- Details
- Category: กีฬา
- Published: Wednesday, 02 July 2014 10:05
- Hits: 3718
วันที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8617 ข่าวสดรายวัน
อินทรีเตะ 120 นาที ชนะหวิว เข้า 8 ทีมบู๊ตราไก่ ไนจีเรีย-แอลจีเรียร่วง'ซัวเรซ'โพสต์ขอโทษ กัดไหล่นักเตะ'อิตาลี' ฟีฟ่าไม่เอาผิดร็อบเบน
อินทรีเฮ - อังเดร ชูร์เล่ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี พังประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผลการแข่งขัน เยอรมนี ชนะ แอลจีเรีย ช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 |
'อินทรีเหล็ก' เยอรมันหืดจับ เล่น 120 นาทีเฉือน'จิ้งจอกทะเลทราย' แอลจีเรีย 'ชูร์เล่-โอซิล'ซัดคนละตุง ลิ่วผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ดวลกับ'ตราไก่' ฝรั่งเศส ที่เพิ่งไล่จิก 'อินทรีมรกต'ไนจีเรีย ร่วงตกรอบ ด้านกุนซือไนจีเรียประกาศลาออก 'ซัวเรซ'ขอโทษกัดนักเตะอิตาลี ยันไม่ทำอีกแน่ ด้าน'คิเอลลินี่' เหยื่องับให้อภัย ขณะที่แข้งสาวไทยชุดไปบอลโลก เชื่อ 'แซมบ้า'บราซิลลิ่วเข้าชิงแน่ ขณะที่'ลีซอ' เผยโคลัมเบียเป็นม้ามืด
ฝรั่งเศส ดวลอินทรีมรกต
สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย. เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แรกที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล กรุงบราซิเลีย "ตราไก่"ฝรั่งเศส แชมป์กลุ่มอี พบกับ "อินทรีมรกต"ไนจีเรีย รองแชมป์กลุ่มเอฟ เกมนี้ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศสไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพผู้เล่นที่ได้พักเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้า อย่าง พาทริซ เอวร่า, มาติเยอ เดอบูชี่, ราฟาเอล วาราน, มาติเยอ วัลบูเอน่า และโยฮัน กาบาย ได้กลับมาเป็นตัวจริง แนวรุกมี คาริม เบนเซม่า ล่าตาข่ายร่วมกับโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ด้านไนจีเรีย ไม่มีไมเคิล บาบาตุนเน่ ที่มือหักแต่ได้วิกเตอร์ โมเซส กลับมาลงสนาม แนวรุกฝากความหวังไว้กับเอ็มมานูเอล เอเมนิเก้
เปิดเกมครึ่งแรกทั้งคู่ยังทำอะไรกันไม่ถนัด นาที 17 อินทรีมรกตได้ลุ้น จอน โอบี มิเกล เขี่ยตั้งบอลให้เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ วิ่งเข้ามาหวดด้วยขวาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ถัดจากนั้นเพียง 2 นาทีไนจีเรียเกือบได้เฮจากจังหวะที่อาห์เม็ด มูซ่า หยอดบอลไปหน้าประตูให้เอเมนิเก้ สอดเข้าไปชาร์จบอลตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
นาที 22 ฝรั่งเศสได้ลุ้นบ้าง มาติเยอ วัลบูเอน่า เปิดบอลเข้าเขตโทษให้พอล ป๊อกบา ตวัดยิงด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลพุ่งเข้าตรงตัววินเซนต์ เอ็นเยียมา ทุบทิ้งออกมาได้ ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 40 ตราไก่มีโอกาสจบสกอร์อีกครั้ง วัลบูเอน่าลากบอลขึ้นมาไหล ต่อไปที่กลางหน้าประตูให้ มาติเยอ เดอบูซี่ ซัดด้วยขวาแต่หลุดกรอบไป ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ไก่ไล่จิกชนะ-ลิ่ว 8 ทีม
เข้าสู่ครึ่งหลัง ถึงนาที 59 ไนจีเรียต้องเปลี่ยน โอนาซี่ ที่บาดเจ็บหลังถูก แบลส มาตุยดี้ เข้าสกัดหนักและส่งรูเบน กาเบรียล ลงมาแทน มาถึงนาที 64 ไนจีเรียเกือบได้ประตู ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ ได้ยิงหน้าเขตโทษแต่ฮูโก้ โยริส ปัดเอาไว้ได้
จากนั้นนาที 68 ตราไก่พลาดประตูไปอย่างเหลือเชื่อในจังหวะที่คาริม เบนเซม่า ทำชิ่งกับอองตวน กรีซมันน์ ตัวสำรองหลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงยัดเข้าตรงตัวเอ็มเยียมา บอลทะลุไปถึงปากประตูเกือบข้ามเส้นแล้ว แต่วิกเตอร์ โมเซส วิ่งมาสกัดทิ้งได้ทัน เข้าสู่นาที 77 ฝรั่งเศสเกือบเบิกสกอร์ได้อีกครั้งโยฮัน กาบาย เก็บบอลยิงระยะ 18 หลา แต่บอลพุ่งกระแทกคานกระดอนออกมายังไม่เป็นประตู
อย่างไรก็ตาม อีก 3 นาทีต่อมา ฝรั่งเศสขึ้นนำ 1-0 จนได้ มาติเยอ วัลบูเอน่า เปิดลูกเตะมุมเข้ากลางเขตโทษเอ็นเยียมาโดดมาปัดบอล แต่พลาดลูกลอยข้ามไปเสาสองเข้าทาง พอล ป๊อกบา โขกสวนตุงตาข่าย หลังจากนั้นขุนพลเมืองน้ำหอมยังบุกได้เหนือกว่าจนมาได้ลูกที่ 2 ในช่วงทดเวลาจังหวะที่วัลบู เอน่า พาบอลเลาะเส้นหลังฝั่งขวาเข้าหาประตูก่อนจ่ายให้กรีซมันน์ เข้าชาร์จแต่โจเซฟ โยโบ วิ่งเข้ามา สกัดไม่ถูกจังหวะกลายเป็นทำลูกเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ส่งผลให้จบการแข่งขัน ฝรั่งเศสเอาชนะไนจีเรีย 2-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมไปพบเยอรมันวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. เวลา 23.00 น.
กุนซือไนจีเรียลาออก
ด้านสตีเฟ่น เคชี่ โค้ชทีมไนจีเรีย ออกมาวิจารณ์ผู้ตัดสินทำให้ทีมต้องแพ้ฝรั่งเศส 0-2 และกระเด็นตกรอบ โดยไม่พอใจจังหวะที่ไม่ยอมลงโทษ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าฝรั่งเศสฟันศอกใส่จอห์น โอบี มิเกล และให้แค่ใบเหลือง แบลส มาตุยดี้ แทนที่จะเป็นใบแดงจากการทำฟาวล์แบบน่าเกลียดใส่ อ๊อกเกนยี่ โอนาซี่ มิดฟิลด์ของทีมอินทรีมรกต รวมทั้งจังหวะที่เป่าเป็นลูกล้ำหน้าหลังเอ็มมานูเอล เอมานิเก้ ยิงเข้าในครึ่งแรก ทำให้ไนจีเรียไม่ได้ประตูขึ้นนำ ทั้งที่เอมา นิเก้ ยืนในระดับเดียวกับพาทริซ เอวร่า กองหลังตราไก่
ขณะเดียวกัน เคชี่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว และไม่ได้รับการเสนอสัญญาใหม่จากสมาคมลูกหนังไนจีเรีย โดยเคชี่แจ้งกับนักเตะก่อนเกมว่าเตรียมอำลาตำแหน่ง หากไม่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้
ส่วนโจเซฟ โยโบ กองหลังของอินทรีมรกต ที่ลงสนามครบ 100 นัด ในเกมพบตราไก่ และปิดฉากไม่สวยทำเข้าประตูตัวเอง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก็แถลงอำลาทีมชาติหลังจบแมตช์เช่นกัน
เดส์ชองส์ชม'ป๊อกบา'
ด้านดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศส ยกย่องผลงานลูกทีมหลังผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้สำเร็จ พร้อมระบุไม่ได้รู้สึกกังวลใจเลยที่ต้องรอถึงช่วงท้ายเกมก่อนทำประตูได้ในเกมชนะไนจีเรีย 2-0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ไก่ลิ่ว - โจเซฟ โยโบ กองหลังทีมชาติไนจีเรีย สกัดลูกเปิดของ อองตวน กริซมันน์ ปีกทีมชาติฝรั่งเศส แต่พลาดบอลเข้าประตูตัวเอง การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้าย จบเกมฝรั่งเศสชนะ 2-0 |
เดส์ชองส์ กล่าวว่า "เราเข้ามาอยู่ใน 8 ทีมที่ดีที่สุดของโลกแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม และเราก็มีความสุข ผมภูมิใจมากกับสิ่งที่เราทำนับตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ และเราต้องก้าวต่อไป เกมนี้คู่แข่งโชว์ฟอร์มได้ดีตามที่เราคาดไว้ พวกเขาแข็งแกร่ง เราจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือ ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง แต่เรา ปิดเกมได้เยี่ยม ไนจีเรียช้าลงไปหลังเกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทำให้เราสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากขึ้น ซึ่งเราน่ายิงได้มากกว่านี้ แต่แน่นอนเรายังไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่เรากำลังทำได้ดี"
เดส์ชองส์ ยังกล่าวชมพอล ป๊อกบา เจ้าของ ตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ เป็นพิเศษ หลังก่อนหน้าโดนสื่อวิจารณ์และถูกดร็อปไปในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสองที่พบสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุว่า เกมนี้ป๊อกบา ทำได้ดี ไม่พยายามโชว์ เล่นง่ายขึ้น รวมทั้งทำประตูได้ จึงต้องให้เครดิต ถือเป็นผู้เล่นที่สำคัญมากสำหรับทีมในเกมกับไนจีเรีย และตนหวังว่าป๊อกบาจะรักษาฟอร์มได้ดีแบบนี้ในนัดต่อไป
ด้านแบลส มาตุยดี้ มิดฟิลด์ฝรั่งเศสออกมาขอโทษที่เข้าสกัดรุนแรงใส่ อ๊อกเกนยี่ โอนาซี่ ผู้เล่นไนจีเรียจนได้รับบาดเจ็บเล่นต่อ ไม่ไหวระหว่างเกม โดยระบุว่า ผมเสียใจ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เขาบาดเจ็บ และรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะจริงๆ แล้วผมไม่ใช่นักเตะที่ชอบเล่นสกปรก ผมเข้าไปในห้องแต่งตัวของไนจีเรีย และได้ขอโทษต่อโอนาซี่"
อินทรีเหล็กลงบู๊แอลจีเรีย
อีกคู่ที่สนามเอสตาดิโอ เบร่า-ริโอ เมืองปอร์โต อเลกรี'อินทรีเหล็ก'เยอรมัน แชมป์กลุ่มจี พบกับ'จิ้งจอกทะเลทราย'แอลจีเรีย รองแชมป์ของกลุ่มเอช
เกมนี้โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็ก ส่งผู้เล่นจากบาเยิร์น มิวนิกเป็นตัวจริงทั้ง 7 คน มาในแผน 4-3-3 โดยนักเตะ 11 คนแรกมีดังนี้ มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสา กองหลังใช้ ชโคดราน มุสตาฟี่, เพอร์ แมร์เต ซักเกอร์, เยอโรม บัวเต็ง, เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองกลางประกอบด้วย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, โทนี่ โครส ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่ และโธมัส มุลเลอร์ ขณะที่ทีมจิ้งจอกทะเลทรายยังใช้บริการอิสลัม สลิมานี และโซฟียาน เฟกูลี่ เป็นสีสันใน เกมรุก
เริ่มเกมครึ่งแรกเยอรมันเป็นฝ่ายบุกใส่ตามฟอร์ม แต่หวิดเดี้ยงจากเกมสวนกลับของแอลจีเรียในนาที 9 อิสลัม สลิมานี พาบอลทะลุผ่านแนวรับขึ้นมาฝั่งซ้าย ทำให้มานูเอล นอยเออร์ ต้องทิ้งพื้นที่ปากประตูออกมาสกัดคู่แข่งนอกเขตโทษ นาที 14 อินทรีเหล็กมีโอกาสบ้าง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตะบันไกลด้วยซ้ายเข้าหากรอบ ราอิส เอ็มโบลี่ ปัดในจังหวะแรกก่อนตะครุบไว้ได้
ถึงนาที 17 เกมสวนกลับของทีมจิ้งจอกทะเลทรายเกือบได้ผลหลัง ฟาอูซี่ กูลาม โยนบอลจากฝั่งซ้ายไปหน้าประตูให้อิสลัม สลิมานี สอดเข้าไปโขกตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงเป็นล้ำหน้า พลาดได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย เข้าสู่นาที 38 อินทรีเหล็กมีลุ้นจากเมซุต โอซิล ได้ยิงระยะ 22 หลาบอลเข้าตรงตัวราอิส เอ็มโบลี แต่บอลกระฉอกหลุดมือ โธมัส มุลเลอร์ สบโอกาสวิ่งตามเก็บ แต่ทำบอลออกหลังไป
ก่อนหมดครึ่งแรกนาที 42 เยอรมันน่า ได้ประตูจากลูกจังหวะโทนี่ โครส ยิงไกล ราอิส เอ็มโบลี่รับไม่อยู่ มาริโอ เกิตเซ่วิ่งเข้ามาซ้ำ แต่นายด่านแอลจีเรียยังตามเซฟไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
เยอรมัน เฉือนต่อเวลา-ชนตราไก่
กลับมาเล่นครึ่งหลังเพียง 3 นาที ขุนพลเมืองเบียร์ได้ลุ้นก่อนโธมัส มุลเลอร์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปเข้าหัวสโคดราน มุสตาฟี่ โขกเต็มๆ แต่ไปเข้าซองของราอิส เอ็มโบลี่ หลังจากนั้นยังเป็นเยอรมันที่บุกหนัก นาที 55 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ผ่านบอลให้ฟิลิปป์ ลาห์ม ยิงระยะ 20 หลา แต่เอ็มโบลี่ยังพุ่งปัดได้ทัน
แม้รูปเกมของอินทรีเหล็กเหนือกว่าแต่ยังเจาะประตูไม่ได้ นาที 80 โธมัส มุลเลอร์ มีโอกาสโขกจ่อๆ แต่ยังถูกเอ็มโบลี ปัดทิ้งมาเข้าทางอันเดร์ ชูร์เล่ ตัวสำรอง ยิงซ้ำอีกทีแต่ติดบล็อกออกหลังไปอีก หลังจากนั้นอินทรีเหล็กยังมีโอกาสอีกหลายครั้ง แต่ไม่สามารถทลายการเซฟเอ็มโบลีสำเร็จจบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 ต้องไปตัดสินในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษไป 2 นาที เยอรมัน ก็ฉวยโอกาสซัดขึ้นนำ 1-0 โธมัส มุลเลอร์ พาบอลลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนไหลบอลเข้ามาหน้าประตูให้อังเดร ชูร์เล่ ที่วิ่งถลำไปเล็กน้อย แต่ยังเอาขาหลังเกี่ยวแล้วไขว้บอลเสียบเสาสองเข้าไป จากนั้นาที 109 เยอรมันต้องถอดบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่บาดเจ็บออก และนาที 120 อินทรีเหล็กมาบวกสกอร์เพิ่มเป็น 2-0 หลังจากชูร์เล่ ซัดติดเอ็มโบลี ลูกเด้งมาเข้าทางเมซุต โอซิล ยิงซ้ำไม่พลาด
ประตูชัย - อังเคล ดิ มาเรีย กองกลางอาร์เจนตินาซัดประตูชัยผ่านมือดิเอโก้ เบนาโญ่ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ นาทีที่ 117 ช่วยให้อาร์เจนตินาเฉือนชนะ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบหืดจับ |
ทว่าก่อนหมดเวลา จิ้งจอกทะเลทรายยังมีลูกฮึดมาได้ประตูปลอบใจจาก อับเดล มูเมน ฌาบู ตัวสำรอง จบการแข่งขันเยอรมนี เอาชนะแอลจีเรีย 2-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับฝรั่งเศส
'เลิฟ'ไม่ปลื้มฟอร์มลูกทีม
ด้านโยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน ให้สัมภาษณ์ผิดหวังฟอร์มการเล่นของลูกทีมโดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลังก็มีโอกาสมากกว่าน่าปิดเกมได้ แต่ทำไม่สำเร็จจนต้องยืดเยื้อสู้จนถึง 120 นาที ก่อนเฉือนชนะแอลจีเรีย 2-1
เลิฟกล่าวหลังเกมว่า "นี่เป็นชัยชนะที่ ได้มาจากความแกร่งที่เรามี โดยครึ่งแรกเล่นได้แย่มาก เราเสียบอลบ่อยเกินไป เหมือนเป็นการเชื้อเชิญแอลจีเรียให้ทำเกมสวนกลับใส่ ส่วนในครึ่งหลังและช่วงต่อเวลาพิเศษเราเป็นทีมที่ดีกว่าและมีโอกาสมากกว่า แต่น่าปิดเกมได้ตั้งแต่ครึ่งหลัง การส่งซามี่ เคดิร่า และอังเดร ชูร์เล่ ลงสนามช่วยทำให้เกมของทีมดีขึ้น"
พร้อมกันนี้ เลิฟยังเผยข่าวร้ายว่า ชโคดราน มุสตาฟี่ แบ๊กขวาของทีมน่าจะหมดสิทธิ์ลงสนามช่วยทีมตลอดช่วงที่เหลืออยู่ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าระหว่างเกม ขณะที่บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางน่าจะฟิตทันเกมรอบก่อนรองชนะเลิศพบกับฝรั่งเศส แม้มีปัญหาจนโดนเปลี่ยนออกช่วงต่อเวลาพิเศษ
"มุสตาฟี่ทำได้เยี่ยม แต่โชคร้ายเขามีอาการกล้ามเนื้อกระตุก และไม่คิดว่าเขาจะลงเล่นได้อีกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ส่วนชไวนี่ โดนแค่ตะคริวเล่นงานช่วงท้าย และไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด" เลิฟกล่าวเสริม
กระตุ้นแข้งอินทรีชนฝรั่งเศส
โค้ชแข้งเบียร์ยังกระตุ้นลูกทีมต้องแก้ไขปรับปรุงฟอร์ม เพื่อเตรียมเผชิญหน้ากับฝรั่งเศสรอบต่อไป โดยถือการโคจรมาพบกันอีกครั้งหลังเคยสร้างแมตช์คลาสสิคในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1982 ซึ่งเสมอกันในเวลา 3-3 ก่อนอินทรีเหล็กที่ลงแข่งในนามเยอรมันตะวันตกเอาชนะในการดวลจุดโทษ 5-4
เลิฟ กล่าวถึงเกมพบตราไก่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายวันที่ 4 ก.ค. นี้ว่า "เราต้องทำผลงานให้ดีกว่านี้ในการเจอกับฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากพูดถึงเกมเมื่อปี 1982 แต่นั่นถือเป็นแมตช์คลาสสิคระหว่างทั้งสองทีม ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เปลี่ยนแปลงทีมนับตั้งแต่เข้ามาคุมทัพเมื่อปี 2010 เขามีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งคาริม เบนเซม่า และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่สามารถตัดสินเกมได้ ผมเชื่อว่าจะเป็นเกมที่สนุกและเป็นแมตช์คลาสสิคอีกครั้ง"
ด้านอังเดร ชูร์เล่ ที่ยิงประตูปลดล็อกให้เยอรมนีช่วงต่อเวลาพิเศษกล่าวว่า เราต้องการ ชนะให้ได้ใน 90 นาที แต่แอลจีเรียทำได้ดีมาก พวกเขากดดันใส่เราตั้งแต่ต้นเกม ผมทำประตูได้ในลักษณะเดียวกับเกมอุ่นเครื่องที่ไมซ์เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ดังนั้นผมจึงสามารถทำได้อีก แต่ก็ต้องอาศัยโชคเล็กน้อยด้วย เรามีโอกาสมากมายในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของช่วงเวลาปกติ ทว่าพลาดหมด แต่ตอนนี้เราผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว เราต้องผ่อนคลายแล้วค่อยเตรียมพร้อมเจอฝรั่งเศส
ซัวเรซขอโทษกัดนักเตะอิตาลี
ขณะที่หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมกัด ของทีมชาติอุรุกวัยที่โดนฟีฟ่าลงโทษห้ามลงสนามรับใช้ชาติ 9 นัด และห้ามเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลทั่วโลก 4 เดือน รวมทั้งปรับเงินอีก 100,000 ฟรังก์สวิส จากคดีกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายกลุ่มดี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา และก่อนหน้า ซัวเรซออกมาแก้ต่างว่าเป็นอุบัติเหตุลื่นล้มจนฟันไปโดนไล่คู่แข่ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เจ้าตัวสำนึกผิดออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์และ เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ขอโทษ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ คู่กรณีที่โดนกัด พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำตัวให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
แข้งวัย 27 ปี ที่เดินทางกลับไปพักผ่อนกับครอบครัวที่บ้านเกิด โพสต์ข้อความระบุว่า "หลังจากกลับไปพักผ่อนที่บ้านอยู่กับครอบครัวตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้จิตใจสงบขึ้น ผมมีโอกาสได้คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. และนั่นคือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ได้รับบาดเจ็บจากการ ถูกกัดในจังหวะปะทะกับผม ซึ่งผมรู้สึกผิด กับสิ่งที่ทำลงไป และเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมต้องขอโทษ คิเอลลินี่, วงการฟุตบอล และขอให้คำมั่นสัญญาต่อสาธารณชนว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้อีก"
ส่วนคิเอลลินี่ก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหวังว่าฟีฟ่าจะยอมลดโทษแบนให้กับคู่กรณี "ผมลืมไปหมดแล้วล่ะ และหวังว่าฟีฟ่า จะลดโทษแบนให้คุณ"
ฟีฟ่าไม่ลงโทษ'ร็อบเบน'
ขณะเดียวกันสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ออกแถลงไม่มีมาตรการลงโทษย้อนหลังเล่นงาน อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจอมเก๋าทีมชาติฮอลแลนด์หลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนักจากกรณีพุ่งล้มเรียกจุดโทษเกมที่ 'อัศวินสีส้ม'เฉือนชนะ เม็กซิโก 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังตอนแรกมีข่าวว่าฟีฟ่า อาจนำวิดีโอเทปไปตรวจสอบ เนื่องจากนักเตะยอมรับว่ามีพุ่งล้มระหว่างเกม ซึ่งอาจโดนลงโทษฐานทำผิดกฎแฟร์เพลย์ได้
แต่ล่าสุด เดลีย ฟิชเชอร์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชนของฟีฟ่า ระบุว่า เราไม่ได้รับรายงานจากผู้ตัดสินถึงเรื่องการเล่นที่ผิดกติกาจากเจ้าหน้าที่และผู้ตัดสินที่อยู่ในสนามเกมระหว่างฮอลแลนด์กับเม็กซิโก จึงไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อไป
'ลีซอ'เผยโคลัมเบียมาแรง
ส่วนความคิดเห็นของซูเปอร์สตาร์นักเตะ ไทยถึงเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายและโอกาสของทีมที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้'ลีซอ' ธีรเทพ วิโนทัย ศูนย์หน้าป้ายแดงแห่งทีม 'เดอะโปลิศ'สโมสรเพื่อนตำรวจ ทีมจาก ศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า ปีนี้ทุกทีมที่ผ่านเข้ามาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก เช่น โคลัมเบีย และคอสตาริกา ที่เป็นทีมม้ามืดจริงๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วทั้ง 2 ทีมมีสไตล์การเล่นที่เป็นระบบ มีทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นทั้งสองทีมดี จึงทำให้รูปเกมดูสนุก โดยเฉพาะคอสตาริกาเป็นทีมที่ใจสู้ จึงน่าลุ้นติดตามไม่น้อย
หัวหอกทีมชาติไทยกล่าวต่อว่า ถ้าให้ทายว่าทีมใดจะได้แชมป์โลก ก่อนหน้านี้เชื่อว่าบราซิลจะได้เป็นแชมป์ เพราะได้เล่นในบ้านมีกำลังใจเยอะ แต่บราซิลก็มีกองหน้าที่คม ไม่พอ ถ้าขาดเนย์มาร์ไปสักคน ประสิทธิภาพเกมรุกคงเทียบชั้นทีมอื่นไม่ได้ ตอนนี้จึงขอทายให้ทีมโคลัมเบียเป็นแชมป์โลก เพราะจากรูปเกมที่รวดเร็วและเหนือกว่าจากเกมนัดล่าสุด ที่เพิ่งชนะอุรุกวัย 2-0 ในรอบ 16 ทีม จึงคาดว่าปีนี้โคลัมเบียจะได้เป็นแชมป์
แข้งสาวไทยเชื่อแซมบ้าลิ่วชิง
ด้าน 'จ๊อบ' ณภัทร สีเสริม นักบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดสร้างประวัติศาสตร์วงการลูกหนังไทยผ่านเข้าเตะรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหญิงที่ประเทศแคนาดา กลางปี 2015 เผยว่า ศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้มีโอกาสได้ดูบางคู่ โดยเฉพาะทีมชาติบราซิล ติดตามเชียร์มานานแล้ว เพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และยังมั่นใจว่าบราซิลจะทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แม้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บราซิลต้องเตะถึง 120 นาที ก่อนชนะจุดโทษชิลี แต่เชื่อว่าหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ เฮดโค้ช และบรรดานักเตะจะนำเอาข้อผิดพลาดมาแก้ไขปรับปรุงในนัดที่จะดวลแข้งกับโคลัมเบีย
"ยอมรับว่าช่วงเวลานี้โคลัมเบียถือว่าแข็งแกร่งมาก เล่นกันได้ดี แนวรับแน่น แผงกองกลางและกองหน้าประสานงานได้เยี่ยม โดยเฉพาะ เจมส์ โรดริเกซ ดาวซัลโวขณะนี้ ดังนั้นบราซิลต้องทำการบ้านให้ดี แต่สุดท้ายมั่นใจว่าบราซิลจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้และเข้าไปตัดกับฝรั่งเศสหรือเยอรมัน ซึ่งถือว่าเป็นคู่ตัดเชือกที่น่าดูแน่นอน" "จ๊อบ" ณภัทรกล่าว
ดาวยิงสาวไทยชี้บราซิลแชมป์
ส่วน "กัปตันแอน"ดวงนภา ศรีตะลา กัปตันฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดไปฟุตบอลโลก 2015 เผยว่า ส่วนตัวชื่นชอบบราซิลและติดตามข่าวอยู่เสมอ โดยคิดว่าบราซิลยังเล่นได้ไม่เข้าฟอร์มและยังมีติดขัดบ้าง แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วด้วยศักยภาพโดยรวม และความเป็นเจ้าภาพจะทำให้บราซิลก้าวถึงแชมป์โลกได้
กัปตันแอนเผยอีกว่า นอกจากทีมชาติบราซิลแล้ว คิดว่าทีมอื่นๆ ที่เป็นตัวเต็งใน การคว้าแชมป์มีฮอลแลนด์และเยอรมนี แต่ตอนนี้ทีมม้ามืดหลายทีมมาแรง โดยเฉพาะคอสตาริกา ซึ่งคิดว่ามีโอกาสสอดแทรกถึงรอบรองชนะเลิศได้
ขณะที่ "เนตร"กาญจนา สังข์เงิน ศูนย์หน้าตัวความหวังของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า จากที่ติดตามดูฟุตบอลโลกปีนี้มาตรฐานไม่ต่างกันมาก ทีมเล็กทีมใหญ่สามารถแพ้ชนะกันได้หมด ตรงนี้แอบเสียดายแทนสเปนที่พลิกตกรอบแรก เพราะเชียร์สเปน อย่างไรก็ตามในเมื่อสเปนตกรอบไปแล้ว จึงขอหันมาเชียร์เยอรมัน เพราะเป็นทีมที่มีระบบดีทีมหนึ่ง แต่ปีนี้ม้ามืดอย่างคอสตาริกานั้นน่ากลัวมาก ซึ่งแอบลุ้นให้คอสตาริกาเข้ารอบลึกๆ ด้วย ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ คิดว่าทีมที่จะเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศคงเป็นทีมใหญ่ๆ อย่าง บราซิล เยอรมันและอาร์เจนตินา