- Details
- Category: กีฬา
- Published: Friday, 04 July 2014 11:01
- Hits: 3971
วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8619 ข่าวสดรายวัน
อินทรีฉะไก่ คืนนี้เดือดแน่ ชนะเข้าตัดเชือก คู่ดึกแซมบ้าคึก เจอ'โคลัมเบีย'
 อินทรีเหล็ก - เมซุต โอซิล และซามี่ เคดิร่า สองตัวหลัก "อินทรีเหล็ก"เยอรมัน ทบทวนแท็กติกก่อนทำศึกหนักกับ "ตราไก่"ฝรั่งเศส รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2014 ที่สนาม มาราคาน่า คืนวันที่ 4 ก.ค. |
คืนนี้ประเดิมรอบ 8 ทีม มันส์ทั้ง 2 คู่ "ฝรั่งเศส" เตะชี้ชะตา "เยอรมนี" ใครชนะเข้ารอบตัดเชือกตราไก่ฟลูทีมทั้ง "ป๊อกบา" และ "เบนเซม่า" ส่วนขุนพล "อินทรีเหล็ก" ก็ปึ้ก สถิติที่ผ่านมาฝรั่งเศสเหนือกว่า อีกคู่ "บราซิล" เจ้าภาพเจอศึกหนัก "โคลัมเบีย" ที่ฟอร์มจัดจ้าน "เจมส์ โรดริเกซ" ซัดไปแล้ว 5 ประตูนำทัพ ฝั่ง แซมบ้าก็คึกจัดส่ง "เนย์มาร์" ผนึก ออสการ์ ฮัล์ก เฟร็ด ล่าตาข่าย
คืนนี้เริ่มรอบ 8 ทีม-อินทรีบู๊ไก่
ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ฟาดแข้งกันมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว โดยโปรแกรมการแข่งขันในคืนวันที่ 4 ก.ค. ตามเวลาประเทศ ไทย เริ่มคู่แรกเวลา 23.00 น. ที่สนามเอสตา ดิโอ โด มาราคาน่า เมืองริโอ เดอ จาเนโร เป็นศึกของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่จากยุโรป "ตราไก่"ฝรั่งเศส อดีตแชมป์โลก 1 สมัย พบ กับ "อินทรีเหล็ก"เยอรมนี อดีตแชมป์โลก 3 สมัย
สำหรับเส้นทางในรอบที่ผ่านมาของทั้ง 2 ทีมนั้น ฝรั่งเศสอยู่ในกลุ่มอี ประเดิมนัดแรกชนะฮอนดูรัส 3-0 ชนะสวิตเซอร์แลนด์ 5-2 เสมอเอกวาดอร์ 0-0 เก็บได้ 7 คะแนน เป็นที่ 1 ของกลุ่ม และรอบน็อกเอาต์ 16 ทีม ชนะไนจีเรีย 2-0 ขณะที่เยอรมนี อยู่ในกลุ่มจี นัดแรกถล่มโปรตุเกส 4-0 เสมอกานา 2-2 ชนะสหรัฐอเมริกา 1-0 เก็บได้ 7 คะแนน เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ในรอบ 16 ทีม เสมอแอลจีเรียใน 90 นาที ก่อนจะเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1
ดวลกันมา 25 ครั้ง-ฝรั่งเศสขี่
สำหรับความพร้อมก่อนลงสนาม ฝั่งฝรั่งเศสต้องรอเช็กความฟิตมามาดู ซาโก้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คาดใช้แผนการเล่น 4-3-3 นายทวารเป็น ฮูโก้ โยริส กองหลังใช้ มาติเยอ เดอบูชี่, ราฟาเอล วาราน, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, พาทริซ เอวร่า กองกลางนำโดย พอล ป๊อกบา, แบลส มาตุยดี้, โยฮัน กาบาย ส่วนแดนหน้า มาติเยอ วัลบูเอน่า ริมเส้นฝั่งขวา คาริม เบนเซม่า ฝั่งซ้าย โดยมี โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
ส่วนอินทรีเหล็ก จะไม่มี ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่บาดเจ็บ หมดสิทธิ์ลงเล่นใน บอลโลกครั้งนี้ และต้องเช็กความฟิต มัตส์ ฮุมเมิลส์, ลูคัส โพโดลสกี้, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ อีกทั้งมีข่าวว่าผู้เล่น 7 คนเป็นไข้ คาดว่าใช้แผนการเล่น 4-3-3 มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตู กองหลังใช้ เยอโรม บัวเต็ง, เพอร์ แมร์เตซักเกอร์, มัตส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองกลาง ซามี่ เคดิร่า, ฟิลิปป์ ลาห์ม, โทนี่ โครส ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่, โธมัส มุลเลอร์
 เตะคืนนี้ - เนย์มาร์ กองหน้า ซูเปอร์สตาร์บราซิล ซ้อมกับเพื่อนร่วม ทีมแซมบ้าเจ้าภาพ เตรียมลงปะทะแข้งกับโคลัมเบีย รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก ที่สนามคาสเตเลา เมืองฟอร์ตาเลซ่า คืนวันที่ 4 ก.ค. |
จากสถิติที่ผ่านมา คู่นี้เจอกันมา 25 ครั้ง ฝรั่งเศสชนะ 11 ครั้ง เสมอ 6 ครั้ง เยอรมนีชนะ 8 ครั้ง พบกันล่าสุดในนัดกระชับมิตรเมื่อปี 2013 ฝรั่งเศสแพ้คาบ้าน 1-2
คู่ดึก"แซมบ้า"ศึกหนัก"โคลัมเบีย
ต่อมาเป็นคู่ที่ 2 เริ่มเวลา 03.00 น. หลังเที่ยงคืนวันที่ 4 ก.ค. ที่สนามเอสตาดิโอ คาสเตเลา เมืองฟอร์ตาเลซ่า เป็นการพบกันของ 2 ทีมแห่งทวีปอเมริกาใต้ "แซมบ้า"บราซิล ทีมเจ้าภาพ พบกับโคลัมเบีย อีกทีมชั้นนำของละตินอเมริกา
สำหรับเส้นทางในรอบที่ผ่านมาของขุนพลแซมบ้า รอบแบ่งกลุ่มประเดิมชนะโครเอเชีย 3-1 เสมอเม็กซิโก 0-0 ชนะแคเมอรูน 4-1 เก็บไป 7 คะแนน เป็นที่ 1 ของกลุ่มเอ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเสมอชิลีใน 90 นาที และ 120 นาที 1-1 ก่อนชนะดวล จุดโทษ 3-2
ขณะที่โคลัมเบีย ในรอบแบ่งกลุ่มประเดิมด้วยชัยชนะเหนือกรีซ 3-0 ชนะไอวอรี่โคสต์ 2-1 ชนะญี่ปุ่น 4-1 คว้า 9 คะแนนเต็ม เป็นที่ 1 ของกลุ่มซี และในรอบ 16 ทีม เอาชนะ อุรุกวัย 2-0
"เนย์มาร์"พร้อมลงล่าตาข่าย
ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามนั้น บราซิลจะไม่มี ลุยซ์ กุสตาโว่ ที่ติดโทษแบน ต้องรอเช็กความฟิตของเนย์มาร์, ออสการ์, ดาวิด ลุยซ์ แต่ไม่น่ามีปัญหาอะไร คาดว่าใช้ระบบ 4-2-3-1 ฮูลิโอ เซซาร์ ผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย ดาเนียล อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เซโล่ คู่กลางรับ แฟร์นานดินโญ่ ประสานงานกับ รามิเรส กลางรุกใช้ ออสการ์, เนย์มาร์, ฮัล์ก โดยมี เฟร็ด เป็นศูนย์หน้า
ด้านโคลัมเบียต้องรอเช็กความฟิต มาริโอ เยเปส คาดว่าใช้แผนการเล่น 4-2-3-1 ดาวิด ออสปินา เป็นนายทวาร กองหลังมี ฮวน คามิโล ซูนิก้า, คริสเตียน ซาปาต้า, มาริโอ เยเปส, ปาโบล อาร์เมโร คู่กลางรับ อเบล อกิลาร์ ประสานงานกับ คาร์ลอส ซานเชซ กลางรุกใช้ ฮวน คัวดราโด้, เจมส์ โรดริเกซ, วิกเตอร์ อิบาร์โบ โดยมี เตโอฟิโล กูเตียร์เรซ เป็นหัวหอก
สถิติที่ผ่านมาคู่นี้เคยเจอกันมา 35 ครั้ง บราซิลชนะ 20 ครั้ง เสมอ 10 ครั้ง โคลัมเบียชนะ 5 ครั้ง เจอกันล่าสุดในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2012 เสมอกัน 1-1
"ไกเซอร์ฟรานซ์"วิเคราะห์อินทรี
ด้าน ฟรานซ์ เบ๊กเค่นบาวร์ ตำนานนักเตะเยอรมันเขียนบทวิเคราะห์เกมฟุตบอลโลก 2014 ให้สำนักข่าวดีพีเอ เยอรมัน โดยชี้ว่าเยอรมันเจองานง่ายขึ้นในเกมพบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
กองหลังกัปตันทีมอินทรีเหล็ก ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 และโค้ชทีมชาติชุดคว้าแชมป์โลกปี 1990 ระบุว่า "หลังจากรอบแบ่งกลุ่มแล้ว ผมชื่นชมการเล่นที่กล้ารุกและฝีเท้าที่รวดเร็วของนักเตะ แต่ในรอบ 16 ทีมที่ผ่านมา ผมมองว่าการเล่นด้วยแท็กติกได้เข้ามาแทนที่ ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ สำหรับบางทีม และเหนือสิ่งอื่นใด ยังมี หลายแมตช์ที่ต้องตัดสินกันในนาทีสุดท้าย เราจึงได้เห็น 5 จาก 8 นัดต้องเล่นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ" ไกเซอร์ฟรานซ์กล่าว
 บน : ติวเข้ม - อเลฮานโดร ซาเบญ่า กุนซืออาร์เจนติน่า ติวเข้มนักเตะฟ้า-ขาว ระหว่างการฝึกซ้อมก่อนทำศึกหนักกับ "ปีศาจแดงยุโรป" เบลเยียม ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก คืนวันที่ 5 ก.ค. ล่าง : วัดพลัง - อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งฮอลแลนด์โหมซ้อมหนัก เตรียมพร้อมนำทัพกังหันสีส้มลงดวลแข้งกับ "ขุนพลกล้วยหอม" คอสตาริกา ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก คืนวันที่ 5 ก.ค. |
ตำนานฟุตบอลเยอรมันกล่าวระบุต่อว่า ส่วนบราซิลน่าจะต้องใคร่ครวญใหม่ถึงสไตล์การเล่น เนื่องจากยังขาดทีมเวิร์ก แต่กลับอาศัยระดับความสามารถเฉพาะตัว ของนักเตะ ถ้าคุณจะเป็นแชมป์โลก แน่นอนว่ามันต้องช่วยกันทั้งทีม บราซิลต้องปรับปรุงทีมให้ดีกว่านี้ และต้องไม่ทำให้ เจมส์ โรดริเกซ ซูเปอร์สตาร์โคลัมเบีย แสดงความมหัศจรรย์ออกมาอีก
"สำหรับเยอรมนี ต้องวิ่งให้มากขึ้น และไม่ส่งบอลพลาดในเกมเจอกับฝรั่งเศส อย่าก่อความผิดพลาดเหมือนครึ่งแรก ของเกม พบแอลจีเรียอีก ส่วนฮอลแลนด์นั้น ควรจะรับมือกับคอสตาริกาได้ พวกเขาไม่ได้กดดันตัวเองด้วยสไตล์การเล่นแบบเดิม แต่พวกเขาใจเย็นและมีความประณีตใน การเล่นมากขึ้น"
"บีบีซี"เปิดสถิติยุโรป-ฝั่งละติน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีวิเคราะห์ว่าในรอบก่อนรองชนะเลิศมีทีมจากฝั่งยุโรป 4 ทีม และฝรั่งอเมริกา 4 ทีม จากสถิติการจัดการแข่งขัน 7 ครั้งในฝั่งอเมริกา ไม่เคยมีทีมจากยุโรปมาคว้าแชมป์ได้ ส่วนการจัดในฝั่งยุโรป มีเพียงบราซิลที่ไปคว้าแชมป์ในสวีเดนเมื่อ 56 ปีก่อน
บีบีซีระบุอีกว่า ครั้งนี้เป็นโอกาสของโค้ชยุโรปอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ของเนเธอร์แลนด์, ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ของฝรั่งเศส, โยอาคิม เลิฟ ของเยอรมนี และมาร์ก วิลม็อตส์ ของเบลเยียม ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ แต่ขณะเดียวกัน หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี่ ของบราซิล และอเลฮานโดร ซาเบญ่า ของอาร์เจนตินา อาจจะดับฝันและส่งยุโรปกลับบ้านมือเปล่าไปอีกหน
เมื่อถามว่าตัวเลข 4 ต่อ 4 ระหว่างยุโรปกับอเมริกา ในปีนี้แสดงถึงการสลับขั้วสมดุลจากยุโรปไปอเมริกาหรือไม่ เพราะเดิมทีพื้นที่ในรอบก่อนรองชนะเลิศมักจะเป็นของบรรดาทีมจากยุโรป ซึ่งบีบีซีได้อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ โยอาคิม เลิฟ ที่ระบุว่า การแข่งขันที่จัดในทวีปอเมริกาใต้เอื้อต่อประเทศในถิ่น แสดงให้เห็นว่าเวลาเล่นในทวีปของตนแล้ว ก็อยากจะแสดงให้ทั้งโลกเห็นว่านี่คือทวีปของเรา เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้แฟนๆ มีความสุข
อดีตกุนซือฟ้าขาวมองรอบ8ทีม
ส่วนเซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เจนตินา ชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1978 วิเคราะห์ถึงการแข่งขันแต่ละคู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมระบุว่าบราซิลชุดนี้เป็นทีมที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ขณะที่คอสตาริกาเจ๋งสุดเท่าที่เคยเห็นมาเช่นกัน
เมน็อตติระบุถึงเกมบราซิล-โคลัมเบีย ว่าบราซิลเป็นทีมที่มีความเป็นเอกเทศสูง ที่ผ่านมาพวกเขามีปัญหาในการเล่นโดยตลอด แผนการเล่นที่วางมาล้วนไม่มีผลโดยสิ้นเชิง พวกเขามาถึงจุดนี้ได้ด้วยประวัติศาสตร์และทักษะที่ปลูกฝังกันมา ขณะที่โคลัมเบียมาด้วยความมุ่งมั่นที่สูงลิบ และยังมีผู้เล่นอย่าง เจมส์ โรดริเกซ ในสภาพที่พวกเขาย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นนี้ นี่จะเป็นงานยากสำหรับพวกเขาแน่นอน
ส่วนคู่อาร์เจนตินา-เบลเยียม เมน็อตติระบุว่า อาร์เจนตินาผ่านมาถึงจุดนี้ด้วยความยากลำบากเกินคาด พวกเขาควรหันมาคิดว่าต้องเล่นให้ชนะ ไม่ใช่คิดว่าจะชนะด้วยรูปแบบไหน ขณะที่เบลเยียมมีผู้เล่นที่ดีมาก คิดว่าพวกเขามีการเล่นที่ใกล้เคียงกับฟุตบอลอาร์เจนไตน์มากที่สุด อาร์เจนตินาต้องพยายามพัฒนาเกมให้ดีขึ้นกว่านี้ เพื่อไม่ให้เป็นความยุ่งยากในการรับมือคู่แข่งอย่างเบลเยียม
ชม"คอสตาริกา"ก้าวที่ยิ่งใหญ่
สำหรับคู่ฝรั่งเศส-เยอรมนี เมน็อตติระบุว่า เยอรมนีเป็นทีมเดียวที่ชัดเจนในแนวทางการเล่น พวกเขาอาจจะมีปัญหาในแต่ละเกมที่ผ่านมา แต่พวกเขาเป็นทีมที่มีการเตรียมการกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ดีที่สุด ขณะที่ฝรั่งเศสเป็นอีกทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป ด้วยความสามารถอันแพรวพราวของนักเตะ แต่ไม่เห็นว่าเขามีกลยุทธ์ที่ชัดเจนอย่างไรกันแน่ พวกเขาเล่นด้วยแรงกระตุ้น ความสามารถเฉพาะตัว และการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ เกมนี้เป็นเกมที่คาดเดาลำบาก แต่คิดว่าเยอรมนีมีภาษีดีกว่า
ส่วนฮอลแลนด์-คอสตาริกา เมน็อตติชี้ว่าเป็นเกมที่น่าสนใจมาก ฮอลแลนด์มีทีมที่แข็งแกร่ง นำโดย สไนจ์เดอร์, ฟาน เพอร์ซี่ และร็อบเบน มีประสบการณ์สูงลิบ ขณะที่คอสตาริกาสร้างความประหลาดใจแก่คนทั้งโลก แต่ใครก็ตามที่รู้จักอเมริกากลางย่อมรู้ดีว่าพวกเขามีนักเตะชั้นเยี่ยมมากมาย เกมนี้ฮอลแลนด์เหนือกว่า คอสตาริกาจะเจอความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ แต่มันจะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องเล่นให้ได้อย่างที่ผ่านมา เพราะนั่นคือการแสดงถึงความยอดเยี่ยมที่สุดเหนือทีมละตินอเมริกาอีก 4 รายแล้ว
