- Details
- Category: กีฬา
- Published: Thursday, 26 June 2014 12:09
- Hits: 4000
วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8611 ข่าวสดรายวัน
สั่งสอบ'ทนต์พระเจ้า' ซัวเรซกัด คืนนี้ศึก 2 อินทรี สหรัฐบู๊เยอรมัน-ถ้าเจ๊าเข้าทั้งคู่ 'โด้'นำฝอยทอง-หวังปาฏิหาริย์ 'โกดิน'โหม่งส่งอิตาลีกลับบ้าน โคลัมเบียยำญี่ปุ่น-กรีซพลิกชนะ
ฟันพระเจ้า - หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย แสดงอาการเจ็บฟันหลังกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี จบเกมอุรุกวัยเฉือนชนะ 1-0 ส่วนดาวยิงฟันจอบ ถูกฟีฟ่าสั่งสอบพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว |
ลุ้นวันนี้สุดมันส์ ศึก 2 พญาอินทรี 'สหรัฐ-เยอรมัน'ถ้าเสมอเข้ารอบทั้งคู่ โด้นำฝอยทองชนกานา หวังปาฏิหาริย์เข้ารอบส่วนกลุ่มเอช รัสเซีย เกาหลีใต้ แอลจีเรีย ไม่หมดลุ้นเข้ารอบตามเบลเยียม ฟีฟ่าสั่งสอบจอมกัด 'ซัวเรซ' เหตุทนต์พระเจ้าฉาว งับใส่ 'คิเอลลินี่' เป็นรู แต่ให้โอกาสอุรุกวัยยื่นคำชี้แจง เผยอาจมีโทษแบนยาว 2 ปี อิตาลีสุดเศร้า เจอลูกโหม่ง 'โกดิน' ส่งกลับบ้าน กุนซือแถลงลาออกทันควัน รับผิดเองที่เลือก 'บาโลเตลลี่' ร่วมทีม กรีซพลิกชนะ ได้จุดโทษทดเวลา ลิ่วรอบ 2 อังกฤษทำได้แค่เสมอ ปิดฉากบอลโลกไม่ชนะใคร
โคลัมเบียนำญี่ปุ่นก่อน 1-0
วันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของกลุ่มซี ที่สนามอารีน่า ปันตานาล โดยเป็นแมตช์การแข่งขันระหว่างทีมชาติญี่ปุ่น ที่ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อลุ้นเข้ารอบพบกับโคลัมเบีย ที่เข้ารอบแน่นอนแล้ว
เปิดฉากครึ่งแรกโคลัมเบียบุกใส่ทันที แต่ผู้รักษาประตูญี่ปุ่นยังไม่พลาด จากนั้นนาทีที่ 10 ขุนพล "ซามูไร" มีลุ้นจากจังหวะโต้กลับ มาโกโตะ ฮาเซเบ้ เปิดบอลเข้ากลางมาให้ โยชิโตะ โอคูโบะ ได้ยิงจะจะในเขตโทษ แต่ยิงไม่ดีเองบอลพุ่งหลุดกรอบออกไป แต่เข้าสู่นาทีที่ 16 เป็นโคลัมเบียที่ขึ้นนำ 1-0 เมื่อได้จุดโทษจากจังหวะที่ ยาซูยูกิ คอนโนะ เข้าไปสกัดอาเดรียน รามอส ในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองทันทีพร้อมชี้ให้เป็นจุดโทษ ฮวน กัวดราโด้ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดบรรจงซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เร่งเครื่องโขกเสมอ 1-1
หลังเสียประตูญี่ปุ่นบุกหนักและน่าตีเสมอได้ในนาที 26 ชินจิ คากาวะ ลากเข้าไปส่องบริเวณหน้ากรอบโทษแต่ดาวิด ออสปินา พุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด และนาที 32 ทีมเมืองปลาดิบได้ลุ้นอีกครั้งจาก ฟรีคิกโดยเคสุเกะ ฮอนดะ ปั่นทะยานข้ามกระแพงกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว และแล้วความพยายามของญี่ปุ่นมาประสบความสำเร็จจนได้ในช่วงทดเวลาจากจังหวะที่เคสุเกะ ฮอนดะ เปิดบอลจากมุมเขตโทษ ชินจิ โอกาซากิ พุ่งตัวโขกตุงตาข่ายตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนจบครึ่งแรก
สู้ไม่ไหว-พ่ายตกรอบ
ครึ่งหลังโคลัมเบียแก้เกมโดยส่งเจมส์ โรดริเกซ ลงสนามและเจ้าตัวก็แผลงฤทธิ์เมื่อลากบอลหลบแนวรับญี่ปุ่นก่อนจะไหลให้ แจ๊กสัน มาร์ติเนซ กดให้ทีมแซงนำ 2-1 จากนั้นทีมซามูไรพยายามบุกเพื่อทวงคืน แต่นาทีที่ 82 มาโดนสวนกลับ เจมส์ โรดริเกซ จ่ายบอลให้แจ๊กสัน มาร์ติเนซ ล็อกหลบอัตซูโตะ อูชิดะ ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายโคลัมเบียหนีห่างเป็น 3-1 และนาทีที่ 89 เจมส์ โรดริเกซ ตอกย้ำให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่ออาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนหลบ มายะ โยชิดะ และชิพบอลข้ามหัวเออิจิ คาวาชิม่า เข้าไปเป็นประตู จบเกมโคลัมเบีย ชนะ ญี่ปุ่น 4-1 เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มซี ไปพบกับอุรุกวัย ส่วนญี่ปุ่น มีแต้มเดียวรั้งบ๊วยและต้องตกรอบ
กรีซบดช้างดำลุ้นเข้ารอบ
อีกคู่ในกลุ่มซี ที่สนามเอสตาดิโอ คาสเตเลา เมืองฟอร์ตาเลซา ทีม"เทพนิยาย"กรีซ พบกับ"ช้างดำ"ไอวอรีโคสต์ โดยกรีซต้องชนะสถานเดียวเพื่อลุ้นเข้ารอบ นัดนี้ต้อง ขาดคอสตาส คาสซูรานิส ที่โดนไล่ออกนัดก่อนใช้จอร์จอส คารากูนิส คุมแดนกลาง ส่วนไอวอรีโคสต์ ชนะเข้ารอบทันที ถ้าเสมอต้องลุ้นให้ญี่ปุ่นไม่ชนะโคลัมเบียหรือชนะไม่เกิน 1 ลูก เกมนี้ไม่มี ดิดิเยร์ โซโกร่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟติดโทษแบนได้ใบเหลืองสะสม 2 ใบต้องเข็นโคโล่ ตูเร่ ลงแทน แดนกลาง ยายา ตูเร่ นำทัพ โดยมีซาโลมอน กาลู, แชร์วินโญ่ และดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นสามประสานแดนหน้า
กรีซหลุดเดี่ยวซัดนำ 1-0
ครึ่งแรก"ช้างดำ"โหมบุกหนัก ขณะที่กรีซถอยไปตั้งรับและรอดักสวนกลับตามสไตล์ถนัด เกมผ่านไป 12 นาทีทีมเทพนิยายต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อพานาจิโอติส โคเน่ บาดเจ็บกล้ามเนื้อขาเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งอันเดรียส ซามาริส ลงแทน และนาทีที่ 24 เฟอร์นันโด ซานโตส กุนซือกรีซมีเรื่องให้ปวดหัวอีกหลังจาก โอเรสติส คาร์เนซิส ผู้รักษาประตูมือหนึ่งเจ็บอีกคนต้องเปลี่ยนเอา ปานาโกลติส กลีย์กอส ลงมาเฝ้าเสา จากนั้นนาทีที่ 42 กองเชียร์ทีมแชมป์ยูโร 2004 ได้เฮลั่นสนามจากความผิดพลาดของผู้เล่นไอวอรีโคสต์บอลหลุดไปเข้าทาง จอร์จอส ซามาราส ก่อนทำชิ่งให้ อันเดรส ซามาริส วิ่งทำทางมาหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ บูบาการ์ บาร์รี่ นายทวารทีมช้างดำตุงตาข่าย จบครึ่งแรกกรีซนำอยู่ 1-0
ได้จุดโทษ-เฉือนไอวอรีฯเข้ารอบ
ครึ่งหลัง ไอวอรีโคสต์โหมบุกหนัก ขณะที่กรีซก็สวนกลับขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว นาทีที่ 74 ความพยายามของ"ช้างดำ"ก็เป็นผลเมื่อมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่โซลามอน กาลูจ่ายบอลทางกราบซ้ายทะลุถึงแชร์วินโญ่ ป้อนเข้ากลางให้ วิลฟรีด โบนี่ ที่ถูกเปลี่ยนไปแทนชีก ติโอเต้ ซัดเต็มเหนี่ยวระยะเผาขนเป็นประตูตีเสมอ 1-1 เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บไอวอรีโคสต์มาพลาดเสียจุดโทษเมื่อ โจวานนี่ ซิโอ ที่ถูกเปลี่ยนลงเป็นตัวสำรองคนสุดท้ายไปเตะขา จอร์จอส ซามาราส ร่วงในเขตโทษก่อนซามาราส ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดเป็นประตูชัยให้กรีซ พลิกแซงชนะ 2-1 มี 4 คะแนนจาก 3 นัดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะทีมอันดับ 2 ของกลุ่มซี โดยจะพบคอสตาริกา ส่วนไอวอรีโคสต์มี 3 คะแนนได้ที่ 3 ของกลุ่มตกรอบไป
อีกคู่อัซซูรี่บดอุรุกวัย
ส่วนการแข่งขันนัดสุดท้ายของกลุ่มดี ที่สนาม เอสตาดิโอ ดาส ดูนาส เมืองนาทัล เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ทีมชาติอิตาลี พบ อุรุกวัย โดยขุนพล "อัซซูรี่" ขอเพียงเสมอก็จะผ่านเข้ารอบ ขณะที่อุรุกวัยต้องชนะสถานเดียว
ดับญี่ปุ่น - แจ๊กสัน มาร์ติเนซ หัวหอกโคลัมเบีย ซัดบอลผ่านมือ เออิจิ คาวาชิม่า ผู้รักษาประตูญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2014 กลุ่มซี จบเกมโคลัมเบียถล่ม 4-1 คว้าแชมป์กลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีมไปพบกับอุรุกวัย ส่วนญี่ปุ่นตกรอบ |
เปิดฉากครึ่งแรกอุรุกวัยครองบอลทำเกมรุกได้ดีกว่า ขณะที่อิตาลีเล่นอย่างรัดกุมและพยายามโจมตีด้วยเกมสวนกลับ โดยนาทีที่ 22 มาริโอ บาโลเตลลี่ โดดสูงเข้าแย่งบอลอย่างน่าเกลียดจนเท้าโดนหัวของ อัลวาโร่ แปร์เรร่า ลงไปกอง ผู้ตัดสินรีบควักใบเหลือง แจกเป็นคนแรกของเกม ซึ่งเป็นใบที่ 2 ของทัวร์นาเมนต์ แต่บาโลเตลลี่ยังเกรียนปะทะฟาวล์บ่อยครั้งจนเชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซืออัซซูรี่ต้องปรามให้ใจเย็นๆ จากนั้นทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
ตะลึง"ซัวเรซ"กัดคิเอลลินี่
กลับมาเล่นครึ่งหลังอิตาลีเปลี่ยนมาริโอ บาโลเตลลี่ออกทันที โดยอุรุกวัยยังคงบุกได้มากกว่า และนาทีที่ 59 อัซซูรี่ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากการโดนไล่ออกของ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่ไปยันใส่อเรวาโล่ ริออส หลังจากนั้นทีมจากอเมริกาใต้เปลี่ยนคริสเตียน สตัวนี่ ลงเติมเกมรุกและโหมบุกหนัก นาทีที่ 66 หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลหน้าประตูตวัดยิงตรงกรอบแต่จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ยังไวพอออกมาล้มตัวเซฟลูกอันตรายไว้ได้อย่างหวุดหวิด
เกมเข้าสู่นาที 79 เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทั่วโลกเมื่อ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังอิตาลีใช้แขนบังหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยจึงบันดาลโทสะก้มลงกัดหัวไหล่ซ้ายของคิเอลลินี่เอาดื้อๆ และทั้งคู่ก็ทิ้งตัวล้มไปกองกับพื้น โดย คิเอลลินี่พยายามโชว์รอยกัดให้ผู้ตัดสินดูแต่กรรมการไม่ว่าอะไร
"โกดิน"โหม่งดับอิตาลี
กระทั่งนาทีที่ 81 อุรุกวัยมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุมแกสตั้น รามิเรซ เปิดไปหน้าเขตโทษ ดิเอโก้ โกดิน เทกตัวโหม่งบอลเสียบเสาแรกตุงตาข่าย และเป็นประตูชัยให้ทีมอุรุกวัยเฉือนชนะอิตาลี 1-0 มี 6 คะแนน จาก 3 นัดผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ส่วนอิตาลีมี 3 คะแนน จากการลงเล่นเท่ากันกระเด็นตกรอบแรกไปอย่างน่าเจ็บใจ
นัดสุดท้ายอีกคู่ของกลุ่มดี ที่สนาม เอสตา ดิโอ มิเนเรา เมืองเบโล ฮอริซอนเต ทีมชาติคอสตาริกา ที่เข้ารอบแล้วพบกับอังกฤษ ที่กระเด็นตกรอบไปเรียบร้อย ทำให้เกมนี้รอย ฮอดจ์สัน กุนซือเมืองผู้ดี เปิดโอกาสให้ตัวสำรองลงสนามโดยมีแฟรงก์ แลมพาร์ด เป็นกัปตันทีม
สิงโตคำรามเจ๊ากล้วยหอม
ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเปิดเกมบุกแลกกันสูสี นาทีที่ 23 คอสตาริกา เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เชลโซ่ บอร์เกส กดฟรีคิกไปติดเซฟของเบน ฟอสเตอร์ ปัดบอลไปแฉลบคานออกหลังไปหวุดหวิด ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเมืองผู้ดีครองเกมได้ดีกว่า แต่ยังหาจังหวะปิดบัญชีไม่ได้จบครึ่งแรกสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังอังกฤษเปิดเกมรุกอย่างหนักหวังเก็บชัยทิ้งทวน และมีโอกาสลุ้นทำประตูหลายต่อหลายครั้ง โดยน่าขึ้นนำสุดๆ ในนาที 65 เมื่อดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำชิ่งกับแจ๊ก วิลเชียร์ ก่อนปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาไกลไปไม่ถึงหลา ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูกันได้ จบเกมเสมอ 0-0 คอสตาริกามีเพิ่มเป็น 7 คะแนน จาก 3 นัดผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มดี ไปพบกรีซ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนอังกฤษมีแต้มเดียวรั้งตำแหน่งบ๊วย
กุนซืออัซซูรี่ประกาศลาออก
สำหรับความเคลื่อนไหวหลังการแข่งขันเซซาเร่ ปรันเดลลี่ ประกาศขอลาออก จากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอิตาลี เป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่เพิ่งต่อสัญญา 2 ปีก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ โดยปรันเดลลี่ กล่าวว่า ต้องรับผิดชอบกับความล้มเหลวของทีม เพราะเป็นคนเลือกแผนการเล่น และมันไม่ได้ผล มันไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งตรงนี้แล้วบอกว่า ผมน่าจะพาทีมทำผลงานได้แตกต่างจากนี้ การเลือกมาริโอ บาโลเตลลี่ คือความผิดพลาดของผม ผมได้คุยกับประธานสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี และเดเมตริโอ อัลแบร์ตินี่ รองประธาน และยื่นเรื่องลาออกไปแล้ว ผมไม่อยากได้ยินว่าผมเอาเงินภาษีของอิตาลีมาละลายเล่น
โวยเปาให้ใบแดงมาร์คิซิโอ
กุนซือวัย 56 ปี ยังกล่าวโจมตีผู้ตัดสิน มาร์โก้ โรดริเกซ ชาวเม็กซิกันที่ไล่เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ออกจากสนาม โดยระบุว่า "ผมไม่คิดว่า มันสมควรจะเป็นใบแดง มันไม่มีการทำฟาวล์รุนแรงใส่กันเลย และเป็นเกมที่สมดุล ในความเห็นของผมผู้ตัดสินเป็นคนทำลายเกมนัดนี้"
พร้อมกันนั้น ปรันเดลลี่ยังชี้ด้วยว่า เกมพ่ายคอสตาริกา อย่างพลิกล็อก 0-1 เมื่อ วันศุกร์ที่ผ่านมา คือสิ่งที่ทำให้ทีมอัซซูรี่ต้องจอดป้ายเพียงแค่รอบแรก ทั้งที่เริ่มต้นได้อย่างสวยงามด้วยการชนะอังกฤษ 2-1
ด้านจิอันคาร์โล อาเบเต้ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลีก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน แต่ได้ยื่นข้อเสนอให้ปรันเดลลี่ พิจารณาการตัดสินใจใหม่อีกครั้งเมื่อกลับจากบราซิล
"ซัวเรซ"ส่อถูกแบน 2 ปี
ส่วนหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมกัดสะท้านโลกทีมชาติอุรุกวัยมีสิทธิ์โดนแบนยาวและชวดลงสนามตลอดช่วงที่เหลืออยู่ในศึกฟุตบอลโลก 2014 หากพบว่าผิดจริงกรณีถูกกล่าวหาว่าเจตนากัดจอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ระหว่างนัดส่งท้ายรอบแรกกลุ่มดี โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานา ชาติหรือฟีฟ่า ได้เข้ามาสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้นโฆษกของฟีฟ่าแถลงว่า "รอรายงานการแข่งขันจากผู้ตัดสิน และจะพยายามรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อจัดการกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด"
ขณะที่จิม บอยซ์ รองประธานฟีฟ่า เสริมว่า "หลุยส์ ซัวเรซ เป็นนักเตะฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่การกระทำของเขาโดนวิจารณ์อย่างหนัก ฟีฟ่า ต้องเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบจริงจัง และลงโทษอย่างเหมาะสมที่สุด"
สุดสวย- ลิโอ เนล เมสซี่ ปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงนักเตะไนจีเรียเข้าประตูอย่างสวยงาม ที่สนามไบร่า-ริโอ เมืองปอร์โต้ อเลเกร เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เกมนี้เมสซี่ยิง 2 ลูก ผลอาร์เจนตินาชนะ 3-2 |
โดยตามกฎของฟีฟ่า ซัวเรซมีสิทธิโดนลงโทษห้ามลงสนามนานที่สุด 24 นัด หรือแบนยาว 2 ปี อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกมีการลงโทษแบนสูงสุดที่ 8 นัด คือ เมาโร ทัสซ็อตติ กองหลังทีมชาติอิตาลี ที่ศอกใส่ หลุยส์ เอ็นริเก้ ของสเปน จนจมูกหักในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐ
เจ้าตัวอ้างแค่กระแทกใส่
ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ปฏิเสธว่าไม่ได้งับเข้าที่หัวไหล่ของคิเอลลินี่ แค่กระแทกใส่ และเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในสนาม โดยก่อนหน้านี้หัวหอกวัย 27 ปีของ อุรุกวัยโดนแบนมา 7 นัดตอนกัดอ๊อตมาน บักคาล ของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สมัยค้าแข้งอยู่กับอาแจ็กซ์ในลีกฮอลแลนด์ และโดนแบน 10 นัดตอนกัดบรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเชลซีเมื่อฤดูกาล 2012/13
ส่วนดิเอโก้ ลูกาโน่ กองหลังอุรุกวัยออกมาปกป้องซัวเรซ โดยระบุว่า คิเอลลินี่ มีรอยแผลเก่าอยู่ก่อนแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีอะไรเลย ตนเห็นภาพคิเอลลินี่ และไม่ใช่แผลจากเกมนี้แน่ ใครเชื่อว่าเพิ่งเกิดขึ้นก็โง่แล้ว อิตาลีมัวแต่เสียเวลาทั้งเกมไปกับการ ยั่วยุเหมือนที่ชอบทำเสมอ ไม่คิดว่าพวกเขาจะขี้ขลาดขนาดนี้ ที่ควรทำมากกว่าคือยอมรับความพ่ายแพ้
ด้านออสการ์ ตาบาเรซ โค้ชทีมอุรุกวัย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงกรณีที่ซัวเรซโดนกล่าวหาว่ากัดคิเอลลินี่ ระบุตนไม่เห็นเหตุการณ์ และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับชัยชนะและการผ่านเข้ารอบของทีม
สื่อตปท.ชี้ทนต์พระเจ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพฤติกรรมของซัวเรซ สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่าเกิดจากปมทางจิต โดยใช้คำว่า teeth of god หรือ tooth of god หรือฟันพระเจ้า ซึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาพฤติกรรมอย่างเร่งด่วน โดยนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์แฮนด์ออฟก๊อด ที่เกิดขึ้นในปี 1986 ที่ดิเอโก้ มาราโดน่า ใช้มือปัดลูกบอลเข้าประตูผ่านมือปีเตอร์ ชิลตัน นายทวารอังกฤษ โดยที่ผู้ตัดสินมองไม่เห็น และหลังจากนั้นมาราโดน่าให้สัมภาษณ์ว่าส่วนหนึ่งของการทำประตูนี้มาจากหัตถ์ของพระเจ้า
ล่าสุดฟีฟ่า แถลงว่าเริ่มดำเนินการสอบ สวนเพื่อลงโทษทางวินัยกับซัวเรซแล้วและให้เวลากับซัวเรซ รวมถึงสมาคมฟุตบอล อุรุกวัยยื่นหลักฐานชี้แจงโต้แย้งข้อกล่าวหา กัดคิเอลลินี่ จนถึงเวลา 17.00 น. ของวันพฤหัสฯที่ 25 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของบราซิล หรือเวลา 03.00 น. ของวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.ตามเวลาไทย
โคลัมเบียพร้อมเจออุรุกวัย
ขณะที่โฮเซ่ เปเกร์มัน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์วัย 64 ปีของทีมโคลัมเบียกล่าวหลังต้อนชนะญี่ปุ่น 4-1 ทำสถิติคว้าชัย 3 นัดรวดผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มซี ว่า มีความสุขมาก นี่เป็นผลของการทำงานหนักและอดทนของนักเตะ รวมถึงแฟนบอลทั้งประเทศ ส่วนการเจออุรุกวัยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือเป็นงานที่หนักหนาสาหัส เพราะคู่แข่งเป็นทีมที่มีชื่อเสียงในฟุตบอลโลก แต่เราก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะเพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปได้
โค้ชญี่ปุ่นไม่ตอบไขก๊อก
ส่วนอัลแบร์โต้ ซักเคโรนี่ โค้ชชาวอิตาลีของญี่ปุ่น กล่าวว่า ยังไม่รู้อนาคตตัวเองว่าจะอยู่คุมทีม "ซามูไร" ต่อหรือไม่ โดยรอกลับถึงญี่ปุ่นก่อน หลังจากนั้นจะพูดคุยกับฝ่ายบริหารของสมาคมว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้านเคสุเกะ ฮอนดะ ออกมาขอโทษแฟนบอลญี่ปุ่นสำหรับผลงานของทีมไม่สามารถทำได้อย่างที่หวังไว้ โดยระบุว่า "เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก แต่นี่คือความจริง ผมเคยพูดว่าเราสามารถไปได้ไกล ต้องขอโทษด้วยที่เราทำไม่ได้ และต้องใช้เวลาประเมินตัวเอง"
กุนซือไอวอรีโคสต์ลาออก
ด้านซาบรี ลามูชี่ กุนซือชาวฝรั่งเศสของไอวอรีโคสต์ ยืนยันถึงการลาออกจากตำแหน่งหลังไม่สามารถพาทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า สัญญาของผมหมดลงพอดีในช่วงฟุตบอลโลก และจะไม่มีฉบับต่อไป ผมใช้เวลาและความพยายามไปกับทีมตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา แต่เรื่องราวของผมกับไอวอรีโคสต์จะยุติแค่ค่ำคืนนี้ ผมผิดหวังและเสียใจ นักเตะก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ลามูชี่ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมมาก่อนเลย ก่อนรับงานไอวอรีโคสต์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ฝอยทองหวังปาฏิหาริย์
สำหรับวันที่ 26 มิ.ย. เป็นเกมนัดสุดท้ายรอบแรก โดยกลุ่มจี เตะพร้อมกัน 2 คู่ในเวลา 23.00 น. ที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล มาเน่ การ์รินช่า กรุงบราซิเลีย "ฝอยทอง" โปรตุเกส เจอ "ดาวดำ"กานา โปรตุเกสนัดแรกแพ้เยอรมัน 0-4 นัดต่อมาเสมอสหรัฐ อเมริกา 2-2 เก็บไป 1 แต้มจาก 2 นัด รั้งบ๊วยของตาราง นัดนี้ต้องชนะให้ได้ด้วยประตูที่ขาดลอยมากที่สุด แล้วลุ้นให้คู่สหรัฐอเมริกา-เยอรมัน มีผลแพ้ชนะด้วยสกอร์ที่ขาดลอยด้วย
สภาพทีมนัดนี้ไม่สามารถใช้งาน ฮูโก้ อัลเมด้า, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา, อังเดร อัลเมด้า, รุย ปาตริซิโอ, เฮลเดอร์ ปอสติก้า ที่บาดเจ็บ แต่จะได้เปเป้ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง โดยจะใช้ระบบ 4-3-3 เบโต้ ลง เฝ้าเสา กองหลังจากขวาไปซ้าย เจา เปเรร่า, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, มิเกล เวโลโซ่ กองกลางมี ราอูล เมเรเลส, วิลเลียม คาร์วัลโญ่, เจา มูตินโญ่ ส่วนแดนหน้า นานี่ ทำเกมริมเส้นฝั่งขวา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนฝั่งซ้าย โดยมี เอแดร์ เป็นหัวหอกตรงกลาง
"กียาน"ล่าประตูให้กานา
"ดาวดำ"กานา จากโซนแอฟริกา สถาน การณ์ไม่ดีเช่นกัน นัดแรกแพ้สหรัฐอเมริกา 1-2 นัดต่อมาเสมอเยอรมัน 2-2 เก็บไป 1 แต้ม จาก 2 นัด อยู่อันดับ 3 นัดนี้เป้าหมายเหมือนโปรตุเกส นัดนี้จะไม่มี ซัลลีย์ มุนตารี่ ที่ติดโทษแบน และต้องเช็กความฟิต เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง, ดาเนียล โอปาเร, จอห์น โบเย่ คาดว่าจะใช้แผน 4-2-3-1 ฟาตาอู ดาอูดา เป็นนายทวาร กองหลังเป็น แฮร์ริสัน อัฟฟูล, โจนาธาน เมนซาห์, จอห์น โบเย่, ควัดโว อซาโมอาห์ คู่กลางรับ มิชาแอล เอสเซียง ประสานงานกับ โมฮัมเหม็ด ราบิอู กลางรุกใช้ คริสเตียน อัตซู, เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง, อังเดร อายิว โดยมี อซาโมอาห์ กียาน เป็นศูนย์หน้าเดี่ยว
ศึกพญาอินทรี-เจ๊าเข้ารอบคู่
อีกคู่ที่สนามอารีน่า แปร์นัมบูโก้ เมือง เรซิเฟ่ "พญาอินทรี"สหรัฐอเมริกาเจอ "อินทรีเหล็ก"เยอรมัน โดยสหรัฐนัดแรกชนะกานา 2-1 นัดต่อมาเสมอโปรตุเกส 2-2 เก็บไป 4 แต้มจาก 2 นัด รั้งรองจ่าฝูง เกมนี้ขอแค่เสมอจะผ่านเข้ารอบทันที นัดนี้ไม่มี โจซี่ อัลติดอร์ ที่บาดเจ็บ โดยจะวางหมาก 4-4-1-1 ทิม ฮาวเวิร์ด ลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฟาเบียน จอห์นสัน, เจฟฟ์ คาเมรอน, แมตต์ เบสเลอร์, ดามาร์คัส บีสลีย์ กองกลางมี อเลฮานโดร เบโดยา, ไคล์ เบกเกอร์แมน, เจอร์เมน โจนส์, เกรแฮม ซูซี่ ส่วนในแดนหน้า ไมเคิล แบรดลีย์ จะเป็นหน้าต่ำคอยหนุนหัวหอกอย่าง คลินต์ เดมพ์ซีย์
ขณะที่อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากโซนยุโรป นัดแรกถล่มโปรตุเกส 4-0 นัดต่อมาเจ๊ากานา 2-2 เก็บไป 4 แต้มจาก 2 นัด นำเป็นจ่าฝูง เกมนี้ขอแค่เสมอจะผ่านเข้ารอบแน่นอนเช่นกัน
สภาพทีมนัดนี้ต้องเช็กความฟิต เฌอโรม บัวเต็ง, โธมัส มุลเลอร์ แต่น่าจะลงได้ทั้งคู่ คาดว่าจะใช้แผน 4-3-3 มานูเอล นอยเออร์ ลงเฝ้าเสา กองหลังใช้ เฌอโรม บัวเต็ง, เพอร์ แมร์เตซักเกอร์, มัตส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองกลางประกอบด้วย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, โทนี่ โครส ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่, โธมัส มุลเลอร์
คู่นี้เคยเจอกันมา 9 ครั้ง เยอรมนีเหนือกว่าชนะ 6 ครั้ง สหรัฐอเมริกาชนะ 3 ครั้ง โดยหนล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2013 สหรัฐอเมริกาชนะ 4-3
"แอลจีเรีย"บู๊หมีขาว
ต่อมาเวลา 03.00 น. เป็นการแข่งขันของกลุ่มเอช ที่จะเตะพร้อมกัน 2 คู่ ที่สนามอารีน่า ดา ไบซาด้า เมืองคูริติบา "จิ้งจอกทะเลทราย"แอลจีเรีย ชนรัสเซีย แอลจีเรีย นัดแรกแพ้เบลเยียม 1-2 นัดต่อมาชนะเกาหลีใต้ 4-2 เก็บไป 3 แต้มจาก 2 นัด รั้งรองจ่าฝูง เกมนี้ถ้าชนะจะผ่านเข้ารอบทันที แต่ถ้าทำได้แค่เสมอ ต้องลุ้นให้เกาหลีใต้ชนะเบลเยียมไม่เกิน 2 ประตู
สภาพทีมเกมนี้ไร้นักเตะเจ็บหรือติดโทษ โดยจะใช้ระบบ 4-2-3-1 ราอิส เอ็มโบลี่ เป็นนายทวาร แนวรับจากขวาไปซ้าย อาอิสซ่า มานดี้, ราฟิก ฮัลลิเช่, มัดฌีด์ บูเกร์ร่า, ฌาแมล เมสบาห์ คู่กลางรับ คาร์ล เมด์ฌานี่ ประสานงานกับ นาบิล เบนตาเล็บ ส่วนแผงกลางรุกเป็น โซฟียาน เฟกูลี่, ซาเฟียร์ ตาอิแดร์, ยาซีน บราฮิมี ขณะที่หัวหอกตัวเป้าเป็นงานของ อิสลัม สลิมานี่
"หมีขาว"รัสเซีย จากโซนยุโรป นัดแรกเจ๊าเกาหลีใต้ 1-1 นัดต่อมาแพ้เบลเยียม 0-1 เก็บไป 1 แต้มจาก 2 นัด รั้งอันดับ 3 เกมนี้ต้องชนะสถานเดียว พร้อมลุ้นให้เกาหลีใต้ไม่ชนะเบลเยียม
สภาพทีมนัดนี้ต้องรอเช็กความฟิต อเล็กเซ คอซลอฟ โดยจะวางหมาก 4-2-3-1 เพื่อเปิดเกมรุกให้มากขึ้น อิกอร์ อคินเฟเยฟ ลงเฝ้าเสา กองหลังมี อังเดร เยชเชนโก้, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิกนาเชวิซ, ดิมิทรี คอมบาลอฟ คู่กลางรับ เดนิส กลูชาคอฟ ประสานงานกับ วิกเตอร์ ฟายซูลิน กลางรุกเป็น มักซิม คานันนิคอฟ, โอเล็ก ชาตอฟ, ยูริ เชอร์คอฟ ทิ้งให้ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน ค้ำแดนหน้า
คู่นี้เคยเจอกันมาครั้งเดียวในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 1964 ตั้งแต่สมัยที่รัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต ผลเสมอกัน 2-2
เกาหลีใต้ชนเบลเยียม
อีกคู่ที่สนามอารีน่า เดอ เซาเปาโล เมืองเซาเปาโล "โสมขาว"เกาหลีใต้ เจอ "ปีศาจแดง" เบลเยียม เกาหลีใต้ นัดแรกเสมอรัสเซีย 1-1 นัดต่อมาพ่ายแอลจีเรีย 2-4 เก็บไปแต้มเดียวจาก 2 นัด อยู่บ๊วย เกมนี้ต้องชนะสถานเดียวด้วยสกอร์ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีขั้นต่ำสุด 2 ประตูขึ้นไป แล้วไปลุ้นให้แอลจีเรียไม่ชนะรัสเซีย
สภาพทีมนัดนี้ไร้ปัญหา โดยใช้แผน 4-2-3-1 จอง ซอง-เรียง เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบด้วย ลี ยัง, ฮง จอง-โฮ, คิม ยัง- กวอน, ปาร์ก จู-โฮ คู่กลางรับ ฮัน กุ๊ก-ยัง ประสานงานกับ คี ซอง-ยง กลางรุกเป็น ลี ชอง-ยง, คู จา-โชล, ซอน ฮึง-มิน ขณะที่ ปาร์ก ชู-ยอง จะทำหน้าที่หัวหอกตัวเป้า
"ปีศาจแดง"เบลเยียม นัดแรกชนะแอลจีเรีย 2-1 นัดต่อมาเฉือนรัสเซีย 1-0 เก็บไป 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดแรก นำเป็นจ่าฝูงและผ่านเข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว เกมนี้ขอแค่เสมอจะเป็นแชมป์กลุ่มทันที
สภาพทีมนัดนี้ต้องรอเช็กความฟิต โธมัส แฟร์มาเลน และอาจจะให้โอกาสตัวสำรองลงเล่นหลายตำแหน่ง โดยวางหมาก 4-2-3-1 ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ลงเฝ้าเสา กองหลังมี อ็องโธนี่ ฟานเดน บอร์, แว็งซ็องต์ กอมปานี, นิโกลาส์ ลอมแบร์ตส์, แยน แฟร์ตองเก้น คู่กลางรับ สตีเฟ่น เดฟูร์ ประสานงานกับมูซา เดมเบเล่ กลางรุกประกอบด้วย เควิน มิรัลลาส, มารูยาน เฟลไลนี่, อัดนัน ยานาไซ โดยมี ดิว็อก โอริกี เป็นศูนย์หน้าตัวเดียว
คู่นี้เคยเจอกันมา 3 หน เบลเยียมเหนือกว่าชนะ 2 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 1999 เกาหลี ใต้แพ้คาบ้าน 1-2 โดยเกมนั้นมี ฮง เมียง-โบ กุนซือเกาหลีใต้คนปัจจุบัน เป็นผู้เล่นตัวจริงด้วย ผู้ตัดสินนัดนี้เป็น เบน วิลเลียมส์ จากออสเตรเลีย