- Details
- Category: กีฬา
- Published: Sunday, 28 December 2014 17:51
- Hits: 3810
'ประยุทธ์'เผย'ในหลวง-ราชินี' ทอดพระเนตร'ช้างศึก'คว้าแชมป์อาเซียน
แนวหน้า : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยได้ชื่นชมยินดีกับทีมฟุตบอลชาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการ AFF SUZUKI CUP 2014 ซึ่งขุนพลช้างศึกของไทย สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากได้รับพระราชทานกำลังใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านทางรองราชเลขาธิการ และได้นำชัยมาถวายพ่อหลวง และปวงชนชาวไทยได้ในที่สุด ตนขอชื่นชมในความเข้มแข็ง เสียสละ และอดทน ของนักกีฬาทุกท่านภายใต้การนำของโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทยที่รู้รักสามัคคี มีวินัย รักชาติ รักสถาบัน ถวายพระเกียรติได้อย่างสมภาคภูมิ ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบเงินสนับสนุนให้ 5 ล้านบาท และได้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้เพิ่มอีกบริษัทละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท
"วันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ทรงทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ (26 ธ.ค.) ตนได้มีโอกาสเดินทางไป จ.พังงา เพื่อเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและสูญหายทุกท่าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 10 ปีแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคน ภัยธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ แต่เราทุกคนต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาป่าต้นน้ำ การปลูกป่า การทำช่องทางระบายน้ำเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ พร้อมทั้งการให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันภัยแจ้งเตือนภัยไว้ล่วงหน้าด้วย
สำหรับ สภานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้นั้น นายกฯเปิดเผยว่า หลายจังหวัดในภาคใต้ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมาก และฝนตกไม่หยุดต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดการท่วมขังเป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้เร่งสั่งการให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายกฯยังได้กล่าวถึงการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เราได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านผู้นำทุกประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรหุ้นส่วนการพัฒนาของ GMS เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง และข้อสรุปการดำเนินความร่วมมือให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและน่าพอใจ อาทิ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาด้านกฎระเบียบ การอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น
"ประเทศสมาชิกต่างๆนั้นมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาอนุภูมิภาค GMS อย่างยั่งยืน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตพร้อมๆกัน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่าจะร่วมกันที่จะนำไปสู่การค้า การลงทุนในภูมิภาค การร่วมกันพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมใน GMS ให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจที่ยั่งยืนด้วย" นายกฯระบุ
สำหรับ การเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22-23 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ขอแสดงความขอบคุณทางการจันที่ในการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศในการที่กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และในปี 2558 เป็นปีแห่งการครบรอบสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบปีที่ 40 และเป็นปีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ซึ่งทางสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถวายพระพรมาด้วย เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ไทยกับจีนมีความแน่นแฟ้นมาโดยตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องความร่วมมือทวิภาคีในด้านการพัฒนาเส้นทางรถไฟ (หนองคาย-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ) ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไปแล้วนั้น ต่อไปจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมเร่งหารือในรายละเอียดของโครงการภายในต้นปีหน้า เพื่อจะได้เริ่มก่อสร้างเป็นของขวัญให้กับคนไทยได้ประมาณปลายปี 2558 หรือเร็วกว่านั้น ทั้งนี้เราได้ขอให้จีนสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความพร้อมของไทยที่จะเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ควบคุมระบบรถไฟในภูมิภาค รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟ
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข เมื่อต้นสัปดาห์ตนได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ในประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่หน่วยราชการต่างๆประสบ ที่จะต้องดำเนินการต่อไปในปี 2558 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบ ตนได้สั่งการให้มีการทบทวนกลไกในการทำงานแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ระดับชาติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างมีความบูรณาการมากยิ่งขึ้น เร็วๆนี้จะมีการเสนอยุทธศาสตร์ระยะยาวและกำหนดโรดแมปในการที่จะเดินหน้าในการแก้ปัญหาในการรับรู้ให้กับองค์ระหว่างประเทศให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มิฉะนั้นแล้วจะมีผลเสียต่อการค้าขาย การเศรษฐกิจ โควตาการส่งออกของเราทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องประมง สินค้าทางประมงทั้งหมดเราจะเป็นปัญหา มีมูลค่ากว่าสองแสนล้านบาท
นายกฯกล่าวต่อว่า ในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องชาวไทยทุกคน โดยได้กำหนดมาตรการและแผนอำนวยความสะดวกป้องกันอันตรายต่างๆในทุกมิติไว้แล้ว เพื่อจะรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งการบริการขนส่งสาธารณะต่างๆ ในส่วนของมาตรการป้องกันการลดอุบัติเหตุทางถนน จะเน้นการบูรณาการการป้องกันร่วมกัน โดยให้จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน มีมาตรการแก้ไขปัญหา ตั้งจุดตรวจ จุดพักรถ ดูแลการจราจรจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ถนนชำรุด บริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย และปรับสภาพสิ่งแวดล้อมอันตรายข้างทาง เพื่อให้มีทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในการขับขี่ยานพาหนะ
"ขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกคนด้วย ให้ระมัดระวังในการเดินทาง การดื่มสุราอาจจะมีมากในช่วงปีใหม่นี้ ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังตนเอง และรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นด้วย พลขับรถต้องรับผิดชอบผู้โดยสารภายในรถ ผู้โดยสารภายในรถต้องรับผิดชอบพลขับรถ ต่างคนต่างก็ดูแลกัน ถ้าพลขับดื่มเหล้าดื่มสุรา ก็ไม่ขึ้นรถกัน ไม่ต้องรีบร้อนกลับมา เดี๋ยวเสียชีวิตเปล่าๆ อันนี้ผมได้สั่งการไปแล้วว่า ในช่วงปีใหม่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยการดื่มสุราของพลขับหรือทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงในการจัดงานบันเทิงต่างๆ ผู้จัดงานต้องรับผิดชอบทั้งหมดในชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนที่มาเที่ยว ขอให้ทุกคนได้มีสติ คำนึงถึงความพอดี ช่วยกันดูแลคนที่เรารัก อย่าให้ความสนุกของเรากลายเป็นความทุกข์ของคนอื่น ตัวเองปลอดภัย คนอื่นก็ต้องปลอดภัยด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการสายตรวจ 191 ได้เปิดโครงการ “You’ll never walk alone” เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากประชาชน ซึ่งนอกจาก 191 แล้ว ยังสามารถแจ้งเหตุต่าง ๆ ผ่านช่องทางที่แสดงบนหน้าจอโทรทัศน์ของท่านเวลานี้ ( 061-3850191, 061-3851191, 061-3852191และ 061-3853191 เฟซบุ๊ก “สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191" และไลน์ไอดี “patrolcop0191”) และหน่วยทหารทุกหน่วย กองรักษาการทุกพื้นที่ ประตูทางเข้า-ออก ที่มีเวรยาม แจ้งได้ทั้งหมด พักรถอะไรก็ได้ ถ้าง่วงจอดนอนก็ได้ ปลอดภัย อย่าไปจอดในที่ๆไม่มีคนอยู่ อันตราย
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้อยากขอให้ทุกท่านช่วยกันส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยในภาคต่างๆที่กำลังประสบภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมในภาคใต้ ภัยหนาว–ไฟป่าในเขตภาคเหนือ และภาคอีสาน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต่อไปในพื้นที่ประสบภัยนี้ พี่น้องในพื้นที่อื่นๆของประเทศสามารถร่วมแสดงน้ำใจให้ความช่วยเหลือ โดยติดต่อผ่านส่วนราชการใกล้บ้านท่าน ธารน้ำใจของคนไทยนั้นจะส่งไปถึงปลายทางแน่นอน และขอให้คนไทยทุกคน ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่นั้นก็ขอให้ปลอดภัย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และผ่านพ้นวันเวลายากลำบากเหล่านี้ไปได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาในเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้โดยเร็ว ในทุกมิติ ในทุกมาตรการ วิธีการต่างๆ
"สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็น น่าอยู่ มั่นคง แข็งแรง อย่างยั่งยืนในทุกมิติ ผมได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยไว้แล้วว่าในปี 2558-2562 นั้น รัฐบาล ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว