุขภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจบริการด้านการเงิน ประกันภัย และโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง Trading company โดยมีบริษัทไทยเข้าร่วมรวม 54บริษัท และบริษัทจากเมียนม่าร์ จำนวน 23 บริษัท ทั้งนี้ผู้ประกอบการต่างได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์บริษัทและสินค้า เกิดการลงทุน ขยายตลาดสินค้า ตลอดจนได้ยอดขายและได้รับออเดอร์ โดยในครั้งนี้สามารถนำไปสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจและการค้าในอนาคตระหว่าง 6 เดือน – 1 ปี เป็นมูลค่าจำนวนกว่า7,200,000 บาท ขึ้นไป
นายภูริพันธ์ กล่าวว่า “ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างรายได้จากภาคธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย และส่วนการแสดงสินค้าในประเทศ หรือDomestic Exhibition ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของทีเส็บ มีมูลค่าตลาดประมาณ 6 พันล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทีเส็บได้มีการเตรียมพร้อมและให้ความสนับสนุนองค์กรและผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเริ่มดำเนินกลยุทธ์ ‘สร้าง’ หรือ Invent การจัดงานแสดงสินค้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยจัดมาก่อน รวมทั้ง ‘กระจาย’ หรือ Clone งานแสดงสินค้าในประเทศที่ได้รับความสำเร็จกระจายไปจัดในภูมิภาค ตลอดจนการ ‘ยกระดับ’ หรือ Upgrade งานแสดงสินค้าซึ่งมีการจัดอยู่แล้วโดยการพัฒนาให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น”
ในปีงบประมาณ 2558 ทีเส็บได้ตั้งเป้าให้การสนับสนุนงานแสดงสินค้าหลากหลายตามโครงการ “ส่งเสริมและยกระดับงานแสดงสินค้าในประเทศ: Domestic Exhibition” โดยเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้ให้การสนับสนุนการ ‘กระจาย’ หรือ Clone งาน Thaifex ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงไปสู่งานFood & Hotelex 2014 ที่จัดขึ้นที่เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ฮอลล์ จังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้ ทีเส็บได้จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนแต่ละงานสูงสุดถึง 500,000 บาท สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าประเภทยกระดับ (Upgrade) และสูงสุดถึง 1,000,000 บาท สำหรับงานแสดงสินค้าประเภทสร้าง (Invent) หรือ กระจาย (Clone) อีกทั้งยังเพิ่มงบสนับสนุนให้เป็นพิเศษจำนวน 100,000บาท และ 200,000 บาท ตามลำดับ หากเลือกจัดใน ‘ไมซ์ซิตี้’ อันหมายถึงเมืองที่ทีเส็บได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการและได้มีการลงนามความร่วมมือส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น นอกเหนือจากการส่งเสริมในด้านอื่น ๆ อาทิ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของทีเส็บ หรือการอำนวยความสะดวกในการประสานงานติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น
นายภูริพันธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ ทั้งระดับ expo และ exhibitionสามารถนำรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาล ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในหลายมิติ ทั้งการจ้างงาน การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น การพัฒนาการค้าและการลงทุน อีกทั้งยังเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านสอดรับกับการก้าวเข้าสู่ AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังมาถึงในปี 2558 นี้ ภาคธุรกิจฯ นี้ จึงเป็นภาคธุรกิจสำคัญที่ควรเร่งส่งเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีทั้งศักยภาพ และความพร้อม มีทำเลที่ตั้งในศูนย์กลางของภูมิภาคที่จะสามารถขยายผลไปสู่โอกาสทางการค้าและการลงทุนได้อีกมากมายไม่รู้จบ”
###
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ส่วนงานสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการอาวุโส โทรศัพท์ 02-694-6095 อีเมล[email protected]
นายพิษณุ พลายแก้ว ผู้จัดการ โทรศัพท์ 02-694-6000 อีเมล[email protected]
นางสาวกนกวรรณ กะดีแดง ผู้จัดการ โทรศัพท์ 02-694-6006 อีเมล[email protected]
บริษัท ซิลเลเบิล จำกัด
นายสมคิด เจริญศักดิ์ โทรศัพท์ 08-4147-7575 / 02 254 6895-7 โทรสาร 0 2255 4468
นายสิทธิกร ชิตเทพ โทรศัพท์ 09-4331-6996