- Details
- Category: กีฬา
- Published: Tuesday, 23 December 2014 12:47
- Hits: 4883
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8791 ข่าวสดรายวัน
ปีติในหลวงทรงดู ถ่ายทอด พลังใจฮึดแชมป์ มีรับสั่งให้โทร. ตอนตามอยู่ 0-2 จนกลับมาชนะ'ซิโก้'นำนักเตะ เข้าถวายพระพร เปิดแผนทำทีม
ถวายพร - "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำคณะนักฟุตบอลทีมชาตินำถ้วยแชมป์อาเซียนคัพ เข้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. |
'ซิโก้'นำลูกทีมแชมป์อาเซียน เข้าถวายพระพร ในหลวงที่ร.พ.ศิริราช พร้อมกับขอเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายถ้วยแชมป์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชเผยพระองค์ทรงติดตามฟุตบอลอย่างใกล้ชิด ทอดพระเนตรนัดชิงทั้งที่เมืองไทยและมาเลย์ เมื่อทีมไทยตามมาเลย์ 0-2 ทรงรับสั่งให้รองราชเลขาฯ โทร.ไปให้กำลังใจ กระทั่งนักเตะฮึดสู้จนได้แชมป์กลับมา กุนซือหนุ่มขวัญใจชาวไทยเปิดแผนทำทีมระยะยาว ยอดรางวัลอัดฉีดทะลุถึง 34 ล้าน
'ซิโก้'นำถวายพระพรที่ศิริราช
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.ที่ศาลาศิริราช 100 ปี ร.พ.ศิริราช พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมชาติไทย "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำทีมงานผู้ฝึกสอน และนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแชมป์อาเซียน "ซูซูกิคัพ 2014" เกือบทั้งหมด ขาดเพียงชาริล ชัปปุยส์, อดิศักดิ์ ไกรษร, อดุล หละโสะ, ประวีณวัช บุญยงค์, อาทิตย์ ดาวสว่าง และสมปอง สอเหลบ ที่ติดภารกิจส่วนตัว นำถ้วยแชมป์ฟุตบอลอาเซียนมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ร.พ. และแฟนบอลรอต้อนรับอย่างอบอุ่นคับคั่ง
หมอเผยทรงติดตามถ่ายทอดสด
ศ.นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทย ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทยมาโดยตลอด ในรอบชิงชนะเลิศนัดแรก ที่แข่งที่สนามราชมังคลากีฬาสถานกับมาเลเซีย พระองค์ทรงตื่นมา ทอดพระเนตรเกมครึ่งหลัง จากนั้นรอบชิงชนะเลิศนัดที่สองที่ประเทศมาเลเซีย พระองค์มีความตั้งพระทัยทอดพระเนตรการแข่งขัน จึงรับสั่งให้ราชเลขาธิการปลุกในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มการแข่งขัน
"ระหว่างที่ทอดพระเนตร พอจบครึ่งแรกทีมเราถูกนำไป 2-0 พระองค์ท่านทรงรับสั่งให้ไปตามรองราชเลขาธิการ ซึ่งอยู่ที่ตึกเฉลิมพระเกียรติมาเข้าเฝ้าฯ แล้วมีรับสั่งให้โทร.ไปที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มาเลเซีย และรับสั่งว่า "เราติดตามฟุตบอลอยู่ ขอส่งกำลังใจไปให้" พระองค์ท่านรับสั่งแบบนี้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยว่าเราเหมือนจะเพลี่ยงพล้ำ ทางรองราชเลขาธิการจึงได้โทร.ไปหาคุณเกษม (จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม) ว่า ในหลวงทรงมีรับสั่งทรงมีความห่วงใย และพระราชทานกำลังใจ พอครึ่งหลังแม้เราจะถูกนำไป 3-0 แต่พวกเราก็ฟอร์มดีขึ้น จนกระทั่งตามมาที่ 2-3 กระทั่งเป็นแชมป์อาเซียน และเมื่อทีมฟุตบอลไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จ พระองค์ทรงปลาบปลื้มพระทัยเป็นอย่างมาก ทำให้คนไทยมีความสุข เป็นความปีติยินดีของคนทั้งประเทศ รวมทั้งพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานกำลังใจ จนกระทั่งทำสำเร็จ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่มีกีฬาทีมชาติ พระองค์ท่านจะทรงติดตามเสมอ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน" คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าว
ขอทูลเกล้าฯถวายถ้วยแชมป์
ศ.นพ.อุดมกล่าวอีกว่า ในการถ่ายทอดสดช่วงรับถ้วยแชมป์ได้เห็นนักฟุตบอลไทยถวายถ้วยรางวัลชนะเลิศต่อพระบรมฉายาลักษณ์ และร้องเพลงสดุดีมหาราชา นับเป็นความจงรักภักดีอย่างมาก ตนกำลังตัดต่อคลิปวิดีโอช่วงดังกล่าวนำถวายเพื่อจะฉายให้พระองค์ทอดพระเนตร อย่างไรก็ตามนายเกษม ผู้จัดการทีม แจ้งว่า อยากจะนำถ้วยแชมป์ถ้วยจริงทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ซึ่งวันนี้นำถ้วยแชมป์มาด้วย แต่ไม่ได้ถวายในวันนี้ โดยตนบอกว่าขอให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ ไทยทำเรื่องกราบบังคมทูลผ่านราชเลขาธิการ เพื่อขอพระราชทานเข้าเฝ้าฯ ถวายถ้วยแชมป์ต่อพระองค์ท่าน
กุนซือยอมรับเครียดตอน 0-3
ก่อนหน้านั้นเวลา 07.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ พร้อมด้วยพ.อ.วรวุฒิ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ นำนักเตะและสต๊าฟโค้ชมาร่วมรายการสนามข่าว 7 สี โดยมีนายสมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง กก.ผช.กก.ผจก.สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ต้อนรับ โดยมีแฟนบอลตามมาให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งนี้ช่อง 7 สีมอบเงินเป็นกำลังใจแก่นักเตะและทีมงานอีก 1 ล้านบาท
ถวายพร - "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำคณะนักฟุตบอลทีมชาติพร้อมถ้วยแชมป์อาเซียนคัพ เข้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ วันที่ 22 ธ.ค. |
"ซิโก้"เกียรติศักดิ์กล่าวย้อนถึงเกมนัดชิงชนะเลิศนัดสอง ซึ่งไทยตามอยู่ถึง 0-3 ว่า ตนไม่คาดคิดว่ามาเลเซียจะยิงได้มากขนาดนั้น ทั้งที่เกมดังกล่าวมาเลย์เล่นไม่ดีเท่ากับเกมแพ้ไทย 0-2 ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดพอสมควร แต่ยังเชื่อลึกๆ ว่านักเตะจะกลับมาได้ และผลงานที่ออกมาคือนักเตะของเรากลับมาได้จริงๆ ซึ่งตนและผู้เล่นดีใจมากที่ได้มอบของขวัญ ปีใหม่ชิ้นนี้ให้เป็นความสุขของทุกคน" กุนซือหนุ่มขวัญใจคนไทยกล่าว
ประกาศให้รู้ไทยที่ 1 อาเซียน
"ซิโก้" กล่าวต่อว่า "ตลอด 2 ปีที่ผ่านมานักเตะชุดนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเราสู้กันทุกคน สู้จนนาทีสุดท้าย ตั้งแต่ซีเกมส์ที่พม่า ต่อเนื่องไปเอเชี่ยนเกมส์ที่เกาหลีใต้ และซูซูกิคัพครั้งนี้ เราต้องการประกาศให้รู้ว่าไทยคือเบอร์หนึ่งอาเซียน และชนะด้วยเกมที่สวยงาม จะเห็นได้ว่านักเตะไทยไม่เคยเล่นนอกเกมเลย ผมย้ำกับทุกคนเสมอว่าเมื่อลงสนามทั้งสองทีมมี 11 คนเท่ากัน แต่ถ้านักเตะไทยคนใดคนหนึ่งโดนใบแดงไล่ออก นั่นคือความเห็นแก่ตัวที่ปล่อยให้เพื่อนอีก 10 คนต้องวิ่งกันเหนื่อย ขณะที่ตัวเองได้อาบน้ำพักผ่อนสบายรอเพื่อนในห้องแต่งตัว"
กุนซือหนุ่มจากน้ำพอง ขอนแก่น กล่าวอีกว่า "ชื่อที่ขึ้นบนสกอร์บอร์ดนั้นชื่อว่าไทยแลนด์ ไม่ใช่ชื่อนักเตะหรือโค้ชคนใดคนหนึ่ง ความพ่ายแพ้หรือความเสียหายเกิดต่อภาพลักษณ์ของชาติไม่ได้เกิดกับนักเตะคนใด และนักเตะทุกคนเข้าใจ ซึ่งผมยินดีมากที่ได้เห็นปฏิกิริยาเหล่านี้จากนักเตะไทย เมื่อก่อนคงเคยได้ยินประโยค บอลไทยจะไปมวยโลก ผมเองเมื่อได้ยินคำนี้จะโกรธมาก จึงตั้งใจกับตัวเองว่าต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด"
ปีหน้ามีหลายศึกให้พิสูจน์
กุนซือผู้คว้าแชมป์ทั้งในฐานะนักเตะและโค้ชกล่าวต่อว่า "ผมมีความเชื่ออีกอย่างจากการต่อยอดทีมชุดนี้ คือในอนาคตเชื่อว่าจะเกิดซูเปอร์สตาร์ขึ้นมาอีกมากมาย ขอให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไรเท่านั้น ปีหน้าไทยจะมีโปรแกรมใหญ่ๆอยู่หลายรายการรออยู่ ทั้งการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 ระหว่าง 1-7 ก.พ., ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก และฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย หรือปรีโอลิมปิก ซึ่งเป็นรายการคัดเลือก 3 ทีมไปแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล รวมทั้งซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ที่เราต้องไปป้องกันแชมป์ โดยนักเตะชุดนี้ยังสามารถเล่นซีเกมส์ได้ 13 คน อยากให้ทุกคนตั้งความหวังไว้ก่อนว่าจะไปหยิบเหรียญทองกลับมา ส่วนปรีโอลิมปิกเล่นได้ 7-8 คน เราต้องการสร้างนักกีฬาชุดนี้ให้เป็นที่รัก และสร้างศรัทธาของแฟนบอลอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป ขณะที่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก จะเร็วไปหรือไม่ถ้าจะบอกว่าจะผ่านเข้ารอบ 12 ทีมก่อน หรือเป็นตัวแทนเอเชียเลย พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าฟุตบอลไม่สามารถเนรมิตได้ พวกเราต้องการกำลังใจจากแฟนบอล ปีหน้าเราจะพัฒนาสร้างสรรค์ และพยายามทำผลงานที่ดีมอบให้พี่น้องชาวไทย"
แก้เคล็ดชุดแข่ง"เสือเหลือง"
นอกจากนี้ "ซิโก้" ยังกล่าวถึงการที่มาเลเซียตัดสินใจใช้ชุดแข่งสีน้ำเงิน เพราะต้องการแก้เคล็ดที่แพ้ไทยมาตลอด ทั้งที่วันดังกล่าวมาเลย์เล่นเป็นเจ้าถิ่นเหมาะกับการใส่สีเหลือง สีประจำของมาเลย์ ที่มีฉายามาอย่างยาวนานว่า "เสือเหลือง" ดังนั้นตนจึงแก้เคล็ดแบบไทยๆ ด้วยการใช้ปากกาเมจิกสีน้ำเงินเขียนบนเสื้อ กางเกง และถุงเท้าสีแดงของนักเตะทุกคนว่าชุดนี้สีน้ำเงิน
ด้านนายสมเกียรติ ผู้บริหารช่อง 7 สี มอบเงิน 1,000,000 บาท เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและสนับสนุนฟุตบอลไทย สำหรับนัดชิงชนะเลิศวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยแรงเชียร์ของคนไทยทั้งประเทศที่ติดตามชมการถ่ายทอดสด ส่งผลให้เรตติ้งช่อง 7 สี พุ่งกระฉูดถึง 22.8 คิดเป็นจำนวนผู้ชม 14,900,000 คน
ยอดอัดฉีดพุ่งถึง 34 ล้าน
ขณะที่เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า วันที่ 24 ธ.ค. "บังยี"นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ จะจัดงานที่สนามศุภชลาศัยเพื่อมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับทีมชาติไทยชุดแชมป์อาเซียน
สรุปเงินอัดฉีดแชมป์อาเซียน "ซูซูกิคัพ 2014" ได้จากเงินรางวัลแชมป์ 6,400,000 บาท บริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด 7 ล้านบาท สมาคมฟุตบอลฯ อัดฉีดแชมป์ 5 ล้านบาท และอัดฉีดชัยชนะรวมถึงจำนวนยิงประตู 6,600,000 บาท รวมเป็นเงินเฉพาะจากสมาคม 11,600,000 บาท บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น อัดฉีดเพิ่ม 2 ล้านบาท สยามพารากอน 1 ล้านบาท ช่อง 7 สี 1 ล้านบาท และกองทุนพัฒนากีฬาชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีก 5 ล้านบาท รวมยอดเงินรางวัลอัดฉีดจนถึงขณะนี้ 34 ล้านบาท
"บิ๊กอ๊อด"หนุนเพิ่มค่าเหนื่อย
"บิ๊กอ๊อด"พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ว่า ถือเป็นชัยชนะที่สร้างความสุขความภาคภูมิใจให้กับประชาชนชาวไทยทั้งชาติที่ได้รอคอยมาถึง 12 ปี นับเป็นชัยชนะถูกที่ถูกเวลา และคุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างแท้จริง ด้วยการแสดงออกถึงความชื่นชมยินดี และแสดงความสามัคคีร่วมพลังเชียร์ของชาวไทยในครั้งนี้ นับเป็นจุดหมายที่ยืนยันชัดเจนว่า กีฬาฟุตบอลของไทย เป็นสมบัติที่คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ เป็นที่ชื่นชมยินดีของคนไทยทั้งชาติ เกียรติศักดิ์และนักฟุตบอลทีมนี้จะต้องอยู่กับวงการฟุตบอลไทยไปอีกนาน ทั้งนี้การที่เราจะดำรงความรู้สึกร่วมนี้ได้ยาวนานตลอดไปนั้น สมาคมฟุตบอลฯ ต้องสร้างผลงานอันทรงคุณค่าแห่งความภาคภูมิใจระดับนี้ไปอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนักฟุตบอลไทยที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นแล้ว ผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เป็นผู้ฝึกสอนที่ทรงคุณค่ายิ่งคนหนึ่งในวงการฟุตบอลไทยปัจจุบัน เหนือกว่าเฮดโค้ชชาวต่างชาติซึ่งเคยคุมทีมชาติไทยที่ผ่านมา แล้วก็ผ่านไปโดยไม่ได้สร้างคุณค่าที่ควรทรงจำฝากไว้กับวงการฟุตบอลไทยให้สมกับค่าจ้างแสนแพง คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรต้องเพิ่มค่าตอบแทนกับโค้ชซิโก้ให้คุ้มค่ากับแรงกาย แรงใจ สติปัญญา และความคิดที่ได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาทีมฟุตบอลไทยจนเป็นผลสำเร็จงดงาม
"ตัวผมเองคิดว่าทั้งสมาคมฟุตบอลฯ และรัฐบาล ควรจะเพิ่มงบประมาณและเพิ่มค่าตอบแทนให้กับผู้ฝึกสอนไทย ไม่น้อยกว่าที่จ้างผู้ฝึกสอนต่างชาติ หรืออาจมากกว่าก็ได้ เรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการ เนื่องจากเกียรติศักดิ์และน้องๆ นักฟุตบอลทีมนี้คิดถึงโอกาสที่ทีมชาติไทยจะไปถึงรอบ 32 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย และกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิลกันแล้ว" ประธานโอลิมปิคไทยกล่าว
"บิ๊กตู่"จัดเลี้ยงฉลองทัพช้างศึก
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวก่อนออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ถามถึงการจัดเลี้ยงแสดงความยินดีนักฟุตบอลทีมชาติไทยว่า "เดี๋ยวรอกลับมาก่อน แต่อวยพรไปแล้ว"
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ผมต้องขอขอบคุณจริงๆ โดยเฉพาะสมาคม ฟุตบอลฯ เจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอน ที่สำคัญคือนักกีฬาฟุตบอลทุกคน ผมได้ดูการแข่งขันจนจบ และเอาใจช่วย จะเห็นได้ว่านักกีฬาทุกคนเล่นอย่างเต็มที่จนทำให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้"
ตร.สั่งปรับหนุ่มแก้ผ้าแก้บน
วันเดียวกัน ร.ต.ท.เจริญ สุวรรณฤทธิ์ ร้อยเวรสภ.สรรพยา จ.ชัยนาท เชิญตัวนายกฤตภาส มัชฌิมา อายุ 21 ปี ชื่อในเฟซบุ๊ก "โฉ หัวลาย" อยู่บ้านเลขที่ 236/1 หมู่ที่ 4 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท หลังจากแก้บนด้วยการเปลือยกายถือธงเดินรอบตลาดสรรพยา แล้วนำภาพแชร์ต่อในโลกออนไลน์ และออกข่าวตามสื่อต่างๆ มาสอบสวน ก่อนแจ้งข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล และปรับเงิน 500 บาท
นายกฤตภาสกล่าวว่า ตอนเชียร์ไทยแข่งกับมาเลเซีย ช่วงที่มาเลย์นำอยู่ 3-0 ตนได้บนหลวงพ่อเฟื่อง วัดสรรพยา ถ้าบอลไทยชนะจะแก้ผ้าเดินรอบตลาดสรรพยา เมื่อทีมไทยชนะ ตนก็แก้ผ้าถือธงเดินรอบตลาดตอนนั้นเลย ช่วงประมาณ 21.00 น. โดยเดินไปช้าๆ ใช้มือปิดตรงจุดสงวน ทีแรกก็อายเหมือนกัน แต่เพื่อบอลไทยของเรา ตนทำได้ทุกอย่าง ตนเกิดประเทศไทย รักทีมไทย
"ผมลูกชัยนาท ทำจริง ถูกปรับแล้วรู้สึกสบายใจดี ก็แค่ 500 บาท ถ้าหากไม่แก้บนชีวิตจะโดนอะไรก็ไม่รู้ ต้องแก้ ครั้งหน้าไม่แน่เสีย 500 ก็ยอม หรือ 1,000 ก็ได้ เพื่อทีมไทย ครั้งหน้าให้แก้ผ้าอีกก็ยอม ขอให้ทีมไทยชนะไปเรื่อยๆ ขอให้ไปถึงโอลิมปิก ฟุตบอลโลก ครั้งหน้าอาจแก้ผ้าวิ่งรอบสนามราชมังคลาฯ หลังออกข่าวและแชร์ในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ไปทางไหนมีแต่คนขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป ในเฟซขอเป็นเพื่อนเยอะมาก อยากให้ทีมไทยไปถึงบอลโลก ขอให้ทีมไทยสู้สู้ ให้แก้ผ้าอีกร้อยครั้งก็ยอม" นายกฤตภาสกล่าว
ร.ต.ท.เจริญกล่าวว่า ได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าการกระทำแก้ผ้าเดินรอบตลาด เป็นการกระทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล เป็นความผิดกฎหมายอาญา แต่เป็นความผิดลหุโทษ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้เลย อัตราปรับไม่เกิน 500 บาท แนะนำว่าครั้งต่อไปอย่าทำอีก ขอให้บนเป็นหัวหมู ไก่ หรือตามธรรมเนียมประเพณี อย่าทำลักษณะอย่างนี้เลยเพราะผิดกฎหมาย
"ซิโก้"ซิวรางวัลโค้ชดีเด่น
ช่วงบ่าย "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชฟุตบอลไทย เดินทางไปอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เพื่อรับรางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น ประจำปี 2557 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ พร้อมกันนี้ทีมฟุตบอลชายยังได้รางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่นอีกด้วย
"รางวัลที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศของวงศ์ตระกูล และมาจากน้องๆ นักฟุตบอลทุกคนภายในทีมที่ทำงานหนัก และมั่นใจว่าจะพัฒนานักเตะต่อไปเพราะนักเตะชุดนี้ยังใช้งานได้ถึง 7-8 ปี" กุนซือคนเก่งกล่าว และ ว่า ช่วงเช้าไปถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ร.พ.ศิริราช ได้รับการตอบรับจากแฟนบอลอย่างมาก ทุกคนในทีมทราบว่าพระองค์ทรงเชียร์พวกเราในการแข่งขันด้วย กำลังใจจากพระองค์เป็นที่มาของชัยชนะ อีกทั้งการที่พวกเราได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายถ้วยแชมป์จะเป็นเหมือนการถวายพระโอสถให้พระองค์ด้วย
ขอเวลา 4 ปีเพื่อไปบอลโลก
"ซิโก้" กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่กลับมาประเทศไทยพวกเรายังไม่ได้หยุดพักเลย แต่เมื่อได้เห็นแฟนๆ ที่มารอต้อนรับทั้งที่สนามบิน ตลอดจนถึงสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ทำให้นักเตะทุกคนหายเหนื่อย โดยระยะเวลา 3-4 วันนี้เราจะไปขอบคุณสื่อมวลชนให้ครบทุกสำนัก ที่นำเสนอข่าวฟุตบอลทีมชาติไทยตลอดมา สำหรับนายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม ซึ่งอาจจะลาตำแหน่งไปนั้น ที่ผ่านมาทุ่มเทกับทีมอย่างมาก แม้ว่าจะมีภาระเยอะอยู่แล้ว เพราะมีลูกน้องถึง 300-400 คนต้องดูแล หลังจากนี้คงกลับไปเคลียร์งาน ส่วนอนาคตคงต้องขึ้นกับสมาคม
"ตอนนี้ทีมฟุตบอลได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก จึงอยากให้นักเตะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับสื่อมวลชน แต่ทั้งนี้ก็ขออย่าให้ลืมการฝึกซ้อมด้วย สำหรับโปรแกรมการแข่งขันปีหน้า คือการไปป้องกันแชมป์ซีเกมส์ที่สิงคโปร์ รวมถึงโอลิมปิกรอบคัดเลือก และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โดยฟุตบอลโลกนั้นคงต้องขอเวลาพัฒนาอีก 4-5 ปีให้ทีมฟุตบอลชุดนี้แข็งแกร่งขึ้น โดยเชื่อว่าในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้านี้ทีมช้างศึกทีมชาติไทยจะสู้ได้ทุกทีมในโลก" ซิโก้กล่าว
ด้าน "บังยี"นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า ในส่วนของทีมชาติทุกชุดนั้นอยากให้ "ซิโก้" คุมทุกชุด ตั้งแต่ซีเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ส่วนตัวมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าไทยมีโอกาส