- Details
- Category: กีฬา
- Published: Saturday, 05 July 2014 11:18
- Hits: 4257
วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8620 ข่าวสดรายวัน
'เมสซี่'นำฉะเบลเยียม-กังหันลุ้นเพอร์ซี่ หายเดี้ยงบู๊กล้วยหอม คืนนี้รอบ 8 ทีม 2 คู่ท้าย
บราซิลสลด - สะพานคอนกรีตข้ามไปสนามเอสตาดิโอ มิเนเรา เมืองเบโล ฮอริซอนเต้ ของบราซิล สนามที่จะใช้แข่งฟุตบอลโลกรอบตัดเชือกในวันที่ 8 ก.ค.นี้ พังถล่มลงมาทับรถพังเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 20 คน |
คืนนี้พลาดไม่ได้ 'ฟ้าขาว'อาร์เจนตินาดวล'ปีศาจแดง'เบลเยียม ตามด้วย'กังหันสีส้ม' ฮอลแลนด์ปะทะ'กล้วยหอม'คอสตาริกา รอบก่อนรองชนะเลิศบอลโลก 2 คู่สุดท้าย 'ฟ้าขาว'จะไม่มีอเกโร่ ที่เจ็บ มาร์กอส โรโฮ ติดโทษแบน แต่แดนหน้าพระกาฬอยู่ครบทั้งเมสซี่-อิกัวอิน-ลาเวซซี่ ขณะที่ 'ปีศาจแดง'จะไม่มีฟานเดน บอร์ ที่เจ็บจนบอกลาบอลโลกไปแล้ว และต้องเช็กความฟิตแฟร์มาเลน-เดมเบเล่ สถิติเจอกันแชมป์โลก 2 สมัยเหนือกว่าชนะ 3 แพ้ 1 ครั้ง 'กังหันสีส้ม'อดใช้งานเดอ ยอง ที่เจ็บจนบอกลาบอลโลกไปแล้ว และต้องเช็กความฟิตเพอร์ซี่ ส่วน'กล้วยหอม'จะไม่มีมิลเลอร์ที่เจ็บ ดูอาร์เต้ติดโทษแบน และต้องเช็กความฟิต เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารจอมเซฟ
การแข่งขันฟุตบอลโลกประจำคืนวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. เป็นเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ 2 คู่ คู่แรกเตะเวลา 23.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล มาเน่ การ์รินช่า กรุงบราซิเลีย "ฟ้าขาว"อาร์เจนตินา แชมป์โลก 2 สมัย พบกับ"ปีศาจแดงยุโรป" เบลเยียม เส้นทางที่ผ่านมา"ฟ้าขาว"คว้าแชมป์กลุ่มเอฟ ชนะบอสเนีย 2-1 ชนะอิหร่าน 1-0 ชนะไนจีเรีย 3-2 เก็บ 9 แต้มเต็ม รอบ 16 ทีมชนะสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงต่อเวลา 1-0 ขณะที่"ปีศาจแดงยุโรป"คว้าแชมป์กลุ่มเอช ชนะแอลจีเรีย 2-1 ชนะรัสเซีย 1-0 ชนะเกาหลีใต้ 1-0 เก็บ 9 แต้มเต็มเช่นกัน รอบ 16 ทีมชนะสหรัฐอเมริกาช่วงต่อเวลา 2-1
ความพร้อมก่อนลงสนาม"ฟ้าขาว"จะไม่มี เซอร์คิโอ อเกโร่ ที่บาดเจ็บ มาร์กอส โรโฮ ติดโทษแบน คาดจัดทัพ 4-3-3 เซอร์จิโอ โรเมโร่ เป็นผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย พาโบล ซาบาเลต้า, เอเซเกล การาย, เฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ, โฮเซ่ บาซานต้า กองกลางใช้ เฟอร์นันโด กาโก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อังเคล ดิ มาเรีย ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกัวอิน และเอเซเกล ลาเวซซี่
ด้าน"ปีศาจแดงยุโรป"จะไม่มี อ็องโธนี่ ฟานเดน บอร์ ที่บาดเจ็บบอกลาฟุตบอลโลกแน่นอนแล้ว และต้องเช็กความฟิต โธมัส แฟร์มาเลน, มูซ่า เดมเบเล่ แต่จะได้ สตีเฟ่น เดฟูร์ พ้นโทษแบนกลับมา คาดว่าจะวางหมาก 4-2-3-1 ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ลงเฝ้าเสา กองหลัง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, แว็งซ็องต์ กอมปานี, แยน แฟร์ตองเก้น คู่กลางรับ อาเซล วิตเซล ประสานงานกับ มารูยาน เฟลไลนี่ กลางรุกประกอบด้วย ดริส เมอร์เทนส์, เควิน เด บรุยน์, เอเดน ฮาซาร์ด วาง โรเมลู ลูคาคู เป็นศูนย์หน้าเดี่ยว
คู่นี้เคยเจอกันมา 4 ครั้ง อาร์เจนตินาเหนือกว่าชนะ 3 เบลเยียมชนะ 1 ครั้ง ล่าสุดฟุตบอลโลก 1986 รอบรองชนะเลิศ อาร์เจนตินาชนะ 2-0 ผู้ตัดสินคือ นิโคล่า ริซโซลี่ จากอิตาลี
ประตูชัย - มัตส์ ฮุมเมิลส์ กองหลังเยอรมันขึ้นโขกบอลเสียบตาข่ายทีมชาติฝรั่งเศส ช่วยทีมขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูชัย ในการแข่งขันรอบ 8 ทีม ที่สนามมาราคาน่า ในนครริโอ เดอ จาเนโร จบเกมเยอรมันเฉือนชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกเป็นทีมแรก |
คู่ต่อมาเตะเวลา 03.00 น.หลังเที่ยงคืน วันที่ 5 ก.ค. ที่สนามอารีน่า ฟอนเต้ โนวา เมืองซัลวาดอร์ "กังหันสีส้ม"ฮอลแลนด์ รองแชมป์โลก 3 สมัย พบกับ"กล้วยหอม" คอสตาริกา ม้ามืดศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ "กังหันสีส้ม" คว้าแชมป์กลุ่มบี ชนะสเปน 5-1 ชนะออสเตรเลีย 3-2 ชนะชิลี 2-1 เก็บ 9 แต้มเต็ม รอบ 16 ทีมชนะเม็กซิโก 2-1 ขณะที่"กล้วยหอม"คว้าแชมป์กลุ่มดี ชนะอุรุกวัย 3-1 ชนะอิตาลี 1-0 เสมออังกฤษ 0-0 เก็บได้ 7 แต้ม รอบ 16 ทีมชนะกรีซด้วยการดวลจุดโทษ 5-3 ประตู
ความพร้อมก่อนลงสนาม "กังหันสีส้ม" อดใช้งาน ไนเจล เดอ ยอง ที่เจ็บจนต้อง บอกลาบอลโลก และต้องเช็กความฟิต เลอรอย เฟอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คาดใช้แผน 3-4-1-2 ประกอบด้วย แยสเปอร์ ซิลเลสเซน เฝ้าเสา สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, รอน ฟลาร์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ แผงกลาง ดาริล แยนมัต, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ดาลีย์ บลินด์, เดิร์ก เคาต์ โดยมี เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ เป็น กลางตัวรุก ส่วนแดนหน้า อาร์เยน ร็อบเบน จับคู่กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ส่วน"กล้วยหอม"จะไม่มี รอย มิลเลอร์ ที่บาดเจ็บ ออสการ์ ดูอาร์เต้ ติดโทษแบน และต้องรอเช็กความฟิต เคย์เลอร์ นาบาส คาดว่าจะจัดระบบ 5-4-1 เคย์เลอร์ นาบาส เป็น ผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย คริสเตียน กัมโบอา, จอห์นนี่ อคอสต้า, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ไมเคิ่ล อูมานญ่า, จูเนียร์ ดิอาซ กองกลางเป็น ไบรอัน รูอิซ, เชลโซ่ บอร์เกส, เยลต์ซิน เตเฮด้า, คริสเตียน โบลานญอส โดยมี โจเอล แคมป์เบลล์ เป็นหัวหอกตัวเป้า
คู่นี้ยังไม่เคยเจอกันมาก่อน ผู้ตัดสินคือ รัฟชาน เออร์มาตอฟ จากอุซเบกิสถาน
สำหรับการเป็นเจ้าภาพของบราซิลเกิดโศกนาฏกรรมน่าสลดช็อกฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 4 ก.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุสะพานยกระดับข้ามทางหลวงในเมืองเบโล โฮริซอนเต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองที่ใช้จัดแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 พังถล่มลงมาทับรถบัส รถบรรทุก และรถเก๋งรวม 4 คัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย 1 ในนั้นเป็นคนขับรถบรรทุก และบาดเจ็บอีก 22 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้เคราะห์ร้ายอีกอย่างน้อย 1 รายติดอยู่ภายในซากรถ
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นเวลาประมาณ 15.00 น.ของท้องถิ่น หรือ 01.00 น.ตามเวลาประเทศไทย สะพานยกระดับข้ามทางหลวงดังกล่าวพังถล่มลงมาอย่างกะทันหันระหว่างรถกำลังสัญจรไปมาอยู่เบื้องล่าง
สะพานแห่งนี้อยู่ห่างจากสนามเอสตาดิโอ มิเนเรา ซึ่งเป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ประมาณ 5 ก.ม. ใช้แข่งขันมาแล้วหลายแมตช์ได้แก่รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี โคลัมเบีย พบ กรีซ, กลุ่มเอช เบลเยียม พบ แอลจีเรีย, กลุ่มเอฟ อาร์เจนตินา พบ อิหร่าน, กลุ่มดี คอสตาริกา พบ อังกฤษ, รอบ 16 ทีม ระหว่าง บราซิล พบ ชิลี และจะใช้เป็นสังเวียนรอบรองชนะเลิศวันที่ 8 ก.ค. ของผู้ชนะระหว่าง บราซิล-โคลัมเบีย กับ ฝรั่งเศส-เยอรมนี
ด้านประธานาธิบดีบราซิล ดิลมา รูสเซฟฟ์ ทวีตข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทันทีที่ทราบข่าว ส่วนผู้บริหารบริษัทก่อสร้างสะพานดังกล่าว แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้ส่งทีมงานเข้ามาดำเนินการสอบสวนสาเหตุของสะพานถล่มแล้ว
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดี รูสเซฟฟ์อีกครั้ง เนื่องจากสะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในแผนการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค รองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อจะได้ปรับปรุงระบบการคมนาคมให้ดีและอำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่ปรากฏว่า ทั้งที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 10 วัน ศึกฟุตบอลโลกจะปิดฉากลงแล้ว สะพานข้ามถนนแห่งนี้ก็ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ขณะที่ชาวเมืองเบโล ฮอริซอนเต้ ระบุว่าไม่ประหลาดใจกับอุบัติเหตุครั้งนี้ เพราะการก่อสร้างทุกอย่างสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นไปอย่างล่าช้า และเพิ่งเร่งก่อสร้างเมื่อปีที่แล้ว บริษัทก่อสร้างต้องรีบทำงานแข่งกับเวลา จึงทำให้งานที่ออกมาไม่ได้คุณภาพ
ทั้งนี้นับตั้งแต่รัฐบาลบราซิลเตรียมตัวสำหรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2014 ได้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งระหว่างการก่อสร้างสนามหลายแห่ง ซึ่งเป็นไปอย่างเร่งรีบเพื่อให้แล้วเสร็จทันเวลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วคนงานพลัดตกลงมาขณะติดตั้งที่นั่งชั่วคราวในสนามอารีน่า โครินเธียนส์ เมืองเซา เปาโล
ส่วนความเห็นที่มีต่อฟุตบอลโลกครั้งนี้ เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ระบุว่า ฟุตบอลโลกที่บราซิลประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
แบลตเตอร์กล่าวว่า "ผมไม่ได้บอกว่าการแข่งขันนี้สมบูรณ์แบบ แต่ทุกคนเอาแต่พูดว่าสนามแต่ละแห่งไม่พร้อมใช้งาน สุดท้ายทุกสนามก็พร้อมใช้งาน และวันนี้บราซิลมีสนามที่มีความเป็นศิลปะ แล้วไหนล่ะผู้ประท้วง แล้วไหนล่ะความไม่พอใจทางสังคม การแข่งขันครั้งนี้เป็นยิ่งกว่าความสำเร็จ และผมมีความสุขที่ฟีฟ่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้"
ขณะที่ เฌอโรม วัลช์เค่ เลขาธิการทั่วไปของฟีฟ่า กล่าวว่า "แน่นอนว่านี่คือฟุตบอลโลกที่ดีที่สุดถ้าพูดในแง่ของเกมฟุตบอล มันเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม"
ด้าน เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซืออิตาลี เคยออกมาโวยฟีฟ่าที่ไม่ยอมให้มีช่วงพักระหว่างการแข่งขัน ทั้งที่ต้องแข่งท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในบราซิล "มันเป็นเรื่องบ้าที่ไม่มีการพักระหว่างการแข่งขัน ถ้าอยากให้การแข่งขันสนุกก็ต้องให้เวลานักเตะได้ฟื้นฟูร่างกายบ้าง" เช่นเดียวกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมอังกฤษ เคยกล่าวว่า "บราซิลอากาศร้อนและชื้นกว่าที่อังกฤษมาก แค่อยู่เฉยๆ เหงื่อก็เต็มหลังแล้ว เมื่อคุณต้องพบกับสภาพอากาศร้อนและชื้น คุณต้องมีสมาธิในการควบคุมจังหวะการเล่นให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายไม่เผาผลาญมากเกินไป"
ในทางกลับกัน "พญาอินทรี"สหรัฐอเมริกา กลับไม่คิดว่าสภาพอากาศในบราซิลเป็นปัญหา ไมเคิ่ล แบรดลีย์ กองกลางตัวเก่ง ระบุว่า พวกตนคุ้นเคยกับสภาพอากาศแบบนี้เป็นอย่างดีและไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร ขณะที่กุนซือฉลามขาว เจอร์เก้น คลินส์มันน์ กล่าวว่า ทางที่ดีที่สุดคือต้องอดทนและรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นให้ได้
ขณะเดียวกันผู้ตัดสินก็เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก เจอร์เกน คลินส์มันน์ กุนซือสหรัฐ โวยว่าฟีฟ่าเลือก ฌาแมล ไฮมูดี้ จากแอลจีเรีย ทำหน้าที่เป่าเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สหรัฐเจอกับเบลเยียม ซึ่งผู้ตัดสินรายนี้ พูดภาษาฝรั่งเศส เข้าทางเบลเยียมที่ใช้ภาษาเดียวกัน
สตีเฟ่น เคชี่ นายใหญ่ "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย ก็โวยว่า เหตุที่ไนจีเรียพ่ายฝรั่งเศสในรอบ 16 ทีม เนื่องจากผู้ตัดสิน มาร์ค ไกเกอร์ จากสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่ได้ไม่ดี นอกจากนี้ ยังมีประเด็นในนัดเปิดสนาม บราซิลชนะโครเอเชีย 3-1 ซึ่งผู้ตัดสิน ยูอิจิ นิชิมูระ จากญี่ปุ่น เป่าจุดโทษน่ากังขาให้เจ้าภาพ หรือเกมที่เม็กซิโกชนะแคเมอรูน 1-0 ผู้กำกับเส้น ฮุมเบอร์โต้ คลาบิโฮ จากโคลัมเบีย ยกธงล้ำหน้าไม่ให้ประตูของเม็กซิโกถึง 2 หน ทั้งที่เมื่อดูภาพช้าเป็นประตูที่ใสสะอาดทั้งหมด ทำให้คลาบิโฮโดนลงโทษพักงานในเวลาต่อมา
คู่ระหว่างฮอลแลนด์กับเม็กซิโกเกิดจังหวะน่ากังขา ฮอลแลนด์ได้ลูกจุดโทษท้ายเกม เป็นประตูชัย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาร์เยน ร็อบเบน พุ่งล้มในเขตโทษ และ ผู้ตัดสินไม่ทันเล่ของแข้งความเร็วสูงรายนี้