- Details
- Category: กีฬา
- Published: Monday, 06 October 2014 15:33
- Hits: 5370
วันที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8713 ข่าวสดรายวัน
เหตุปั่นเก่ง อะแมนด้าขี่หลบขี้ควาย เพื่อนอุดรฯโชว์รูปยัน ฉายแววตั้งแต่ยังเด็กๆ'ฮีโร่สาว'ควงพ่อเที่ยว แม่ค้าแห่ขอถ่ายภาพคู่
ฉายแวว - ภาพถ่าย อะแมนด้า คาร์ ตอนเด็กขณะ ขี่จักรยานหลบกอง ขี้ควาย บนถนนบ้านหนองเม็ก จ.อุดรธานี เพื่อนสนิทวัยเด็กเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ อะแมนด้ากลายเป็นฮีโร่นักปั่นจักรยาน |
ฮีโร่ "อะแมนด้า" ฉายแววขี่จักรยานเก่งตั้งแต่เด็ก เพื่อนที่อุดรฯ โชว์ภาพยืนยันขณะแข่งกันปั่นหลบกองขี้ควาย เอาชนะเพื่อนทุกคน อีกทั้งยังชอบ "ทอดแห"ได้ปลาก็เอามาปล่อยข้างบ้าน ส่วนน้าๆ ต่างจัดเตรียมสถานที่กันขะมักเขม้น แห่ซื้อ "บักสีดา" ฝรั่งผลไม้โปรดอะแมนด้า จนหมดหมู่บ้าน ต้องไปซื้อในตัวอำเภอแทน ขณะที่อะแมนด้ากับพ่อชาวสหรัฐ ไปไหว้สักการะ "พระแก้วมรกต" ชมพิพิธภัณฑ์ ให้อาหารปลาทำบุญ เที่ยวชมวัดโพธิ์ บรรดาแฟนๆ ชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างมาขอถ่ายรูปด้วยคึกคัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่โรงแรมอินเตอร์ เพลส กรุงเทพฯ "อะแมนด้า คาร์" ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ฮีโร่เหรียญทองจักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้ง 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมด้วยนายดาโรล คาร์ พ่อ เดินทางโดยรถตู้ของสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ไปเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนนางละมุล คาร์ แม่พักอยู่ในห้องพักโรงแรม เนื่องจากเจ็บหัวเข่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่ออะแมนด้าและพ่อเดินทางไปถึงวัดพระแก้ว ทันทีที่ลง จากรถมีประชาชนที่สัญจรไปมาจำหน้าได้ จึงกรูเข้าไปทักทายรุมล้อมและขอถ่ายรูปด้วย จนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวชมในบริเวณใกล้เคียงหันมาให้ความสนใจ และขอถ่ายรูปคู่กับฮีโร่สาวลูกครึ่งด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ อะแมนด้าเองก็ยิ้มแย้ม ให้จับมือและถ่ายรูปกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง
จากนั้นอะแมนด้าและพ่อเดินเข้าไปกราบสักการะพระแก้วมรกต ก่อนไป ลงเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ เรือพระที่นั่ง ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง ก่อนนั่งเรือไปให้อาหารปลาเป็น การทำบุญ แล้วจึงกลับมาขึ้นฝั่งเดินทางไป ยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ สักการะพระพุทธรูปและเดินชมสถานที่ต่างๆ รอบวัด ระหว่างนั้นมีแม่ค้าและพ่อค้าในบริเวณดังกล่าว นำหนังสือพิมพ์ข่าวสดที่รายงานข่าวและภาพในวัยเด็ก ของฮีโร่ลูกครึ่งมาให้ดูพร้อมทั้งทักทาย ปรากฏว่าอะแมนด้าฉีกยิ้มด้วยความเขินอาย ก่อนหัวเราะชอบใจและขอบคุณแฟนๆ ที่แห่มาขอถ่ายรูป และออกจากวัดไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านลิขิตไก่ย่าง ข้างสนามมวยราชดำเนิน ถนนราชดำเนินนอก
สำหรับโปรแกรมของอะแมนด้า ในวันจันทร์ที่ 6 ต.ค.นี้ เดินทางไปร่วมรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ช่วงบ่ายเวลา 13.30 น. ร่วมคณะกับ พล.ท.เดชา เหมกระศรี หรือเสธ.หมึก เลขาธิการสมาคมจักรยานฯ ไปเข้าพบ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ส่วนความเคลื่อนไหวและบรรยากาศที่บ้านหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รอต้อนรับอะแมนด้าที่จะเดินทางกลับมาในวันที่ 8 ต.ค.นั้น กลุ่มญาติพี่น้อง ของอะแมนด้ายังคงเก็บกวาด และจัดเตรียมสถานที่บริเวณบ้านเลขที่ 102 หมู่ 15 บ้านหนองเม็ก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาเพื่อนบ้านทั้งใกล้เคียงและในต่างอำเภอแวะมาทักทายสอบถามว่าอะแมนด้าจะมาถึงบ้านหนองเม็กวันไหนกันอย่างไม่ขาดสาย จึงต้องจัดเตรียมอาหารส้มตำ ไก่ย่าง และน้ำเย็น ไว้คอยต้อนรับแขกเหรื่อ รวมถึงจัดหาบักสีดา หรือฝรั่ง ผลไม้โปรดของ อะแมนด้าด้วย
นางชลธิชา พึ่งโพธิ์ น้าสาวของอะแมนด้า หัวเรี่ยวหัวแรงจัดเตรียมสถานที่ต้อนรับกล่าวว่า เพิ่งกลับจากตัวเมืองหลังไปทำธุระให้นางละมุล แม่ของอะแมนด้า แล้วก็รีบกลับมาต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านไม่ขาดสาย แม่อะแมนด้าดีใจมากที่เห็นหนังสือพิมพ์ข่าวสดลงภาพในวัยเด็กของลูกสาว และข่าวที่ญาติๆ ทุกคนให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราได้อย่างถูกต้อง ไม่บิดเบือน ไม่เสริมเติมแต่ง ดีใจมาก
น้าสาวของอะแมนด้ากล่าวต่อว่า โดยเฉพาะนางสุ่น น้องสาวของแม่อะแมนด้า ที่ให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตของนางละมุล ก่อนจะแต่งงานกับพ่อของอะแมนด้า และคลอดอะแมนด้านั้น เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ซึ่งเรื่องจริงอาจจะเศร้าและลำบากมากกว่านี้อีกด้วยซ้ำ กว่าจะมีวันนี้ต้องต่อสู้มามาก และภูมิใจ มากที่คนไทยทั้งประเทศรักอะแมนด้า ล่าสุดไปหาซื้อบักสีดา หรือฝรั่งในตลาดหมู่บ้าน ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยง ขายดีมากเมื่อรู้ว่าอะแมนด้าชอบกินบักสีดา จนต้องไปหาซื้อในตัวอำเภอมาไว้ต้อนรับแขก
ฮีโร่"อะแมนด้า คาร์"ควงคุณพ่อไหว้พระ |
ขณะที่ น.ส.นงนุช หรือพลอย วรรณเลิศ อายุ 24 ปี แม่ค้าผลไม้ตลาดบางพลี จ.สมุทร ปราการ เพื่อนในวัยเด็กของอะแมนด้า และเดินทางกลับมาบ้านหนองเม็ก รอต้อนรับการกลับมาของเพื่อนสาว ร่วมกล่าวว่าเล่นด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก ตอนที่แม่พา อะแมนด้ากลับมาบ้านหนองเม็ก เป็นคู่แข่งของอะแมนด้ามาตั้งแต่แบเบาะก็ว่าได้ ตอน 2-3 ขวบ อะแมนท้าแข่งปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านไปจนถึงทุ่งนา ใครถึงทุ่งนาก่อนเป็นฝ่ายชนะ และอะแมนด้าแพ้ แต่อะแมนด้าไม่ยอม ให้แข่งใหม่จนกว่าอะแมนด้าจะชนะ บางครั้งซิ่งจักรยานไปตกทุ่งนา แล้วก็พากันกลับบ้านกับเพื่อนๆ 8-9 คน ตอนนั้นสนิทกันมาก
"รู้ข่าวว่าอะแมนด้าจะกลับมาอุดรฯ หนูก็รีบเดินทางกลับมารอต้อนรับเพื่อนเก่า ซึ่งในวัยเด็กช่วงที่ปั่นจักรยานแข่งขันกันนั้นในหมู่บ้านจะมีกองขี้วัว ขี้ควายเต็มถนน เพื่อนๆ หลบไม่ได้ ก็จะปั่นทับกองขี้ควายจนเปรอะเปื้อนกันไปหมด แต่อะแมนด้าฉายแววตั้งแต่เด็ก ปั่นเก่งหลบกองขี้ควายได้ตลอด และ ปั่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนชนะเพื่อนๆ ทุกคน" น.ส.นงนุชกล่าวพร้อมทั้งโชว์ภาพอะแมนด้าในวัยเด็กปั่นจักรยานหลบกองขี้ควาย
เพื่อนในวัยเด็กของอะแมนด้ากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังไปตกปลาด้วยคันเบ็ดไม้ไผ่ วันไหนไม่ได้ปลา อะแมนด้าจะกลับมาเอาแหไปทอดจับปลา อะแมนด้าทอดแหเก่งมาก ได้ปลาก็เอามาปล่อยในบ่อข้างบ้าน นอกนั้นก็มีเล่นซ่อนแอบ หรือเล่นบักลี้ คนอีสานชอบเล่นมาก ไปซ่อนตามต้นมะเขือจนถูกหนามมะเขือทิ่ม
"ที่หนักสุดๆ คืออะแมนด้าชอบความท้าทายมาก ให้พวกเราพากันไปป่าช้าใน ตอนดึก ไปแถวที่เผาศพในวัดป่าท้ายหมู่บ้าน เพื่ออยากเห็นผีไทย โดยเฉพาะผีเปรต นี่ถ้าหากบอกอะแมนด้าว่าที่ป่าคำชะโนด ผีดุ อะแมนด้าต้องบังคับให้พาไปแน่ๆ แต่เพื่อนๆ ไม่มีใครกล้าพาไป เพราะกลัวผีเปรต ผีคำชะโนด ส่วนอาหารเตรียมไว้มีหนังวัว หนังควายตากแห้ง เอามาเผาแล้วทุบกินกับข้าวเหนียวอร่อยมาก อะแมนด้าชอบ เตรียมไว้แล้ว" น.ส.นงนุชกล่าว
ขณะเดียวกัน นายธนดร พุทธรักษ์ นายกสมาคมกีฬา จ.อุดรธานี และนายเวียงชัย แก้วพินิจ นายอำเภอหนองหาน ร่วมหารือกันถึงเรื่องการจัดงานต้อนรับอะแมนด้า และเปิดเผยว่านายสุทธินันท์ บุญมี รองผวจ.อุดรธานี นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 6 ต.ค. โดยมีรูปแบบต้อนรับไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแห่รอบเมือง หรือไม่อาจให้อะแมนด้าปั่นจักรยานนำหน้าขบวนจักรยานอีก 500 คัน ไปรอบเมือง ก่อนจะเดินทางไปที่บ้านหนองเม็ก อ.หนองหาน ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีอีสาน ต่อด้วยแข่งขันตำส้มตำ และรำวงย้อนยุค
วันเดียวกัน นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รองผวจ.แพร่ รรท.ผวจ.แพร่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการเตรียมการต้อนรับ น.ส.รุ่งทิพย์ ตะนะขิง ชาว จ.แพร่ นักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ที่ คว้าเหรียญทองในประเภททีมชุดนั้น มีงานต้อนรับในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 16.00 น. มีขบวนต้อนรับเริ่มจากตลาดแพร่ปรีดาเคลื่อนไปตามถนนเจริญเมืองเข้าสู่ศาลากลางจังหวัด ทางจังหวัดจะมอบเงินจากมูลนิธิกองทุนพัฒนากีฬาจังหวัดแพร่ พร้อมกล่าวแสดงความยินดี มอบดอกไม้ และของที่ระลึกพร้อมเงินรางวัล เพื่อขอบคุณที่ไปสร้างชื่อเสียงให้จ.แพร่ และประเทศไทย
สำหรับประวัติ น.ส.รุ่งทิพย์ ตะนะขิง เกิดวันที่ 26 ก.ย. 2533 ปัจจุบันอายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 2 บ้านร่องถ่าน ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ เป็นลูกของนายอำนวย และนางตรัยรัตน์ ตะนะขิง มีอาชีพค้าขาย จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดห้วยหม้าย ต.ห้วยหม้าย จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนกีฬา จ.สุพรรณบุรี และกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วิชาเอกพลศึกษา