WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8618 ข่าวสดรายวัน

เข้าอีก 2 ทีม ฟ้าขาวกับเบลเยียม ดวลกัน-ชิงตั๋วรอบรอง หลังลุ้นถึง 120 นาทีทั้งคู่ ส่งสวิส-สหรัฐกลับบ้าน


ประตูชัย - อังเคล ดิ มาเรีย กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา ซัดประตูชัยให้ทีม "ฟ้าขาว" เฉือนชนะทีมสวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ ฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีม เข้ารอบ 8 ทีมไปเจอกับเบลเยียม 

     เข้ารอบก่อนรองอีก 2 ทีม 'ฟ้าขาว'อาร์เจนฯ ควงคู่'ปีศาจแด'เบลเยียม หลังเตะเดือดยืดเยื้อ ถึง 120 นาที ก่อนเขี่ย'พญาอินทรี'สหรัฐ กับสวิส กลับบ้าน'ทิม ฮาวเวิร์ด'โกล์สหรัฐทำสถิติเซฟมากสุดในบอลโลก

ฟ้าขาวหืดจับ-เฉือนสวิส
     สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลโลกคืนวันที่ 1 ก.ค. เป็นการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา อดีตแชมป์โลก 2 สมัย พบ "แดนนาฬิกา" สวิตเซอร์แลนด์ ที่สนามอารีน่า เดอ เซาเปาโล นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล 
    เริ่มเกมอาร์เจนฯ เขี่ยบอลก่อนโดยตลอด 2 นาทีแรก เป็นนักเตะฟ้าขาวที่ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ นาที 7 นักเตะแดนนาฬิกาลากบอลขึ้นกราบซ้าย เกือบถึงเส้นหลัง เกลสัน เฟอร์นันเดซ เปิดบอลมาหน้าประตู แต่ยังโดนสกัดออกได้เป็นลูกเตะมุม โกคาน อินแลร์ สับไกยิง 25 หลา แต่บอลข้ามคาน 
     สวิตฯ เริ่มตั้งหลักเคาะบอลสั้นทำชิ่ง กล้าเล่นสู้บอลเบียดกับนักเตะฟ้าขาวแบบไม่กลัวศักดิ์ศรี นาที 27 สวิตฯ มีโอกาสได้ประตู จากจังหวะโหมบุกกราบขวา ลากบอลหลบแนวรับอาร์เจนฯ ชาคิรี่มีโอกาสยิง แต่โรเมโร่ นายทวารอาร์เจนฯเซฟได้อย่างฉิวเฉียด จากนั้น สวิตเซอร์แลนด์ใช้เกมสวนกลับ แต่ไม่ผ่านมือโรเมโร่ จบครึ่งแรกสกอร์ยังไม่ขยับ 0-0 
     ครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังเดินเกมใส่กันไม่ยั้ง นาที 53 อาร์เจนฯเกือบได้ประตู จากจังหวะมาร์กอส โรโฮ โยนบอลไปเสาสอง แต่เบนาโญ่ โดดขึ้นปัดบอลปลายมือไปเข้าทางดิ มาเรียชาร์จซ้ำ แต่ติดแนวรับกระดอนออกไปอย่างเหลือเชื่อ นาที 61 แฟนฟ้าขาวเฮเก้ออีกครั้ง เมื่อโรโฮ โยนบอลเข้ากลางให้อิกัวอินขวิด แต่เบนาโญ่โดดปัดข้ามคานออกไปนิดเดียว 
     อาร์เจนฯ ครองบอลเติมเกมรุกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ผู้เล่นสวิตฯ ลงไปตั้งรับในแดนตัวเองกันหมด นาที 79 ฟ้าขาวต้องเฮเก้ออีก จากจังหวะเมสซี่สับไกเต็มเหนี่ยว แต่เบนาโญ่ล้มตัวปัดบอลออกมา ปาลาซิโอเข้าชาร์จแต่ผู้รักษาประตูสวิตฯ ถึงบอลก่อน จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
     ช่วงต่อเวลาพิเศษ ต้องรอถึงนาทีที่ 117 ที่กองเชียร์ฟ้าขาวได้เฮกันสนั่น จากจังหวะลากเลื้อยของปาลาซิโอ ริมเส้นกราบซ้ายและ ตัดบอลจากลิกต์สไตเนอร์ครึ่งสนาม ก่อนต่อให้เมสซี่ เลื้อยหลบผู้เล่นสวิตฯ เข้ากรอบก่อนจ่ายให้ดิ มาเรีย ยิงด้วยซ้ายส่งบอลหนีมือ เสียบเสาสองกลายเป็นประตูให้อาร์เจนฯ ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นช่วงท้ายเกมสวิตฯ บุกหนัก แต่ไม่สามารถทำประตูได้ หมดเวลาอาร์เจนฯเฉือนชนะสวิตฯ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย 

'เมสซี่'รับกังวลกลัวตกรอบ
      ด้านลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีม อาร์เจนฯ กล่าวว่า รู้สึกกังวลระหว่างการแข่งขันที่ยังเสมอกัน 0-0 และกลัวจะตกรอบ โดยกังวลจนถึงช่วงท้ายเกม เพราะยิงประตู ไม่ได้ และเล่นกันผิดพลาดหลายจังหวะที่เกือบจะทำให้เราตกรอบ เวลาแต่ละนาทีผ่านไปและพวกเราไม่ต้องการจะยิงลูกโทษตัดสิน แม้จะเป็นกังวล แต่วันนี้ถือว่าเล่นได้ดี


ลิ่ว 8 ทีม- เควิน เดอ บรุยน์ นักเตะเบลเยียม ซัดประตูผ่านมือทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารทีมชาติสหรัฐ ให้เบลเยียมขึ้นนำก่อนในช่วงต่อเวลาพิเศษ ฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีม จบเกมเบลเยียมชนะ 2-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม

      ขณะที่อังเคล ดิ มาเรีย ผู้ยิงประตูชัยให้ อาร์เจนฯ กล่าวว่า ชัยชนะนัดนี้เราสมควร ได้รับ ส่วนตนไม่ใช่ฮีโร่ แต่นักเตะทั้ง 23 คน รวมทั้งสต๊าฟโค้ชทุกคนล้วนเป็นฮีโร่ของทีม 
     อเลจานโดร ซาเลลล่า กุนซือฟ้าขาว กล่าวว่า ความจริงเกมนี้ควรตัดสินชัยชนะในช่วง 90 นาที ครึ่งแรกถือว่าสูสี มีโอกาสทำประตูจะแจ้งฝั่งละ 2 ครั้ง แต่ครึ่งหลังเห็นได้ชัดว่า พวกเราดีกว่ามีโอกาสยิง 5-6 ครั้ง เช่นเดียวกับในช่วงต่อเวลาพิเศษ เราก็มีโอกาสมากกว่า
     ด้านอ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือสวิตฯ ซึ่งคุมทีมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนวางมือ กล่าวว่า ลูกทีมมีโอกาสดีที่สุดในครึ่งแรก จากจังหวะของ กรานิต ซาคา และสเตฟาน ลิกช์สไตเนอร์ แต่เซอร์จิโอ โรเมโร่ นายทวารอาร์เจนตินาเซฟได้ 
    มีรายงานด้วยว่า ก่อนการแข่งขันฮิตซ์เฟลด์ ได้รับข่าวเศร้า เมื่อวินฟรีด ฮิตซ์เฟลด์ พี่ชายคนโตของเขาเสียชีวิต

เบลเยียมดวลเดือดสหรัฐ
     อีกคู่เป็นเกมระหว่าง "ปิศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม พบกับ "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา ฟาดแข้งกันที่อารีน่า ฟอนเต้, ซัลวาดอร์ เริ่มเกมสหรัฐเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน ทว่ากลับเป็นปิศาจแดงแห่งยุโรปที่โฉบบอลรุกเข้าหา เดอ บรุยน์จ่ายให้โอริกี้ แตะหลบแนวรับสหรัฐและตวัดยิงเต็มข้อเรียดเสาสอง ทว่าทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารมะกันออกมาปิดมุมแคบไว้ได้ทัน
    ถัดมานาที 4 สหรัฐโหมรุกกลับ คาเมรอนแทงบอลทะลุช่องให้ซูซี่ สอดขึ้นหน้าแต่บอลแรงเกินไปเข้ามือกูร์ตัวส์ จากนั้นเกมเริ่มผลัดกันรุกรับสูสีขึ้น จนผ่านไปเกือบสิบนาที ต่างฝ่ายเริ่มหันมาเล่นอย่างรัดกุมมากขึ้น ต่อมานาที 15 มีแฟนบอลวิ่งลงมาป่วนในสนาม ทำให้ผู้ตัดสินต้องหยุดเกมไปชั่วขณะ ก่อนควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์และให้เกมดำเนินต่อไป 
    เกมดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมเข้าแลกแบบเทหน้าตัก โดยเบลเยียมน่าได้ประตู ขึ้นนำบ้างเช่นกัน นาที 23 จากจังหวะเติมเกมบุกเดอ บรุยน์ หวดเต็มเหนี่ยว ขณะที่ฮาวเวิร์ดนั้นเสียจังหวะไปแล้ว ทว่าบอลไหลออกข้างเสาไปนิดเดียว หมดครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 
    เริ่มครึ่งหลังนาที 55 โอริโกเทกตัวโหม่งบอลย้อยกระทบชนคานตรงสามเหลี่ยม ถัดมาอึดใจบอลยังโยนยาวมาอีกครั้ง แยน แฟร์ตองเก้น ตวัดตูมเดียว บอลโค้งออกข้างเสาไกลไปอีก ผ่านมาถึงนาที 60 เบลเยียมปรับเกมบุก ส่งเควิน มิรัลลาส ลงแทนดริส เมอร์เทนส์ โดบเกมรุกยังเป็นของปิศาจแดงยุโรปอย่างต่อเนื่อง ทั้งยิงใกล้ยิงไกล แต่แนวรับของสหรัฐก็ยังไม่พลาด
     นาที 84 ฮาวเวิร์ดยังโชว์ฟอร์มเหนียวปัดบอลมือเดียวจากลูกยิงแสกหน้าของโอริกี้ได้อีกครั้ง ช่วงทดเจ็บสหรัฐโต้กลับ เจอร์เมน โจนโยนบอลเข้าหน้าประตูเผาขน แต่วอนโดลอฟสกี้ กลับยิงบอลข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ จบเกมเบลเยียมเสมอสหรัฐ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก


บน-ดวล 8 ทีม- เมซุต โอซิล กองกลางตัวเก่งทีมชาติเยอรมัน ลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ที่เอสตาดิโอ เบร่า-ริโอ เมืองปอร์โต อเลเกร ประเทศบราซิล เตรียมลงเตะรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับฝรั่งเศส ในวันที่ 4 ก.ค.นี้

ล่าง-ติวเข้ม- หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือทีมชาติบราซิล เต็ง 1 ศึกฟุตบอลโลก 2014 ติวเข้มแผนการเล่นให้นักเตะระหว่างการฝึกซ้อม ที่เทเรโซโปลิส เตรียมพร้อมลงทำศึกฟาดแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับทีมชาติโคลัมเบีย

120 นาที-เบลเยียมเฉือนระทึก
     ก่อนเริ่มช่วงต่อเวลาพิเศษเบลเยียมเปลี่ยนโอริกี้ ออกและส่งโมเมลู ลูคาคู ลงมาแทน เพียงแค่ 2 นาทีช่วงต่อเวลาพิเศษกองเชียร์ปิศาจแดงแห่งยุโรปก็ได้เฮ จากจังหวะสวนกลับเร็ว ลูคาคูพาบอลเข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้เควิน เดอ บรุยน์ ม้วนตัวหนีสองกองหลังสหรัฐ แล้วตวัดยิงลูกเรียดเสียบเสาสอง บอลหนีมือฮาวเวิร์ดตุงตาข่ายกลายเป็นสกอร์ให้เบลเยียมขึ้นนำ 1-0 
    หลังขึ้นนำเบลเยียมยังคงบุกหนัก เดอ บรุนย์ ไหลบอลให้ลูคาคู ซัดเรียดอีกครั้ง แต่ฮาวเวิร์ดพุ่งปัดไว้ได้ทัน ถึงนาที 105 ความหวังของแฟนบอลมะกันก็ริบหรี่ลง เมื่อเบลเยียมจ่ายบอลตามช่อง เควิน เดอ บรุยน์ ลากขึ้นกราบซ้ายก่อนถวายพานให้ ลูคาคูวิ่งเข้ามาซัดตุงตาข่าย ให้เบลเยียมนำห่าง 2-0 
    ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ถึงนาที 107 แฟนบอลมะกันได้เฮบ้าง จากจังหวะของ จูเลียน กรีน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาได้บอลจากไมเคิล แบรดลีย์ สาดเข้าหน้าประตู กรีน ยิงวอลเลย์ด้วยเท้าขวา เป็นประตูตีตื้นให้สหรัฐไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 
     จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมเบลเยียมเฉือนชนะสหรัฐ ด้วยการต่อเวลาพิเศษ 2-1 ผ่านเข้าไปพบอาร์เจนตินาในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

โกล์สหรัฐเซฟมากสุดบอลโลก
     ด้านทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารทีมชาติสหรัฐ กล่าวยกย่องลูคาคูที่ลงเป็นตัวสำรองและยิงประตูได้ว่า เมื่อเบลเยียมส่งลูคาคูลงมา กองหน้ารายนี้สร้างประโยชน์ โดยวิ่งไล่บอลและก็ยิงประตูได้ สร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม 
     สำหรับเกมนี้ ทิม ฮาวเวิร์ดเซฟมากถึง 15 ครั้ง ทำสถิติมากที่สุด มากกว่าผู้รักษาประตูคนไหนในฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1966-2014 
      ด้านเจอร์เก้น คลินส์มันน์ กุนซือทีมชาติสหรัฐ เปิดใจหลังเกม โดยยกย่องฟอร์มการเล่นของลูกทีมที่กลายเป็นฮีโร่ของชาวมะกัน แม้จะแพ้เบลเยียม 1-2 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม พร้อมหวังจะสร้างทีมจากชุดฟุตบอลโลก 2014 นี้ไปสู่ความสำเร็จในอนาคตให้ได้ 
     "ผมภาคภูมิใจในนักเตะชุดนี้อย่างมาก นักเตะทุกคนสร้างความภูมิใจกับฟอร์มการเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งเราได้เรียนรู้อะไรมากมายและพัฒนาขึ้นเพื่อฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า" คลินส์มันน์กล่าว
     กุนซือสหรัฐยังยกย่องฟอร์มอันเหนียวหนึบของฮาวเวิร์ดว่า คืนนี้ ทิม ฮาวเวิร์ดเล่นได้สุดยอดมาก เขาช่วยเราได้เป็นเวลานาน พวกเราภูมิใจที่มีเขาอยู่กับทีม เป็นคืนที่มหัศจรรย์ของวงการฟุตบอล เบลเยียมสมควรชนะ พวกเขามีโอกาสมากมาย แต่สำหรับทีมสหรัฐแล้ว นักเตะทุกคนคือฮีโร่ 
      ด้านมาร์ก วิลม็อตส์ กุนซือเบลเยียม สยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อและแฟนบอลกับฟอร์มการเล่นย่ำแย่ในรอบแรก หลังจากลูกทีมโชว์ฟอร์มเก่งชนะสหรัฐ 2-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้ พร้อมระบุว่าสมควรชนะ และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เพราะเล่นดี โดยโอกาสทำประตูมากถึง 27 ครั้ง 
     "พวกเรามีโอกาสในเกมนี้ 27 ครั้ง และสมควรเป็นผู้ชนะ ลูกทีมของผมสร้างโอกาสยิงประตูเฉลี่ย 2 นาทีต่อครั้ง แต่เป็นเพราะความสุดยอดในการเซฟของทิม ฮาวเวิร์ด ทำให้ เรายิงไม่ได้ พวกเราได้เห็นอะไรมากมายจากทีมเบลเยียมในคืนนี้ ผมขอบอกว่าเราเล่นได้ดีเกมหนึ่ง เล่นได้อย่างกล้าหาญจนสามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้"

บิ๊กอาร์เอสแจงปมถ่ายทอด
      ที่อาร์เอสฮอลล์ บมจ.อาร์เอส นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์โลก 2014 ว่าบริษัท อาร์เอส ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 แต่หลังจากนั้นอาร์เอสได้รับการประสาน จากกสทช. ว่าต้องการหารือเร่งด่วน เพื่อนำการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 มาถ่ายทอดสดให้คนไทยดูผ่านทางฟรีทีวี ครบทั้ง 64 แมตช์ โดยพร้อมให้เงินสนับสนุนเพื่อชดเชยความเสียหายและค่าเสียโอกาส ทางธุรกิจเป็นเงินชดเชย 427 ล้านบาท ซึ่งตอนนั้นอาร์เอสมองว่าเรื่องธุรกิจเป็นเรื่องรองและเงินชดเชยก็ไม่เพียงพอที่จะเยียวยาความเสียหาย อีกทั้งเป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย แต่อาร์เอสก็ยินดีให้ความร่วมมือและเร่งประสานผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่าย ก่อนถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจนจบรอบแรก แต่อาร์เอสยังไม่ได้รับเงินครบถ้วนตามจำนวน 427 ล้านบาทที่ตกลงไว้ ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะ กสทช.จำเป็นต้องมีคณะอนุกรรมการพิจารณา แต่บริษัทต้องรับผิดชอบต่อลูกค้าและพันธ มิตรทางธุรกิจ
    นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ส่วนแผนถ่ายทอดสดในข้อตกลงได้หารือกันและตกลงทุกคู่ต้องดูฟรีผ่านฟรีทีวี ซึ่งในประเด็นนี้อาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยอาร์เอสมองว่าช่องฟรีทีวีที่รับชมฟรีในทุกแพล็ตฟอร์ม ปัจจุบันมี 24 ช่องฟรีทีวี แต่กสทช.อาจหมายถึงเพียงแค่ฟรีทีวีในระบบอนาล็อกเดิมเท่านั้น แต่ได้แจ้งกสทช.อย่างชัดเจนว่า ช่อง 8 เป็นหนึ่งในฟรีทีวีของเมืองไทย ซึ่งก็ได้รับทราบและไม่ได้มีข้อโต้แย้ง แต่เมื่อประชาชนหลายพื้นที่แจ้งว่าไม่สามารถรับชมการแข่งขันคู่บราซิล-ชิลี ในวันที่ 28 มิ.ย. และเนเธอร์แลนด์-เม็กซิโก ในวันที่ 29 มิ.ย. ผ่านช่อง 8 ได้ จึงเร่งประสานขอเช่าเวลาเพิ่มเติมจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อให้แฟนบอลรับชมการแข่งขัน
     "บริษัทขอเรียนว่า การเข้ามาเจรจาของ กสทช. เพื่อให้คนไทยได้ชมฟุตบอลโลกฟรีทั้ง 64 คู่ ไม่ได้เกิดจากการบังคับหรือใช้อำนาจตามกฎหมาย หากแต่เกิดจากความสมัครใจของอาร์เอสที่ยอมตกลงร่วมกันบนพื้นฐานที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้ โดยขอยืนยันว่าคนไทยจะได้รับชมพิธีปิดสุดยิ่งใหญ่อลังการ ผ่านทางช่อง 5 หรือช่อง 7 ตามที่ได้กำหนดไว้ในตารางการถ่ายทอดสดแน่นอน"นาย สุรชัยกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!