WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8616 ข่าวสดรายวัน


ร็อบเบนโต้พุ่งล้ม เมสซี่ลุย นำอาร์เจนบู๊สวิส 
อีกคู่เบลเยียมฟาดแข้งสหรัฐ คอสตาริกาฉลองใหญ่ทั้งปท. ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม-เจอ'กังหัน'กสทช.บี้อาร์เอส-ถ่ายทุกนัด


จุดโทษ - อาร์เยน ร็อบเบน กองหน้าฮอลแลนด์ ถูกผู้เล่นเม็กซิโกสกัดล้มในเขตโทษ ทำให้ทีมได้จุดโทษและเป็นประตูชัยช่วงทดเจ็บ ช่วยให้ฮอลแลนด์พลิกแซงชนะ 2-1 ในศึกฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีม

คืนนี้ห้ามพลาด "เมสซี่" นำทัพฟ้าขาวลงบู๊สวิส ชิงตั๋วเข้ารอบ 8 ทีม แต่อาร์เจนฯ ไร้ "อเกโร่" ที่บาดเจ็บอีกคู่ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป"เบลเยียม ลงฟาดแข้งกับ "พญาอินทรี"สหรัฐ ส่วนควันหลง คู่ฮอลแลนด์เฉือนชนะจิงโก้ "ร็อบเบน" ออกโรงโต้พุ่งล้มลูกจุดโทษ แต่รับจังหวะอื่นก่อนหน้าพยายามพุ่งล้มมากเกินไป กุนซือ-นักเตะจังโก้รุมจวกปีกกังหันยับ อีกคู่ "กล้วยหอม"คอสตาริกา แม่นโทษชนะ "แข้งเทพ นิยาย"กรีซ สร้างประวัติศาสตร์ลิ่วรอบ 8 ทีมหนแรก ทั่วประเทศฉลองยิ่งใหญ่ ด้าน กสทช.บี้อาร์เอสเคลียร์ปมไม่ถ่ายบอล 2 คู่ ยันหลังจากนี้ฟรีทีวีได้ดูทุกคู่แน่

"เมสซี่"นำทัพฟ้าขาวบู๊สวิส 

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2014 ที่ประเทศบราซิล ประจำคืนวันที่ 1 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย เป็นเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่เตะเวลา 23.00 น. ที่สนามอารีน่า เดอ เซา เปาโล เมืองเซา เปาโล "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา จากโซนอเมริกาใต้ เจอกับ "แดนนาฬิกา" สวิตเซอร์แลนด์ จากโซนยุโรป

ฟ้าขาวผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มเอฟ โดยชนะบอสเนีย 2-1 ชนะอิหร่าน 1-0 ชนะไนจีเรีย 3-2 เก็บไป 9 แต้มเต็มจาก 3 นัด ขณะที่แดนนาฬิกาเป็นรองแชมป์กลุ่มอี ทำผลงานชนะเอกวาดอร์ 2-1 แพ้ฝรั่งเศส 2-5 ชนะฮอนดูรัส 3-0 มี 6 แต้มจาก 3 นัด

ความพร้อมก่อนลงสนาม ฟ้าขาวจะไม่มี เซอร์คิโอ อเกโร่ ที่บาดเจ็บ คาดจัดทัพ 4-3-3 เซอร์จิโอ โรเมโร่ เป็นผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย พาโบล ซาบาเลต้า, เอเซเกล การาย, เฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ, มาร์กอส โรโฮ กองกลางใช้ เฟอร์นันโด กาโก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อังเคล ดิ มาเรีย ส่วนแดนหน้าจะเป็นการประสานงานกันระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกัวอิน, เอเซเกล ลาเวซซี่

ด้านแดนนาฬิกาไม่มี สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น, มาริโอ กาฟราโนวิช ที่บาดเจ็บต้องบินกลับไปรักษาตัวทั้งคู่ คาดใช้แผน 4-2-3-1 ดิเอโก้ เบนาโญ่ ลงเฝ้าเสา กองหลังใช้ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์, โยฮัน ฌูรู, ฟาเบียน ชาร์, ริคาร์โด้ โรดริเกซ คู่กลางรับ โกคาน อินแลร์ ประสานงานกับ วาลอน เบห์รามี่ กลางรุกมี กรานิต ชาก้า, เซอร์ดาน ชาคิรี่, อัดเมียร์ เมห์เมดี้ โดยมี โจซิป เดอร์มิช รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า

คู่นี้เคยเจอกันมา 6 ครั้ง อาร์เจนตินาเหนือกว่าชนะ 4 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง การเจอกันหนล่าสุดเกิดขึ้นในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2012 สวิตเซอร์แลนด์พ่ายคาบ้าน 1-3

เบลเยียมฟาดแข้งสหรัฐ

ส่วนคู่เตะเวลา 03.00 น. หลังเที่ยงคืนวันที่ 1 ก.ค. ที่สนามอารีน่า ฟอนเต้ โนวา เมืองซัลวาดอร์ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม จากโซนยุโรป พบกับ "พญาอินทรี" สหรัฐ อเมริกา จากโซนคอนคาเคฟ

เบลเยียมผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มเอช ทำผลงานชนะแอลจีเรีย 2-1 ชนะรัสเซีย 1-0 ชนะเกาหลีใต้ 1-0 เก็บไป 9 แต้มเต็มจาก 3 นัด ขณะที่สหรัฐได้รองแชมป์กลุ่มจี ทำผลงานชนะกานา 2-1 เสมอโปรตุเกส 2-2 แพ้เยอรมนี 0-1 เก็บไป 4 แต้มจาก 3 นัด

ความพร้อมก่อนลงสนาม เบลเยียมจะไม่มี อ็องโธนี่ ฟานเดน บอร์ ที่บาดเจ็บจนต้องบอกลาฟุตบอลโลกหนนี้แน่นอนแล้ว รวมถึงสตีเฟ่น เดฟูร์ ที่ติดโทษแบนและต้องเช็กความฟิตแว็งซ็องต์ กอมปานี, โธมัส แฟร์มาเลน โดยวางหมาก 4-2-3-1 ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ลงเฝ้าเสา กองหลังมี โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, นิโกลาส์ ลอมแบร์ตส์, แยน แฟร์ตองเก้น คู่กลางรับ อาเซล วิตเซล ประสานงานกับ มารูยาน เฟลไลนี่ กลางรุกประกอบด้วย ดริส เมอร์เทนส์, เควิน เด บรุยน์, เอเดน ฮาซาร์ด โดยมี โรเมลู ลูคาคู เป็นศูนย์หน้าตัวเดียว

ด้านพญาอินทรีต้องรอเช็กความฟิต โจซี่ อัลติดอร์ โดยวางหมาก 4-4-1-1 ทิม ฮาวเวิร์ด ลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฟาเบียน จอห์นสัน, เจฟฟ์ คาเมรอน, แมตต์ เบสเลอร์, ดามาร์คัส บีสลีย์ กองกลางมี อเลฮานโดร เบโดยา, ไคล์ เบกเกอร์แมน, เจอร์เมน โจนส์, เกรแฮม ซูซี่ ส่วนในแดนหน้า ไมเคิล แบรดลีย์ จะเป็นหน้าต่ำคอยหนุนหัวหอกอย่าง คลินต์ เดมพ์ซีย์

คู่นี้เคยเจอกันมา 5 ครั้ง เบลเยียมเหนือกว่าชนะ 4 ครั้ง สหรัฐอเมริกาชนะ 1 ครั้ง โดยเจอกันหนล่าสุดในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2013 สหรัฐอเมริกาพ่ายคารัง 2-4

"อัศวินสีส้ม"เตะชี้ชะตาเม็กซิโก

ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ สนามเอสตาดิโอ คาสเตเลา "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ แชมป์กลุ่มบี ลงสนามพบกับ "จังโก้" เม็กซิโก รองแชมป์กลุ่มเอ เกมนี้ฮอลแลนด์ได้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้ากัปตันทีมพ้นโทษแบนกลับมาประสานงานกับอาร์เยน ร็อบเบน ขณะที่เดิร์ก เคาต์ ลงเล่นให้ทีมชาตินัดที่ 100 ส่วนเม็กซิโกยังใช้โอริเบ เปรัลต้า กับโจวานนี่ ดอส ซานโต๊ส ในแนวรุก 

เปิดฉาก 5 นาทีเม็กซิโกทักทายก่อนจาก มิเกล ลายุน เลี้ยงบอลขึ้นมาแล้วซัดด้วยขวานอกเขตโทษแต่บอลหลุดออกข้างไป เกมผ่านไปเพียงนาทีที่ 8 ฮอลแลนด์ต้อง เปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อไนเจล เดอ ยอง กองกลางตัวตัดเกมคนสำคัญบาดเจ็บต้องส่งบรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ลงมาแทน


ตราไก่ลิ่ว-พอล ป๊อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสกระโดดขึ้นโหม่งบอลลอยเข้าประตู ช่วยให้ทีมขึ้นนำไนจีเรียก่อน1-0 จบเกม 90 นาทีชนะ 2-0 ผ่านเข้ารอบ8ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ที่สนามในกรุงบราซิเลีย

จากนั้นเป็นฝั่งจังโก้ที่บุกมากกว่าและเกือบได้ประตูขึ้นนำนาที 17 จากจังหวะต่อบอลขึ้นมาทางฝั่งขวา โอริเบ เปรัลต้า จ่ายเข้ากลางให้เฮ็กเตอร์ เฮอร์เรร่า ล็อกเข้าขวาแล้วยิงจ่อๆ แต่บอลเรียดเฉียดเสาออกไป ต่อมานาทีที่ 24 เม็กซิโกมีลุ้นอีกครั้ง คาร์ลอส ซัลซิโด ยิงนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งหาประตูเต็มแรง แต่แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น พุ่งเซฟได้ทัน

เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมให้นักเตะทั้งสองทีมออกมาหยุดพักดื่มน้ำ เนื่องจากอากาศร้อนจัดอุณหภูมิพุ่งสูง 39 องศาฯ จากนั้นทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันครึ่งแรก 0-0

ฮอลแลนด์เฮ-เฉือนชนะทดเจ็บ 

เข้าสู่ครึ่งหลังเม็กซิโก เปลี่ยนเฮ็กเตอร์ โมเรโน่ ที่มีอาการบาดเจ็บออกและส่งดิเอโก้ เรเยส ลงมาแทน และผ่านไปเพียง 2 นาที ทีมจังโก้ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสาดบอลยาวขึ้นหน้า รอน ฟลาร์ โดดโขกสกัดบอลไปเข้าทางโจวานนี่ ดอส ซานโต๊ส พักบอลลงพื้นแตะหนีดาลีย์ บลินด์ ก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายผ่านมือซิลเลสเซนตุงตาข่าย

จากนั้นฮอลแลนด์บุกหนักหวังทวงประตูตีเสมอ แต่บอลกับหลุดออกนอกกรอบ และไม่ผ่านมือกีเยร์โม่ โอชัว ผู้รักษาประตูเม็กซิโกที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบ ก่อน ผู้ตัดสินจะเป่าหยุดพักอีกครั้งในนาที 15 เนื่องจากอากาศในสนามยังร้อนจัด ขณะที่หลุยส์ ฟานกัล กุนซือทีมฮอลแลนด์แก้เกมส่งคลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ลงแทนฟาน เพอร์ซี่ ส่วนมิเกล เฮอร์เรร่า นายใหญ่เม็กซิโกก็เปลี่ยนชิชาริโต้ไปแทนเปรัลต้า

โดยฮอลแลนด์ยังบุกหนักเช่นเดิมและมาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จนาทีที่ 88 จากจังหวะเตะมุมร็อบเบนเปิดไปหน้าประตู ฮุนเตลาร์โขกตั้งให้สไนจ์เดอร์ ยิงเต็มข้อบอลพุ่งตุงตาข่าย และช่วงทดเวลานาที 92 สถานการณ์พลิกอีกตลบเมื่ออัศวินสีส้มมาได้จุดโทษ หลังร็อบเบนลากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนโดนราฟาเอล มาร์เกซ เกี่ยวขาล้ม มาร์เกซพยายามประท้วงว่าร็อบเบนพุ่ง แต่ไม่เป็นผลและโดนแจกใบเหลือง รวมถึง อันเดรส กวาร์ดาโด้ ที่เข้าไปต่อว่ากรรมการชาวโปรตุกีส

ก่อนฮุนเตลาร์รับหน้าที่สังหารเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาดโดยโอชัวพุ่งผิดทาง จบเกมฮอลแลนด์พลิกแซงชนะ เม็กซิโก 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบระทึกใจ ส่วนพลพรรคจังโก้น้ำตาตกต้องจอดป้ายรอบ 16 ทีมเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน 

กุนซือจังโก้จวกปีกกังหันพุ่งล้ม

หลังเกมการแข่งขัน มิเกล เฮอร์เรร่า ผู้จัดการทีมเม็กซิโกไม่พอใจการทำหน้าที่ของเปโดร โปรเอ็นก้า ผู้ตัดสินชาวโปรตุเกส เป็นเหตุให้ทีมต้องกระเด็นตกรอบ หลังเป่าให้ฮอลแลนด์ได้จุดโทษให้ช่วงทดเวลา ทั้งที่อาร์เยน ร็อบเบนเจตนาพุ่งล้มแบบชัดเจน และร็อบเบนก็พยายามพุ่งตบตากรรมการเกือบตลอดทั้งเกมแต่กลับไม่โดนลงโทษ 

เฮอร์เรร่ากล่าวว่า "เหตุผลที่เราตกรอบคือผู้ตัดสิน เขาทำให้เราไม่ได้ไปต่อ ผมยอมรับว่าลูกตีเสมอมาจากความผิดพลาดของเราเอง แต่ถ้าผู้ตัดสินเริ่มเป่าให้คู่แข่งได้ฟาวล์หลังจากนั้น นั่นคือการส่งคุณออกจากฟุตบอลโลก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมฟีฟ่าถึงเลือกผู้ตัดสินจากทวีปเดียวกับฮอลแลนด์ แทนที่จะเป็นจากทวีปอเมริกาใต้, เอเชีย หรือแอฟริกา"

กุนซือเม็กซิโกยังวิจารณ์ร็อบเบนอีกว่า ร็อบเบนพุ่งล้มถึง 3 ครั้งในเกมนี้ และ ผู้ตัดสินควรให้ใบเหลืองในครั้งแรก รวมทั้งควรระมัดระวังว่านักเตะคนนี้กำลังพยายามตบตาผู้ตัดสิน 

ด้านราฟาเอล มาร์เกซ กัปตันทีมจังโก้ ออกมาเผยว่า ได้เข้าไปคุยกับร็อบเบนหลังจบเกม ซึ่งปีกจอมเก๋าชาวดัตช์บอกกับตน ว่าจังหวะนั้นไม่ใช่จุดโทษ และบอกอีกว่า การฟาวล์ครั้งแรกควรเป็นจุดโทษ แต่ช่วงทดเวลาไม่ใช่

"ร็อบเบน"ชี้เป็นจุดโทษชัดเจน

ขณะที่อาร์เยน ร็อบเบน ออกมากล่าวขอโทษที่พยายามพุ่งล้มมากเกินไประหว่างเกม แต่ยืนยันจังหวะได้จุดโทษนั้นผู้ตัดสินทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว เพราะโดนทำฟาวล์

"ผมต้องขอโทษด้วย จังหวะช่วงท้ายเกมเป็นจุดโทษอย่างชัดเจนก็จริง แต่ในครึ่งแรกมีจังหวะที่ผมพุ่งล้ม ผมไม่ควรทำอย่างนั้นเลย" ดาวเตะวัย 30 ปีกล่าว

สำหรับร็อบเบนมีการเปิดเผยสถิติว่า ตลอด 14 นัดในการเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และฟุตบอลโลก สามารถเรียกจุดโทษได้ทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกัน 

ส่วนหลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมอัศวิน สีส้ม ระบุใช้ช่วงเวลาการหยุดพักเบรกดื่มน้ำกลางแมตช์เปลี่ยนแท็กติกการเล่นคือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะได้ในช่วงท้ายเกม

"ผมใช้โอกาสช่วงพักเบรกตอนแรกเปลี่ยนแผนการเล่นมาเป็น 4-3-3 และนั่นก็ทำให้ทีมสร้างสรรค์โอกาสทำประตูมากขึ้น แล้วจากนั้นก็มาใช้แผนบี เรารู้ว่าจะมีช่วง พักเบรก เราซ้อมมาสำหรับสถานการณ์นี้ ด้วยการใช้ฮุนเตลาร์ และเดิร์ก เคาต์ เป็นกองหน้าคู่กัน แล้วก็ใช้วิธีโดนบอลยาวเข้าไป ถือเป็นการตัดสินใจที่ดี" ฟานกัลกล่าวและว่า ส่วนอาการบาดเจ็บของไนเจล เดอ ยอง กองกลาง จะพลาดลงสนามช่วยทีมในรอบก่อนรองชนะเลิศกับคอสตาริกา เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บขาหนีบ และอาจหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดช่วงที่เหลือในฟุตบอลโลกครั้งนี้


เสียบเสา - ไบรอัน รูอิซ กัปตันทีมคอสตาริกา แปบอลเสียบเสาให้ทีมขึ้นนำกรีซ 1-0 จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 120 นาที ก่อนจบที่การดวลจุดโทษ คอสตาริกาเป็นฝ่ายชนะ 5-3 ได้เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

ด้าน คลาส แยน ฮุนเตลาร์ กองหน้า ซูเปอร์ซับกล่าวว่า มีความสุขที่มีโอกาสได้ลงสนามช่วยชาติ แถมยังยิงจุดโทษนำทัพอัศวินสีส้มผ่านเข้ารอบ โดยอาร์เยน ร็อบเบน เดินเข้ามาหาและถามว่าอยากยิงไหม จึงหยิบบอลมาและจัดการยิงเข้าเสียบมุมเสาเข้าไป

ฟีฟ่าจ่อฟันร็อบเบนพุ่งล้ม

สำนักข่าวบีบีซี สปอร์ต ของอังกฤษ รายงานว่า อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก๋าฮอลแลนด์มีสิทธิ์โดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ลงโทษย้อนหลังได้ จากกรณีที่นักเตะออกมายอมรับว่า พุ่งล้มระหว่างเกมฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ทีมอัศวินสีส้มพลิกแซงชนะเม็กซิโก 2-1 

ฟีฟ่าระบุว่า สามารถลงโทษนักเตะที่ละเมิด กฎแฟร์เพลย์ โดยให้คณะกรรมการฝ่ายระเบียบวินัย เข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่ผู้ตัดสินในเกมไม่ได้ลงโทษผู้เล่นที่กระทำผิด

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการลงโทษย้อนหลังกับนักเตะที่เจตนาพุ่งล้ม แกล้งเจ็บและถ่วงเวลา โดยให้นำวิดีโอเทปมาตรวจสอบ

"คอสตาริกา"ดวลกรีซ

อีกคู่ที่สนามอารีน่า เปร์นัมบูโก้ เมือง เรซิเฟ่ "กล้วยหอม"คอสตาริกา แชมป์กลุ่ม ดี พบกับ แข้ง "เทพนิยาย"กรีซ รองแชมป์กลุ่มซีเกมนี้ ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ กุนซือคอสตาริกาวาง เชลโซ่ บอร์เกส คุมแดนกลางร่วมกับเยลต์ซิน เตเฮด้า ส่วนริมเส้นสองฝั่งใช้ไบรอัน รูอิซ กับคริสเตียน โบลานอส โดยมีโจเอล แคมป์เบลล์ เป็นกองหน้าตัวเป้า ด้านเฟอร์นันโด ซานโต๊ส นายใหญ่ของกรีซส่งจอร์จอส คารากูนิส คุมแดนกลางโดยมีดิมิทริส ซัลปินจิดิส และจอร์จอส ซามาราส เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก

เริ่มเกมครึ่งแรกนาที 7 คอสตาริกาได้ลุ้นก่อนเมื่อไบรอัน รูอิซ ไหลเข้าเขตโทษทางซ้ายให้คริสเตียน โบลานอส กดด้วยซ้ายเต็มข้อแต่บอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น ถัดมา 4 นาทีกรีซ ได้ลองบ้างเมื่อ ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลหลุดกรอบไป 

จากนั้นนาที 37 กรีซน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อ โฮเซ่ โฮเลบาส เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสอง และเป็นดิมิทริส ซัลปินจิดิส สอดเข้ามายิงแต่เคย์เลอร์ นาบาส นายด่านคอสตาริกาใช้ขาเซฟออกหลังไปได้ จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

กล้วยหอมแม่นโทษ-ลิ่วชนกังหัน

เริ่มเกมครึ่งหลังถึงนาที 52 คอสตาริกาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะคริสเตียน โบลานอส เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาหน้าเขตโทษและเป็นไบรอัน รูอิซ แปเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ต่อมาต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในนาที 65 เมื่อออสการ์ ดูอาร์เต้ ที่มี ใบเหลืองติดตัวช่วงครึ่งแรกไปทำฟาวล์ใส่ โฮเซ่ โฮเลบาส ทำให้โดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

หลังจากนั้นกรีซพยายามบุกเพื่อทวงคืนก่อนมาทำสำเร็จในช่วงทดเวลาจากจังหวะ ที่ดิมิทริส ซัลปินจิดิส ได้ยิงในเขตโทษ เคย์เลอร์ นาวาส นายทวารคอสตาริกาปัดบอลออกมาเข้าทางโซคราติส ปาปาสตาโตปูลอส ซ้ำเข้าไปไม่เหลือ ทำให้เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

กลับมาเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นกรีซ อาศัยความได้เปรียบตัวผู้เล่นบุกใส่คอสตา ริกาอย่างหนัก แต่ทำอะไรกันไม่ได้จบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการ ยิง จุดโทษ ซึ่งในช่วงก่อนเริ่มต้นยิง เฟอร์นัน โด ซานโต๊ส กุนซือกรีซโดนไล่ออกจากสนามด้วย

เข้าสู่ช่วงยิงจุดโทษ เป็นคอสตาริกายิงก่อนโดย 3 คนแรกของทั้งสองทีม เซลโซ่ บอร์เกส, ไบรอัน รูอิซ และจานคาร์โล กอนซาเลซ ของทีมกล้วยหอม และคอสตาส มิโตรกลู, ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส และโฮเซ่ โฮเลบาส ของกรีซยังไม่พลาดเสมอกัน 3-3

จากนั้นคนที่ 4 โจเอล แคมป์เบลล์ ของคอสตาริกา ยิงให้ทีมขึ้นนำ 4-3 แต่กรีซตีเสมอไม่สำเร็จเมื่อธีโอฟานิส เกคาส คนที่ 4 ซัดไปติดเซฟนาบาส ก่อนไมเคิล อูมานญ่า ลงมายิงให้คอสตาริกาเอาชนะไป 5-3 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นทีมที่ 4 และเป็นการเข้าถึงรอบนี้หนแรกในประวัติ ศาสตร์อีกด้วย โดยพบกับฮอลแลนด์ วันที่ 5 ก.ค. เวลา 03.00 น. (เช้าวันที่ 6 ก.ค. ตามเวลาไทย)

สร้างประวัติศาสตร์เข้า 8 ทีม

หลังการแข่งขัน ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ กุนซือทีมชาติคอสตาริกาชื่นชมสปิริตลูกทีม พร้อมเผยซ้อมยิงจุดโทษมาเป็นอย่างดี ทำให้ยิงเข้าทุกคนก่อนเอาชนะจุดโทษกรีซ 5-3 

ปินโต้กล่าวว่า เราซ้อมจุดโทษมาก่อนหน้านี้และศึกษาตำแหน่งการยิงมาเป็นอย่างดี นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงยิงเข้า 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นแมตช์ที่ดราม่าและยากมากๆ มีช่วงเวลาที่คุมเกมได้เหนือกว่าและบางช่วงคู่แข่งทำได้ดีกว่า แต่เราก็แข็งแกร่งและผ่านมาได้ ต้องยกเครดิตให้นักเตะถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับทีมและทั้งประเทศ พวกเราภูมิใจมาก ชัยชนะนัดนี้ขอมอบให้ชาวคอสตาริกาทุกคน เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์และพร้อมจะสู้ต่อไป โดยต้องเจอกับฮอลแลนด์แต่ก็มีความสุขที่ได้เผชิญหน้ากัน

ส่วนชาวคอสตาริกาต่างออกมาพาเหรดแห่ออกมาฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ตามถนนสายต่างๆ ในซานโฮเซ่ เมืองหลวงของประเทศ ตลอดค่ำคืนวันที่ 29 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น หลังทีมเล็กจากโซนคอนคาเคฟที่มีประชากรราว 4.5 ล้านคน สร้างประวัติ ศาสตร์กระหึ่มวงการลูกหนังโลก ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นครั้งแรก โดยมีแฟนบอลหลายหมื่นคนรวมตัวกันดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านจอยักษ์ใจกลางเมืองหลวง 

โค้ชกรีซรับทีมไม่เฉียบคม

ขณะที่เฟอร์นันโด ซานโต๊ส โค้ชกรีซระบุทีมอ่อนล้า ทำให้ขาดความเฉียบคมในจังหวะปิดสกอร์ช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น จึงยิงประตูชัยไม่ได้ ต้องไปลุ้นดวลจุดโทษ ซึ่งตนไม่อยากโทษว่าขาดโชค ต้องชม เคย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูของคอสตาริกา ทำได้เยี่ยมมาก หากไม่มีเขา ผลการแข่งขันที่ออกมาอาจแตกต่างและเป็นช่วงเวลาที่เศร้ามาก หลังเห็นผู้เล่นคนที่ 5 ของคอสตาริกายิงจุดโทษเข้าไป เพราะเราต้องการไปต่อที่ซัลวาดอร์ 

ซานโต๊สยังเผยอีกว่า ไม่เข้าใจทำไมตนโดนผู้ตัดสินไล่ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ช่วงก่อนยิงจุดโทษ ทั้งที่เข้าไปพูดจาแบบธรรมดากับเชิ้ตดำ ระหว่างเดินเข้าไปให้กำลังใจลูกทีมในสนาม คอสตาริกาเองก็ทำแบบเดียวกันแต่กลับไม่โดนลงโทษ

ด้านจอร์จอส คารากูนิส กัปตันทีมวัย 37 ปี ตัดสินใจเลิกรับใช้ชาติแล้วหลังตกรอบ เพื่อเปิดทางให้กับผู้เล่นรุ่นใหม่ก้าวขึ้น โดยระบุว่านี่เป็นเกมสุดท้ายของผมกับกรีซ พวกเราหวังจะได้อยู่ที่บราซิลต่ออีก 1 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยก็นานกว่านี้ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว

กสทช.ยันถ่ายสดฟรีทีวีทุกคู่แน่

วันเดียวกัน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขา ธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ทำผิดเงื่อนไขด้วยการไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลรอบ 16 ทีมบางคู่ว่า ยืนยันคืนนี้ประชาชนจะได้รับชมการถ่ายทอดฟุตบอล คู่ฝรั่งเศสกับไนจีเรียผ่านช่อง 11 แน่นอน รวมทั้งคู่อื่นที่เหลือจะรับชมผ่านทางช่อง 11 หรือช่อง 5 ด้วย พร้อมประสานช่องไทยพีบีเอสเป็นช่องสำรองสำหรับถ่ายทอดสด ซึ่งประชาชนไม่ว่าจะรับชมผ่านระบบอนาล็อกเดิมและระบบดิจิตอลก็สามารถรับชมได้เช่นเดียวกัน 

นายฐากรกล่าวอีกว่า การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 เป็นไปตามเงื่อนไขมติ ที่ประชุมกสทช. ที่ให้เงินสนับสนุนการถ่ายทอดสดทั้ง 64 นัด ผ่านระบบฟรีทีวีสาธารณะ (ช่อง 5 ช่อง 11 หรือไทยพีบีเอส) เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทุกนัดได้ทั้งระบบอนาล็อกและระบบดิจิตอลในทุกแพลต ฟอร์ม และจากการที่กสทช.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกรณีที่บริษัท อาร์เอส ไม่ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่บราซิลกับชิลี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. และคู่ฮอลแลนด์กับเม็กซิโก เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.นั้น ขณะนี้กสทช.สั่งการให้บริษัท อาร์เอส ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ด้วยการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 นัดที่เหลืออยู่ผ่านฟรีทีวีสาธารณะให้ครบ 

เล็งตัดเงินสนับสนุนอาร์เอส

นายฐากร กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้กสทช. ยังเรียกบริษัท อาร์เอส เข้ามาชี้แจงและระบุว่า หลังกสทช.ให้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ได้ทำหนังสือขออนุญาตถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่เหลือผ่านฟรีทีวีสาธารณะไปยังฟีฟ่า แต่บริษัท อาร์เอส เพิ่งได้รับหนังสืออนุมัติให้ถ่ายทอดสดในช่องดังกล่าวจากฟีฟ่าในเช้าวันนี้ ทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกในนัดวันที่ 28-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต้องถ่ายทอดสดผ่านช่อง 8 ซึ่งเป็นทีวีธุรกิจตามสัญญาเดิมที่ทำไว้กับฟีฟ่าไปก่อน แต่ขณะนี้บริษัท อาร์เอส ได้รับอนุมัติจากฟีฟ่าให้ถ่ายทอดสดเพิ่มเติมในระบบฟรีทีวีสาธารณะได้แล้ว 

"ขณะนี้ส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการสนับสนุนให้ประชาชนได้รับชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ปี 2014 พิจารณาในประเด็นความเหมาะสมของกรอบวงเงินในการสนับสนุนเงินแก่บริษัท อาร์เอส โดยคณะอนุกรรมการฯ ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน จะพิจารณาความเสียหายจากกรณีที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขของมติกสทช. ที่ให้เงินสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทั้ง 64 นัด ผ่านระบบฟรีทีวีสาธารณะ ในกรอบวงเงินไม่เกิน 427.015 ล้านบาท กับบริษัทอาร์เอส" นายฐากรกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!